เจ้าของเครื่องหมายการค้า "สี่ห่วง" เป็นผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติเยอรมันที่มี เอสยูวี หรือรถกิจกรรมกลางแจ้งให้เลือกใช้อย่างหลากหลายไม่น้อยหน้าผู้ผลิตรถยนต์ร่วมชาติค่ายอื่นๆ คือมีตั้งแต่ขนาดเล็กกว่าเล็กกะทัดรัดอย่าง เอาดี คิว 2 (AUDI Q2) ขนาดกะทัดรัดอย่าง เอาดี คิว 3 (AUDI Q3) ขนาดกลางอย่าง เอาดี คิว 5 (AUDI Q5) ไปจนถึงรถขนาดใหญ่เต็มพิกัดอย่าง เอาดี คิว 7 (AUDI Q7) และ เอาดี คิว 8 (AUDI Q8) แถมยังมีรถพลังงานไฟฟ้าล้วนๆ คือ เอาดี อี-ทรอน (AUDI E-TRON) ซึ่งเป็นรถขนาดกลางอีกต่างหาก รถที่ว่านี้ทุกอนุกรมล้วนเป็นรถอย่างที่เรียกกันในภาษาอังกฤษว่า CROSSOVER SUV คือ เป็นรถกิจกรรมกลางแจ้งที่มีพื้นฐานมาจากรถเก๋ง และตัวถังมีโครงสร้างแบบ UNIBODY ซึ่งเป็นโครงสร้างรับแรงเหมือนรถเก๋งส่วน เอาดี เอสคิว 8 ทีดีไอ (AUDI SQ8 TDI) ที่เลือกมาบรรจุไว้ใน "ระเบียงรถใหม่" เดือนนี้ เป็นโมเดลหัวกะทิของรถ เอาดี คิว 8 (AUDI Q8) ที่เพิ่งเริ่มจำหน่ายเมื่อไตรมาส 3 ปี 2018 เป็นรถธงในสายการผลิตรถกิจกรรมกลางแจ้งของค่ายนี้ และเป็นรถกิจกรรมกลางแจ้งติดตรา "สี่ห่วง" เพียงโมเดลเดียวในขณะนี้ ที่มีค่าตัวสูงกว่า 100,000 ยูโร เพิ่งเปิดเผยโฉมหน้าและรายละเอียดผ่านสื่อต่างๆ เมื่อต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา แต่ต้องรอจนถึงฤดูร้อนของปีหมูทองร้องหาแม่นี้ จึงจะเริ่มการจำหน่ายในเยอรมนีและอีกหลายประเทศในทวีปยุโรป ราคาค่าตัวรวมภาษีมูลค่าเพิ่มร้อยละ 19 ของรถที่ขายในเยอรมนี เริ่มต้นที่ 102,900 ยูโร หรือประมาณ 3.60 ล้านบาทไทย เมื่อคิดอัตราแลกเปลี่ยนยุคเงินบาทแข็ง คือเงินฝรั่ง 1 ยูโร แลกได้ด้วยเงินไทย 35 บาทถ้วน ตัวถังยาว 5.006 ม.กว้าง 1.995 ม. สูง 1.708 ม. ซึ่งมีค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ 0.34 ไม่ได้ออกแบบ/พัฒนาขึ้นใหม่ทั้งหมด แต่เป็นผลลัพธ์จากการนำตัวถังของรถ เอาดี คิว 8 (AUDI Q8) รุ่นสามัญ ซึ่งยาว 4.986 ม. กว้าง 1.995 ม. และสูง 1.705 ม. มาเติมนั่นนิดตัดนี่หน่อย เพื่อให้สอดรับกับระบบขับเคลื่อนที่เพิ่งพัฒนาขึ้นใหม่สดๆ ร้อนๆ เป็นระบบขับเคลื่อนทุกล้อแบบถาวรที่เรียกกันตามภาษาอังกฤษของค่ายนี้ว่า QUATTRO PERMANENT ALL-WHEEL DRIVE และเป็นระบบขับ MILD HYBRID หรือไฮบริดแบบอ่อนๆ ติดตั้งเครื่องยนต์ไบเทอร์โบดีเซลฉีดเชื้อเพลิงโดยตรง SOHC วี 8 สูบ 3,956 ซีซี 320 กิโลวัตต์/435 แรงม้า ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ดีเซลที่ทรงพลังที่สุดในยุโรปขณะนี้ แต่ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง มีอุปกรณ์ไฟฟ้าที่เรียกในภาษาอังกฤษว่า EPC (ELECTRIC POWERED COMPRESSOR) และรับพลังไฟจากแบทเตอรีลิเธียม-ไอออน (LITHIUM-ION) ขนาด 48 โวลท์ ช่วยเสริมการทำงานของเทอร์โบชาร์เจอร์ในขณะที่รถยังวิ่งเร็วไม่ถึง 23 กม/ชม. ส่วนระบบเกียร์เพื่อส่งกำลังเครื่องยนต์สู่ล้อคู่หน้าคู่หลังเป็นเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ TIPTRONIC เป็นรถดีเซลซึ่งมีอัตราเร่งรุนแรงราวกับรถสปอร์ท อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ในเวลาแค่ 4.8 วินาที ส่วนความเร็วสูงสุดจำกัดไว้ที่ 250 กม./ชม. ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย มีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ย 7.8 ลิตร/100 กม. หรือ 12.8 กม./ลิตร เมื่อวัดตามมาตรฐาน WLTP และปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ 204-205 กรัม/กม. โดยเฉลี่ย