มาตรวัดตลาดรถ
แปดแสนแน่ๆ
[table]
เปรียบเทียบยอดจำหน่ายรถยนต์ประจำเดือนกันยายน 2017/2016
ตลาดโดยรวม,+21.9 % รถยนต์นั่ง,+14.3 % รถกิจกรรมกลางแจ้ง (SUV),+20.1 % รถอเนกประสงค์ (MPV),+28.9 % กระบะขับเคลื่อน 2 ล้อ,+25.5 % กระบะขับเคลื่อน 4 ล้อ,+27.4 % อื่นๆ,+49.5 %เปรียบเทียบยอดจำหน่ายรถยนต์ประจำเดือนมกราคม-กันยายน 2017/2016
ตลาดโดยรวม,+11.5 % รถยนต์นั่ง,+17.3 % รถกิจกรรมกลางแจ้ง (SUV),+0.3 % รถอเนกประสงค์ (MPV),+23.7 % กระบะขับเคลื่อน 2 ล้อ,+8.8 % กระบะขับเคลื่อน 4 ล้อ,+26.0 % อื่นๆ,+7.3 % [/table] กระทรวงพาณิชย์รายงานยอดการส่งออกสินค้าไทยในเดือนกันยายน 2560 ปรากฏมีมูลค่าถึง 21,812.3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือขยายตัว 12.22 % นับเป็นสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ถือเป็นการเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7 ส่วนการนำเข้ามีมูลค่า 18,454.1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือเพิ่มขึ้น 9.73 % จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้ประเทศไทยเกินดุลการค้ามูลค่า 3,358.2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ส่วนการส่งออกรวม 9 เดือนของปี 2560 มูลค่า 175,435.2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือเพิ่มขึ้น 9.3 % เป็นการขยายตัวสูงสุดในรอบ 6 ปี และการนำเข้ามีมูลค่า 163,203.7 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือเพิ่มขึ้น 14.75 % โดยเกินดุลการค้ามูลค่า 12,231.4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขณะที่ สินค้ากลุ่มยานพาหนะอุปกรณ์และส่วนประกอบ ซึ่งมีน้ำหนักคิดเป็นสัดส่วนถึง 14.3 % ของการส่งออก สามารถพลิกกลับมาเป็นบวก 4.9 % จากเดือนก่อนที่ติดลบ 2.4 % เป็นผลจากยอดส่งออกกลุ่มรถยนต์และส่วนประกอบขยายตัว 2.8 % จากเดือนก่อนที่ติดลบ ส่งผลให้ภาพรวมการส่งออกสินค้าในกลุ่มนี้ขยายตัว 1.6 % ในช่วง 9 เดือนแรก นั่นเป็นข่าวดีแรกที่ส่งผลต่อยอดการขายรถยนต์ แม้ว่าจะไม่ใช่ยอดการขายในประเทศโดยตรง แต่ก็ช่วยเพิ่มมูลค่ากับผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมของบ้านเรา รวมทั้งยอดการขายรถยนต์ในเดือนกันยายน ที่ผ่านมา ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่ง ที่บ่งชี้ว่า เศรษฐกิจเริ่มดีขึ้นจริง ด้วยตัวเลขการขายเดือนเดียว เติบโต 21.9 % ขายได้ 77,592 คัน ขณะที่ยอดรวม 9 เดือน ขาย 620,711 คัน เพิ่มขึ้น 11.5 % ขณะเดียวกัน กระทรวงพาณิชย์ก็คาดการสำหรับแนวโน้มการส่งออกในช่วงที่เหลืออีก 3 เดือนของปีนี้ จะยังคงขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง หากส่งออกได้เฉลี่ยเดือนละ 19,061 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จะทำให้การส่งออกโดยรวมทั้งปีขยายตัวได้ถึง 8 % ขึ้นไป หากสามารถทำได้มากกว่านั้นมีโอกาสขยายตัวถึง 8.5 % หรือสูงกว่าเป้าหมายที่วางไว้ 7 % ซึ่งปรับขึ้นจากเป้าหมายรอบแรกที่ 5 % "ปัจจัยหลักเป็นผลจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก การค้าโลก เศรษฐกิจคู่ค้าสำคัญ การฟื้นตัวของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ ราคาน้ำมันมีเสถียรภาพ ซึ่งส่งผลดีต่อสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน ทางกระทรวงพาณิชย์ก็ได้เพิ่มกิจกรรมผลักดันการส่งออกในช่วง 3 เดือนสุดท้ายอีกกว่า 35 กิจกรรม เช่น การจัดคณะผู้นำเข้าข้าวจากต่างประเทศเข้าเจรจาจับคู่ธุรกิจในเดือนพฤศจิกายน คาดว่าจะมีคำสั่งซื้อทันทีภายในงาน 600 ล้านบาท" แหล่งข่าวกล่าว ส่วนปัจจัยอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทที่แข็งค่าในช่วงที่ผ่านมา หรือแข็งค่าขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 33 บาท/เหรียญสหรัฐฯ นั้น "ได้เริ่มคลี่คลายลงแล้ว" จนประเมินว่า ไม่น่าจะมีผลกระทบต่อการส่งออกในปีนี้ ประกอบกับผู้ส่งออกได้รับคำสั่งซื้อและกำหนดราคาล่วงหน้าไว้หมดแล้วจนถึงสิ้นปี ก็ได้โล่งอกกันแน่นอนแล้ว สำหรับสภาวะเศรษฐกิจของบ้านเราในปีนี้ อันส่งผลมาถึงยอดการขายรถยนต์ ที่ยังเป็นดาวรุ่งพุ่งแรง เติบโตมาโดยตลอดนับแต่ต้นปีเป็นต้นมา ในส่วนปลายปี ก็น่าจะได้แรงผลักดันจากงาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 34" ช่วยผลักดันยอดการขายในช่วงสิ้นปีเหมือนเช่นเคย ขณะที่รายงานข่าวจากธนาคารแห่งประเทศไทย ก็ประกาศจะทบทวนประมาณการเศรษฐกิจและคาดการณ์ส่งออกใหม่ ในเดือนธันวาคมนี้ หลังจากเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 3/2560 มีแนวโน้มขยายตัวได้ในระดับ 4 % เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2/2560 ที่ 3.7 % และคาดว่าช่วงครึ่งปีหลัง เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้ไม่ต่ำกว่า 4.1 % เพื่อให้ทั้งปีขยายตัวได้ตามเป้าหมายเดิมที่ 3.8 % ส่วนทั้งปีจะขยายตัวได้ถึง 4 % หรือไม่ จะต้องติดตามภาวะเศรษฐกิจไทยในช่วง 2 เดือนที่เหลือ แต่จากการติดตามมีแนวโน้มขยายตัวดีขึ้น ช่วง 2 เดือนที่เหลือของปีนี้ แนวโน้มเศรษฐกิจดูดีขึ้นชัดเจนเมื่อเทียบกับปีก่อนเพราะฐานปีก่อนต่ำ ส่วนถ้าเทียบการขยายตัวจากเดือนก่อนก็มีแนวโน้มที่ดีขึ้นเรื่อยๆ คาดว่าตัวเลขที่ออกมาน่าจะโอเค จากคาดการณ์จีดีพีปีนี้ที่ 3.8 % ไม่น่าเป็นห่วงแล้ว ซึ่งหากตัวเลข 2 เดือนสุดท้ายออกมาดีกว่าที่คาด โอกาสที่จีดีพีจะเกินกว่านั้นก็มี ก็ได้แต่แสดงความยินดีกับค่ายรถยนต์เอาไว้ล่วงหน้า เพราะช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี ในทุกครั้งที่ผ่านมา เป็นช่วงที่ผู้บริโภคจะตัดสินใจในการเลือกซื้อหารถยนต์เอาไว้ใช้งาน หรือเปลี่ยนรถยนต์คันเก่า ไปใช้รถยนต์คันใหม่ ไม่ว่าจะเพราะแคมเปญที่แต่ละค่ายประโคมกันมหาศาล แต่เพราะน่าจะต้องเตรียมคอยรับราคารถยนต์ที่จะปรับปรุงใหม่ ตามการเก็บภาษีสรรพสามิตแบบใหม่ ที่ค่ายรถยนต์น่าจะพยายามอั้นราคาเอาไว้จนถึงสิ้นปี ก่อนจะเริ่มปรับกันในห้วงต้นปีหน้าเป็นต้นไป ตัดสินใจได้ ก็รีบตัดสินใจนะครับ เพราะหนนี้ค่ายรถยนต์มีความจำเป็นต้องปรับราคาจริงๆ เพื่อให้สอดรับกับอัตราภาษีที่คำนวณกันด้วยวิธีใหม่ ไม่ใช่แค่บาทสองบาทเท่านั้นนา เราเตือนคุณแล้วเรื่องโดย : มือบ๊วย
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน ธันวาคม ปี 2560
คอลัมน์ Online : มาตรวัดตลาดรถ
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/202403