โจร์ก บรอยเอร์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เบลฟอร์ต ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด

“ฟอร์มูลา” สัมภาษณ์พิเศษ โจร์ก บรอยเอร์ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เบลฟอร์ต ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด หรือเปอโฌต์ ประเทศไทย ผู้นำเข้า และจำหน่ายรถยนต์ เปอโฌต์ อย่างเป็นทางการในประเทศไทย

ฟอร์มูลา : คุณมองว่า อุตสาหกรรม ยานยนต์ไทย และผู้ใช้รถที่นี่มีลักษณะอย่างไร ?   บรอยเอร์ : ในระยะ 10 ปีที่ผ่านมา อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนลูกค้า ผมเคยทำงานอยู่ในประเทศไทย 20 ปี และยังเคยทำงานใน มาเลเซีย สิงคโปร์ และตะวันออกกลาง ในทุกประเทศลูกค้าต้องการทางเลือก ตอนผมอยู่กับ บีเอมดับเบิลยู มีรถยนต์แค่ 3 รุ่น คือ ซีรีส์ 3, 5 และ 7 แต่ปัจจุบันมีรุ่นต่างๆ มากมาย ซึ่งเกิดจากการที่ลูกค้าต้องการทางเลือกนั่นเอง   สำหรับลูกค้า เปอโฌต์ ในประเทศไทย ส่วนใหญ่ คือ คนที่เคยใช้รถญี่ปุ่นมาก่อน แล้วอยากจะอัพเกรด เปอโฌต์ จึงเข้ามาเป็นทางเลือกได้พอดี โดยเราจะเปิดตัวอีก 6 รุ่น ภายใน 5 ปีต่อจากนี้   นอกจากการบริการแบบมืออาชีพ ซึ่งเป็นสากลแล้วเรายังนำวัฒนธรรมไทย คือ ความเป็นกันเอง เป็นมิตร ใส่ใจ นำมาปรับใช้เพื่อให้ลูกค้ามีความสุขยิ่งขึ้น   ฟอร์มูลา : วางทิศทาง และนโนบาย เปอโฌต์ ประเทศไทย ไว้อย่างไร ?   บรอยเอร์ : เปอโฌต์ มีประวัติศาสตร์อยู่ในเมืองไทยมายาวนานร่วม 50 ปี ตอนนี้ พีเอสเอ กรุพ ซึ่งเป็นเจ้าของ เปอโฌต์  ที่ฝรั่งเศส ได้ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ในการทำธุรกิจ อย่างที่ทราบกันดีว่า ในอดีต เปอโฌต์ ในประเทศไทย ไม่ค่อยประสบความสำเร็จ เนื่องจากเป็นรถยนต์นำเข้า มีราคาสูง แต่ปัจจุบัน พีเอสเอ ได้เปลี่ยนกลยุทธ์ ด้วยการแต่งตั้ง กลุ่มบริษัท มาสเตอร์ กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด หรือ เอมจีซี-เอเชีย เป็นผู้นำเข้า และจัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย พร้อมมีนโยบายนำเข้ารถยนต์รุ่นใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันจะนำเข้าจากประเทศมาเลเซีย ซึ่งภาษีถูกลง เป็นการปรับกลยุทธ์การนำเข้ารถรุ่นใหม่ รวมถึงอะไหล่ ทำให้รถยนต์ และอะไหล่มีราคาถูกลง นอกจากนี้ ยังมีแผนขยายเครือข่ายให้ครอบคลุมทั่วประเทศ ที่สำคัญ เปอโฌต์ ประเทศไทย ยุคใหม่ เข้ามาทำตลาดโดยเปิดเซกเมนท์ใหม่เรียกว่า ไฮเอนด์ เมนสตรีม ที่จะอยู่ระหว่างรถยนต์ญี่ปุ่น และรถพรีเมียมของยุโรป   ฟอร์มูลา : คุณมีกลยุทธ์ปรับภาพลักษณ์ของ เปอโฌต์ ในอดีตอย่างไร ?   บรอยเอร์ : เปอโฌต์ ยังมีแฟนพันธุ์แท้ในประเทศไทยที่เหนียวแน่น โดยจากการเปิดตัวรถรุ่นใหม่เมื่อเดือนสิงหาคม 2562 ลูกค้าให้การตอบรับเป็นอย่างดี   สำหรับแผนปรับภาพลักษณ์ของ เปอโฌต์ ประเทศไทย  มี 5 เรื่อง ได้แก่ 1. ปรับราคาใหม่ ให้อยู่ระหว่าง รถญี่ปุ่น กับรถพรีเมียมของยุโรป 2. ปรับราคาอะไหล่ 3. เพิ่มจำนวนรุ่นรถ 6 รุ่น ภายใน 5 ปี 4. ขยายเครือข่ายให้ครอบคลุมทั่วประเทศ 5. ปรับปรุงคุณภาพบริการหลังการขาย รวมถึงมีการรับประกันที่ดี รถ เปอโฌต์ ทุกคันรับประกัน 3 ปี หรือ 60,000 กม. โดยไม่มีค่าใช้จ่าย รวมถึงมีบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชม. ฟรี 3 ปี ทั่วประเทศ   แพคเกจ 3 ปี หรือ 60,000 กม. จะครอบคลุมการเปลี่ยนอะไหล่ต่างๆ ให้ฟรีโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ซึ่งมีมูลค่าสูงถึง 36,000 บาท เรื่องราคาอะไหล่ ถ้าดูแยกเป็นชิ้น เช่น ผ้าเบรค ราคาก็ไม่ต่างจากรถในระดับเดียวกัน ซึ่งเหมาะสมกับระดับราคาของรถ อีกทั้ง เปอโฌต์ ยังเป็นบแรนด์แรกในเซกเมนท์ไฮเอนด์ เมนสตรีม ที่มอบสิทธิพิเศษ การรับประกัน 3 ปี 60,000 กม. ฟรีให้ลูกค้า โดยไม่มีค่าใช้จ่าย   ฟอร์มูลา : วางแผนการขยายเครือข่ายอย่างไร ?   บรอยเอร์ : เปอโฌต์ ประเทศไทย เซ็นสัญญาอย่างเป็นทางการกับ บริษัท ไลอ้อน ออโตโมบิล จำกัด เมื่อเดือนกรกฎาคม 2562 วางแผนว่าจะเริ่มขยายในกรุงเทพฯ ก่อน แล้วจึงขยายไปยังต่างจังหวัดภายในปีนี้ ปัจจุบันเปิดโชว์รูมในกรุงเทพฯ แล้ว 3 แห่ง ที่ เกษตร-นวมินทร์, เยาวราช และสุขุมวิท รวมถึงยังมีเออร์เบินสโตร์ที่สยามพารากอน   อีกส่วนหนึ่ง จะมุ่งหาพันธมิตรที่จะร่วมเป็นดีเลอร์เพื่อขยายไปในต่างจังหวัด โดยตั้งเป้าไว้ 10 แห่ง โดย เปอโฌต์ ประเทศไทย มีกลยุทธ์ในการแต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายที่แตกต่างจากที่อื่น โดย 3 ปัจจัยที่ต้องการจากตัวแทนจำหน่าย คือ 1. ต้องทำให้ลูกค้าพึงพอใจ 2. พนักงานของตัวแทนจำหน่ายต้องมีโอกาสได้เรียนรู้ เติบโต และมีความสุข 3. ตัวแทนจำหน่ายต้องมีกำไร   แผนขยายตัวแทนจำหน่ายในต่างจังหวัด อยากให้แต่ละจังหวัดเป็นนักลงทุนรายเดียวกัน แต่ละคนก็จะเป็นพระเอกในพื้นที่นั้นไปเลย เช่น กรุงเทพฯ ก็จะเป็น บริษัท ไลอ้อน ออโตโมบิล จำกัด จังหวัดอื่นๆ ก็จะเป็นลักษณะเดียวกัน เราต้องการเติบโตอย่างยั่งยืน และดูแลลูกค้าด้วยคุณภาพสูงสุด   ฟอร์มูลา : จุดเด่นของ เปอโฌต์ ที่จะทำให้ลูกค้าประทับใจ และเติบโตอย่างยั่งยืน คือ อะไร ?   บรอยเอร์ : เปอโฌต์ มีผู้ประกอบรถยนต์ที่แข็งแกร่งมาก คือ พีเอสเอ กรุพ ซึ่งปัจจุบัน เป็นบริษัทที่ทำกำไรสูงสุดในโลก และพร้อมจะลงทุนในภูมิภาคนี้ เช่น ลงทุนซื้อโรงงานประกอบรถยนต์ในมาเลเซีย เพื่อที่จะนำรถยนต์รุ่นใหม่ๆ เข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย แล้วรถแต่ละรุ่นที่นำเข้ามาก็เป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมทั่วโลก อย่าง 3008 ก็เป็นรถที่ได้รับรางวัลมากมาย ไม่ว่าจะเป็น CAR OF THR YEAR 2 ปี รวมถึงรางวัลความมั่นใจสูงสุด จากผู้ใช้รถในอังกฤษ เจดี เพาเวอร์ ยิ่งมาผสานกับความเชี่ยวชาญของ เอมจีซี-เอเชีย ที่เป็นหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญด้านการค้าปลีกรถยนต์ มากว่า 20 ปี เชื่อว่า 2 ส่วนนี้ คือ สูตรแห่งความสำเร็จ   ฟอร์มูลา : รถรุ่นใหม่ที่จะมาสร้างความสำเร็จ คือ รุ่นใด ?   บรอยเอร์ : บริษัทฯ เริ่มนำรถ เอสยูวี เข้ามาทำตลาด เพราะตลาดกำลังเติบโต ส่วนรถรุ่นใหม่ที่จะเปิดตัวได้แก่ 2008 เป็น เอสยูวี เหมือนกัน แต่เป็น เอสยูวี รุ่นเล็ก เมื่อเปรียบเทียบกับ 3008 และ 5008 ถัดไปจะเป็น ซีดาน รถตู้ และพิคอัพ เมื่อรวมรถทุกเซกเมนท์เข้าด้วยกัน จะเป็น 75 % ของจำนวนรถทั้งหมดในตลาด เชื่อมั่นว่ารถ เปอโฌต์ จะสามารถทำตลาดได้ดี จากการออกแบบสไตล์ยุโรปที่มีเอกลักษณ์ รวมถึงคุณภาพของวัตถุที่ใช้ และอุปกรณ์ต่างๆ   ฟอร์มูลา : กลุ่มลูกค้าเป้าหมายของ เปอโฌต์ คือ ใคร ?   บรอยเอร์ : สำหรับ 3008 ส่วนใหญ่เป็นคนโสด หรือแต่งงานแล้ว แต่ยังไม่มีลูก อายุประมาณ 30-45 ปี เป็นคนแอคทีฟ ชอบทำกิจกรรม มีสังคม ชอบโซเชียล และชอบรถยนต์ที่มีดีไซจ์นเป็นเอกลักษณ์ สำหรับ 5008 อาจเป็นคนที่มีครอบครัวแล้ว อายุประมาณ 40-55 ปี ใช้ประโยชน์จาก 7 ที่นั่ง หรือเป็นคนที่ชอบเล่นกีฬา ใช้ความกว้างของห้องโดยสารใส่อุปกรณ์กีฬา เช่น เซิร์ฟบอร์ด หรืออุปกรณ์ขนาดใหญ่ แต่สิ่งที่ลูกค้าทั้ง 2 รุ่นมีเหมือนกัน คือ ไลฟ์สไตล์ที่แอคทีฟ และเป็นคนที่มีความสุขกับการใช้ชีวิต   ฟอร์มูลา : แผนการลงทุนของ เปอโฌต์ ประเทศไทย เป็นอย่างไร  ?   บรอยเอร์ : การลงทุนแบ่งเป็น 2 ส่วนหลัก ส่วนแรก คือ ดีเลอร์ชิพ อย่างที่ทราบกันว่า ปัจจุบัน เรามี 3 ดีเลอร์ กับ 1 ดีเลอร์ สโตร์ ในกรุงเทพฯ แผนงานต่อจากนี้ คือ ขยายไปต่างจังหวัด โดยจะลงทุนกับพาร์ทเนอร์ที่จะมาเป็นดีเลอร์ของเรา ส่วนที่ 2 บุคลากร ซึ่งเป็นส่วนที่เราให้ความสำคัญมาก เน้นสรรหาคนมีทัศนคติดี ถ้าเป็นช่าง ก็ต้องเป็นช่างที่พร้อมจะแก้ปัญหาให้แก่ลูกค้า   สุดท้าย คือ การบริการหลังการขาย สร้างศูนย์บริการ พร้อมใช้เครื่องมือพิเศษ วิเคราะห์ปัญหารถยนต์ได้อย่างตรงจุด สิ่งสำคัญที่สุด คือ เมื่อลูกค้าเข้ามาในโชว์รูมของเราแล้ว ลูกค้าจะต้องมีความสุข   ฟอร์มูลา : คุณวางเป้าหมายในการทำงานไว้อย่างไร ?   บรอยเอร์ : ผมมีเป้าหมายที่จะสร้างองค์กรให้แข็งแกร่ง สร้างดีเลอร์ให้ครอบคลุม พัฒนาบุคลากร รวมถึงระบบต่างๆ เช่น ระบบไอที ให้มีความพร้อม และสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ลูกค้า เพราะเมื่อเห็นลูกค้ามีความสุขในผลิตภัณฑ์ของ เปอโฌต์ ผมก็จะมีความสุขไปด้วย   ปัจจุบัน เปอโฌต์ มีทีมงานที่มีประสิทธิภาพอยู่แล้ว สเตพต่อไป คือ การหาพาร์ทเนอร์ใหม่ๆ ในต่างจังหวัด ที่มีคาแรคเตอร์ และความคิดเดียวกันกับเรา เพื่อที่จะนำรถยนต์รุ่นใหม่ๆ เข้ามาทำตลาดต่อไป   ฟอร์มูลา : ตั้งเป้ายอดขายปีนี้ และอีก 3-5 ปี ไว้เท่าใด ?   บรอยเอร์ : เปอโฌต์ มีแผนจะเติบโตในระยะยาวอย่างยั่งยืน โดย 5 ปีต่อจากนี้ตั้งเป้าว่า เปอโฌต์ จะขายรถยนต์ได้เป็นจำนวนมากกว่าพรีเมียมบแรนด์จากเยอรมนี ที่ขายอยู่ในปัจจุบัน