วิถีตลาดรถยนต์
ชะลอตัวแต่ภาพโดยรวมยังสดใส
[table]
เปรียบเทียบยอดจำหน่ายรถยนต์ประจำเดือนพฤษภาคม 2017/2016
ตลาดโดยรวม,+0.6 % รถยนต์นั่ง,+1.1 % รถกิจกรรมกลางแจ้ง (SUV),+8.3 % รถอเนกประสงค์ (MPV),+31.2 % กระบะขับเคลื่อน 2 ล้อ,-6.0 % กระบะขับเคลื่อน 4 ล้อ,+17.2 % อื่นๆ,+11.0 %เปรียบเทียบยอดจำหน่ายรถยนต์ประจำเดือนมกราคม-พฤษภาคม 2017/2016
ตลาดโดยรวม,+12.4 % รถยนต์นั่ง,+24.3 % รถกิจกรรมกลางแจ้ง (SUV),-5.7 % รถอเนกประสงค์ (MPV),+12.8 % กระบะขับเคลื่อน 2 ล้อ,+8.5 % กระบะขับเคลื่อน 4 ล้อ,+22.7 % อื่นๆ,+8.2 % [/table] งานแสดงรถยนต์เพื่อกระตุ้นยอดจำหน่ายรถยนต์ภายในประเทศ งานแรกของปี 2560 ผ่านพ้นไปแล้ว ซึ่งโดยรวมถือว่าประสบความสำเร็จตามที่ผู้จัดงานตั้งเป้าไว้ ปี 2560 ยังมีงานกระตุ้นยอดจำหน่ายรถยนต์ให้ผู้ขายรถยนต์ได้โยกย้ายโชว์รูมมารวมไว้ในสถานที่เดียวกัน ให้ผู้ต้องการใช้รถได้มาเดินเลือกชอพตามอัธยาศัยอยู่อีก 3 งาน หนึ่งอยู่ในช่วงปลายเดือนมิถุนายนถึงต้นเดือนกรกฎาคม อีกหนึ่งงานอยู่ในช่วงเดือนสิงหาคม และอีกหนึ่งงานใหญ่ส่งท้ายปี โดย 2 งานแรกเป็นเวทีสำหรับการค้าการขายโดยตรง ส่วนงานที่ 3 เป็นทั้งเวทีการค้าขายเต็มรูปแบบ และเวทีสำหรับการเปิดตัวรถใหม่โมเดลปี 2561 และนวัตกรรมทางเทคโนโลยียานยนต์ ขณะที่ภาพโดยรวมของตัวเลขยอดจำหน่ายรถยนต์ใหม่ในบ้านเราในปี 2560 ผ่านไป 5 เดือน เติบโตมากขึ้นกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปี 2559 ถึง 12.4 % เพิ่มขึ้นกว่า 36,000 คัน ซึ่งหากคำนวณคร่าวๆ กับประมาณการยอดจำหน่ายรวมทั้งปี 800,000 คันขึ้น เมื่อเฉลี่ยตัวเลขยอดจำหน่ายที่ผ่านมา 5 เดือน กับเวลาที่เหลืออยู่อีก 7 เดือน บวกกับการจัดพโรโมชันของบริษัทรถยนต์ และการจัดงานกระตุ้นยอดจำหน่าย รวมถึงรถยนต์รุ่นใหม่ที่กำลังจะเข้าสู่ตลาดในช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งบางรุ่นคาดว่าจะเป็นรถยนต์ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก น่าจะไม่ใช่เรื่องยาก แต่รถยนต์ยี่ห้อไหนจะได้รับความนิยมจากมวลมหาประชาชนผู้ใช้รถมากน้อยเพียงไร ยังต้องตามลุ้นกันต่อไป เดือนพฤษภาคมทุกปี เป็นเดือนที่การจำหน่ายรถยนต์ใหม่จะชะลอตัวลงบ้างจากหลากหลายสาเหตุ เช่น เป็นเดือนที่ผู้บริโภคซึ่งมีลูกหลานอยู่ในวัยเรียนจะมีภาระเพิ่มขึ้นกว่าปกติ ในเรื่องของค่าใช้จ่ายในการศึกษาเล่าเรียน จากการเปิดภาคเรียนปีการศึกษาใหม่, สภาพเศรษฐกิจโดยรวมที่ยังไม่ฟื้นตัวเท่าไร และการเริ่มต้นเข้าสู่ช่วงฤดูฝน ที่ผู้ประกอบอาชีพเกษตรกรรมจะเริ่มปรับสภาพพื้นที่เรือกสวนไร่นา ให้เหมาะสมสำหรับการเพาะปลูกพืชพันธุ์ธัญญาหารรอบใหม่ โดยเฉพาะการปลูกข้าวนาปี ซึ่งต้องมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินการมากพอสมควรด้วยเช่นกัน หลากหลายปัจจัยนี้ทำให้การซื้อรถใหม่ของบางภาคส่วนต้องชะลอ หรือเลื่อนออกไปก่อน อย่างไรก็ตามเมื่อเทียบกับเดือนเมษายนที่เพิ่งจะผ่านพ้นไปก็ยังเป็นตัวเลขยอดจำหน่ายที่ปรับตัวสูงขึ้นอยู่ดีโดยเฉพาะในส่วนของรถยนต์นั่ง ขณะที่รถยนต์เพื่อการพาณิชย์มีการปรับตัวลดลงบ้างเล็กน้อย โดยยอดจำหน่ายรถยนต์เดือนพฤษภาคม ปี 2560 เพิ่มขึ้นจากปี 2559 เพียงเล็กน้อยเท่านั้น โดยทั้งหมดอยู่ที่ 66,425 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤษภาคม ปี 2559 เพียง 0.6 % เท่านั้น 5 เดือนที่ผ่านมาของปี 2560 ตัวเลขยอดจำหน่ายรถยนต์ใหม่รวมอยู่ที่ 340.182 คัน เพิ่มขึ้น 12.4 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2559 ทั้งนี้ผู้นำตลาดที่มีตัวเลขยอดจำหน่ายรถยนต์ใหม่สูงสุด 5 อันดับแรก ทั้งยอดจำหน่ายเดือนพฤษภาคม และรวม 5 เดือน ประกอบด้วย 5 บิกบแรนด์ โตโยตา อีซูซุ ฮอนดา มิตซูบิชิ และนิสสัน เดือนพฤษภาคม โตโยตา จำหน่ายรถยนต์ทุกรุ่นทุกประเภทได้ 17,884 คัน คิดเป็น 26.9 % ของยอดจำหน่ายทั้งตลาด ขณะที่รวม 5 เดือน ตัวเลขยอดจำหน่ายอยู่ที่ 94,311 คัน เท่ากับ 27.7 % ของยอดจำหน่ายทั้งตลาด ครองตำแหน่งบแรนด์รถยนต์มหาชนที่ได้รับความนิยมสูงสุด อันดับ 2 อีซูซุ เดือนพฤษภาคมจำหน่ายได้ 12,156 คัน เท่ากับ 18.3 % ของตัวเลขยอดจำหน่ายทั้งตลาด 5 เดือนผ่านไปตัวเลขยอดจำหน่ายอยู่ที่ 65,970 คัน เท่ากับ 19.4 % ของยอดจำหน่ายทั้งหมด อันดับ 3 ฮอนดา เดือนพฤษภาคม 10,011 คัน เท่ากับ 15.1 % ของทั้งตลาด รวม 5 เดือน 48,550 คัน เท่ากับ 14.3 % ของทั้งตลาด อันดับ 4 มิตซูบิชิ เดือนพฤษภาคมจำหน่ายได้ 5,158 คัน คิดเป็น 7.8 % ของตัวเลขรถใหม่ทั้งตลาด 5 เดือนรวมกันอยู่ที่ 26,977 คัน เท่ากับ 7.9 % ของตัวเลขยอดจำหน่ายทั้งหมด และอันดับที่ 5 นิสสัน เดือนพฤษภาคมจำหน่ายได้ 4,748 คัน เท่ากับ 7.1 % ของทั้งตลาด 5 เดือนจำหน่ายแล้ว 23,226 คัน คิดเป็น 6.8 % ของยอดจำหน่ายทั้งตลาดในช่วงเวลา 5 เดือนที่ผ่านไป รถพิคอัพ 1 ตัน ขับเคลื่อน 2 ล้อ เดือนพฤษภาคม เป็นเดือนแรกที่พิคอัพน้องใหม่จากเมืองจีนยี่ห้อ โฟตอน รุ่น ทุนแลนด์ ที่ว่ากันว่าอัดแน่นด้วยเทคโนโลยีระดับอินเตอร์ เริ่มกิจกรรมการตลาดอย่างจริงจัง ซึ่งอนาคตจะสดใสซาบซ่าเท่าไร ผู้ใช้รถในเมืองไทยคงมีคำตอบให้จากตัวเลขยอดจำหน่ายที่จะแสดงออกมาให้เห็นในอีกไม่ช้าไม่นาน ตลาดนี้มียอดจำหน่ายรวมกันทั้งสิ้น 25,488 คัน ในเดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นตัวเลขที่ปรับตัวลดลง 6.0 % เมื่อเทียบกับเดือนพฤษภาคมปีที่ผ่านมา แต่เมื่อรวมตัวเลข 5 เดือนยังมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นอยู่ 8.5 % จากยอดจำหน่ายรวม 134,446 คัน ตลาดนี้เมื่อผ่าน 5 เดือน อีซูซุ ยังคงขายดีเป็นอันดับ 1 โดยเดือนพฤษภาคมจำหน่ายได้ 9,375 คัน เท่ากับ 36.8 % ของยอดจำหน่ายรวม ขณะที่ 5 เดือนผ่านไป มียอดอยู่ที่ 52,462 คัน คิดเป็น 39.0 % ของยอดจำหน่ายทั้งตลาด ส่วน โตโยตา อยู่ในอันดับที่ 2 เดือนพฤษภาคมจำหน่ายได้อีก 7,639 คัน เท่ากับ 30.0 % ของยอดจำหน่ายทั้งหมด รวม 5 เดือนอยู่ที่ 36,615 คัน เท่ากับ 27.2 % ของทั้งตลาด เบอร์ 3 ของตลาดนี้เป็น ฟอร์ด เดือนพฤษภาคมจำหน่ายได้ 2,931 คัน เท่ากับ 11.5 % รวม 5 เดือนจำหน่ายแล้ว 14,908 คัน เท่ากับ 11.1 % ของตัวเลขยอดจำหน่ายรวมทั้งตลาด อันดับ 4 มิตซูบิชิ 2,228 คัน ส่วนแบ่งตลาด 8.7 % สำหรับเดือนพฤษภาคม และ 11,762 คัน ส่วนแบ่งตลาด 8.7 % เมื่อ 5 เดือนแรกของปีผ่านไป อันดับ 5 นิสสัน เดือนพฤษภาคมจำหน่ายได้ 1,505 คัน ส่วนแบ่งตลาด 5.9 % และยอดสะสมอยู่ที่ 7,399 คัน ส่วนแบ่งตลาด 5.5 % พิคอัพ 1 ตัน ขับเคลื่อน 4 ล้อ เดือนพฤษภาคม ยอดจำหน่ายรวมอยู่ที่ 2,509 คัน เพิ่มขึ้น 17.2 % จากพฤษภาคม ปี 2559 ยอดสะสม 5 เดือนทั้งตลาดอยู่ที่ 13,916 คัน เพิ่มขึ้น 22.7 % โตโยตา อีซูซุ ฟอร์ด มิตซูบิชิ และนิสสัน เป็นเจ้าของความนิยมสูงสุดทั้งในเดือนพฤษภาคม และเมื่อรวมตัวเลขยอดจำหน่าย 5 เดือน โดยตัวเลขยอดจำหน่าย และส่วนแบ่งการตลาดไล่เรียงจากอันดับ 1 ถึง 5 ประกอบด้วย โตโยตา 1,213 คัน ส่วนแบ่งตลาด 48.3 % อีซูซุ 536 คัน ส่วนแบ่งตลาด 21.4 % ฟอร์ด 401 คัน ส่วนแบ่งตลาด 16.0 % มิตซูบิชิ 292 คัน ส่วนแบ่งตลาด 11.6 % และนิสสัน 40 คัน ส่วนแบ่งตลาด 1.6 % ส่วนตัวเลขยอดจำหน่ายสะสมตั้งแต่ต้นปีมา โตโยตา 7,488 คัน ส่วนแบ่งตลาด 53.8 % อีซูซุ 2,792 คัน ส่วนแบ่งตลาด 20.1 % ฟอร์ด 1,980 คัน ส่วนแบ่งตลาด 14.2 % มิตซูบิชิ 1,134 คัน ส่วนแบ่งตลาด 8.1 % และนิสสัน 331 คัน ส่วนแบ่งตลาด 2.4 % รถเอสยูวี ภาพรวมการซื้อขายเริ่มเพิ่มปริมาณมากขึ้น เดือนพฤษภาคมจำหน่ายได้รวมทั้งสิ้น 8,697 คัน เพิ่มขึ้นจากพฤษภาคมปีก่อน 8.3 % แต่เมื่อรวมยอดจำหน่าย 5 เดือน ยังเป็นตัวเลขยอดจำหน่ายที่ติดลบอยู่ มียอดรวม 40,420 คัน ลดลง 5.7 % เฉพาะเดือนพฤษภาคม เอสยูวีของ ฮอนดา ได้รับความนิยมมาเป็นอันดับ 1 โดยจำหน่ายได้ 2,491 คัน ส่วนแบ่งตลาดได้ไป 28.6 % ตามด้วย โตโยตา 1,548 คัน ส่วนแบ่งตลาด 17.8 % มิตซูบิชิ 1,239 คัน ส่วนแบ่งตลาด 14.2 % อีซูซุ 1,153 คัน ส่วนแบ่งตลาด 13.3 % และฟอร์ด 855 คัน ส่วนแบ่งตลาด 9.8 % แต่รวม 5 เดือนเป็น โตโยตา ที่ยึดเบอร์ 1 ของตลาดนี้อยู่ โดยจำหน่ายแล้ว 9,190 คัน เท่ากับ 22.7 % ของยอดจำหน่ายทั้งตลาด ฮอนดา 8,819 คัน ส่วนแบ่งตลาด 21.8 % มิตซูบิชิ 6,065 คัน ส่วนแบ่งตลาด 15.0 % อีซูซุ 5,135 คัน ส่วนแบ่งตลาด 12.7 % และฟอร์ด 3,827 คัน ส่วนแบ่งตลาด 9.5 % รถเอมพีวี เดือนพฤษภาคมมียอดจำหน่ายรวมที่ 1,730 คัน เพิ่มขึ้น 31.2 % จำหน่ายมากสุดเป็น โตโยตา 787 คัน ส่วนแบ่งตลาด 45.5 % ตามด้วย ฮอนดา 771 คัน ส่วนแบ่ง 44.6 % เกีย 82 คัน ส่วนแบ่ง 4.7 % ซูซูกิ 62 คัน ส่วนแบ่ง 3.6 % และฮันเด 23 คัน ส่วนแบ่ง 1.3 % รวม 5 เดือนที่ผ่านมาทั้งตลาดจำหน่ายแล้ว 8,487 คัน เพิ่มขึ้น 12.8 % อันดับ 1 ยังเป็น โตโยตา 4,194 คัน ส่วนแบ่ง 49.4 % อันดับ 2 ฮอนดา 3,425 คัน ส่วนแบ่ง 40.4 % อันดับ 3 ซูซูกิ 386 คัน ส่วนแบ่ง 4.5 % อันดับ 4 เกีย 311 คัน ส่วนแบ่ง 3.7 % และอันดับ 5 ฮันเด 117 คัน ส่วนแบ่ง 1.4 % รถยนต์ประเภทอื่นๆ ยกเว้นรถยนต์นั่ง เดือนพฤษภาคมมียอดจำหน่าย 3,124 คัน เพิ่มขึ้น 11.0 % ยอดรวม 5 เดือน 16,464 คัน เพิ่มขึ้น 8.2 %เรื่องโดย : ขุนสัญจร
นิตยสาร 417 ฉบับเดือน กันยายน ปี 2560
คอลัมน์ Online : วิถีตลาดรถยนต์
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/186044