เป็นอีกเดือนหนึ่งที่ “ระเบียงรถใหม่” นำเสนอแต่เรื่องราวของรถพลังสูงล้วนๆ มีทั้งหมด 6 รุ่น 6 แบบ โดยที่ 5 แบบแรกเป็นรถสปอร์ท ซึ่งวิ่งได้ด้วยพลังของเครื่องยนต์เบนซิน และไม่มีคันใดเลยที่ให้กำลังสูงสุดไม่สูงกว่า 404 กิโลวัตต์/550 แรงม้า หรือไม่สามารถวิ่งได้เร็วกว่า 300 กม./ชม. ส่วนแบบสุดท้ายเป็น รถพลังไฟฟ้าสุดแสบ เพราะระบบขับไร้เครื่องยนต์ให้กำลังสูงถึง 1,397 กิโลวัตต์/1,900 แรงม้า และรถวิ่งได้เร็วเหลือเชื่อ คือ เร็วถึง 350 กม./ชม.เริ่มกันที่ผลงานชิ้นใหม่ของค่าย “กระทิงดุ” คือ รถสปอร์ทประตูปีกนกติดป้ายชื่อ ลัมโบร์กินี อเวนตาโดร์ เอสวีเจ โรดสเตอร์ (LAMBORGHINI AVENTADOR SVJ ROADSTER) ซึ่งเพิ่งอวดตัวแบบ WORLD PREMIERE หรือ “ครั้งแรก ในโลก” ที่งานมหกรรมยานยนต์ เจนีวาครั้งล่าสุด เมื่อต้นเดือนมีนาคมที่เพิ่งผ่านพ้นไป พร้อมคำประกาศว่า ฤดูร้อนของปี 2019 นี้ จะเริ่มการส่งมอบรถให้แก่ลูกค้าผู้สั่งจองคนแรก ไม่ใช่รถที่ออกแบบขึ้นใหม่ทั้งคัน แต่เป็นรถเปิดประทุนที่พัฒนาต่อยอดมาอีกทอดหนึ่งจากรถคูเป ติดป้ายชื่อ ลัมโบร์กินี อเวนตาโดร์ เอสวีเจ (LAMBORGHINI AVENTADOR SVJ) ซึ่งเปิดตัวที่รัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐอเมริกา เมื่อเดือนสิงหาคมปีน้องหมาไม่กล้าเห่า พร้อมคำยืนยันว่าเป็นรถสปอร์ท “กระทิงดุ” ที่แรงและเร็วที่สุดในขณะนั้น การพัฒนาต่อยอดที่กล่าวนี้ จุดใหญ่ใจความอยู่ที่การเปลี่ยนรูปลักษณ์ของหลังคา จากหลังคาแข็งติดตาย เป็นประทุนหลังคาแบบแข็งที่ออกแบบเป็น 2 ชิ้น สามารถถอดออกได้ด้วยมืออย่างรวดเร็ว ก่อนนำไปเก็บไว้ในช่องเก็บใต้ฝากระโปรงหน้า เพราะแต่ละชิ้นหนักไม่ถึง 6 กก. เพราะทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ ซึ่งเป็นวัสดุสังเคราะห์มวลเบาแต่แข็งแรง และรับความดันได้สูง การเปลี่ยนหลังคาที่ว่านี้รวมทั้งรายละเอียดอื่นๆ ที่เกี่ยวเนื่อง ส่งผลให้ DRY WEIGHT หรือน้ำหนักตัวเปล่าของรถเพิ่มขึ้นเพียง 50 กก. เท่านั้นเองเมื่อเทียบกับรถคูเป คือ จาก 1,525 เป็น 1,575 กก. ส่วนเครื่องยนต์กลไกต่างๆ รถเปิดประทุนยาว 4.943 ม. กว้าง 2.098 ม. และสูง 1.136 ม. โมเดลนี้ แทบไม่มีอะไรผิดเพี้ยนจากรถคูเปซึ่งเป็นที่มา กล่าวคือ ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน DOHC วี 12 สูบ 60 องศา ความจุ 6,498 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 566 กิโลวัตต์/770 แรงม้า ที่ 8,500 รตน. และให้แรงบิดสูงสุด 720 นิวตัน-เมตร/73.5 กก.-ม. ที่ 6,750 รตน. ระบบเกียร์เพื่อส่งกำลังสู่ล้อคู่หน้า/คู่หลังเป็นเกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะ ISR ซึ่งลักษณะการเปลี่ยนจังหวะเกียร์ขึ้นอยู่กับโหมดการขับที่ใช้ (มีให้เลือก 3 โหมด คือ STRADASPORT-CORSA) ระบบรองรับ เป็นระบบอิสระปีกนก 2 ชั้นทั้งหน้า/หลัง ระบบห้ามล้อหน้าใช้จานขนาด 400x38 มม. ส่วนห้ามล้อหลังใช้จานขนาด 380x38 มม. สมรรถนะการเร่ง และความเร็วตามตัวเลขของค่ายกระทิงดุ อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใช้เวลาแค่ 2.9 วินาที อัตราเร่ง 0-200 กม./ชม. เพิ่มเป็น 8.8 วินาที ความเร็วสูงสุดไม่ระบุชัดเจนบอกเพียงว่า สูงกว่า 350 กม./ชม. และการห้ามล้อจาก 100-0 กม./ชม. ใช้ระยะทาง 31 ม. เป็นรถที่จำกัดการผลิตไว้เพียง 800 คัน และรถที่ขายในยุโรปกำหนดค่าตัวยังไม่รวมภาษีไว้ที่ 387,007 ยูโร หรือประมาณ 13.9 ล้านบาทไทย ที่น่าสงสัยก็คือ ราคาขนาดนี้ทำไมต้องมีเศษ ?