ชีวิตอิสระ
ฟ้าหลังฝนที่ “เขาอีโต้” ป่าในเมืองปราจีนบุรี
หลังภาครัฐเริ่มผ่อนคลาย “ชีวิตอิสระ” ออกเดินทางอีกครั้งไปยัง “วนอุทยานเขาอีโต้” แหล่งผืนป่าธรรมชาติ ใกล้ตัวเมืองปราจีนบุรี ที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ และความเงียบสงบไว้เป็นอย่างดีขับ NISSAN NAVARA PRO-4X มุ่งหน้าปราจีนบุรี จากสถานการณ์การระบาดของ COVID-19 ทำให้การท่องเที่ยวใกล้กรุงเทพฯ เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ “ปราจีนบุรี” คือ จังหวัดที่เราเลือก เพราะมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ทั้งธรรมชาติ ป่าเขา น้ำตก รวมถึงโบราณสถานทางประวัติศาสตร์ จากกรุงเทพฯ เราใช้ทางหลวง 3481 (มีนบุรี-บ้านสร้าง) เนื่องจากใกล้ และเร็วที่สุดเพียง 100 กว่ากม. เท่านั้น เราเดินทางพร้อมรถคู่ใจ NISSAN NAVARA PRO-4X (นิสสัน นาวารา พโร-4 เอกซ์) ตัวแต่งสุดเท่ ขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่ได้เครื่องยนต์ใหม่จาก NISSAN TERRA (นิสสัน แตร์รา)ขนาด 2.3 ลิตร 190 แรงม้า ที่ผ่านการปรับปรุงใหม่มาอย่างดี ภายนอกดุดันด้วยสีเทาพิเศษ ภายในถูกอัพเกรดให้สปอร์ทยิ่งขึ้น ช่วงล่างปรับใหม่ทำให้นุ่มนวล และยังเพิ่มระบบความปลอดภัยมาแบบจัดเต็ม นับเป็น NAVARA ที่ดีที่สุด เท่าที่ผมเคยสัมผัส เขาอีโต้ ป่าในเมืองปราจีนบุรี จากตัวเมืองขึ้นไปทิศเหนือ จะพบกับ “วนอุทยานเขาอีโต้” ที่มีลักษณะเป็นภูเขาเตี้ยๆ ต่อเนื่องกันมาตั้งแต่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ด้านทิศตะวันตกของเขาอีโต้เป็นสันลาดเอียง และยาว มีหน้าผาชัน และค่อยๆ ลาดเอียงลงมาบนที่ราบด้านทิศตะวันออก จึงมีลักษณะคล้ายกับ “มีดอีโต้” เลยเป็นที่มาของชื่อเขาลูกนี้ ผืนป่าที่นี่ ยังเป็นการผสมผสานกันระหว่างป่าเบญจพรรณ และป่าปลูกใหม่ที่มนุษย์สร้างขึ้น เพื่ออนุรักษ์ และฟื้นฟูพื้นที่ ที่ได้รับการบุกรุกให้กลับมาอุดมสมบูรณ์อีกครั้ง ตามโครงการ “ป่าในเมืองปราจีนบุรี” อ่างเก็บน้ำจักรพงษ์ ความสุขของคนปราจีน อ่างเก็บน้ำจักรพงษ์ เป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาอีโต้ ถูกสร้างขึ้นตามโครงการพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9 เพื่อกักเก็บน้ำให้เกษตรกรได้ใช้ในยามฤดูแล้ง หากวิ่งลัดเลาะบนสันเขื่อนลึกเข้าไป จะพบกับอ่างเก็บน้ำเขาอีโต้ ซึ่งเป็นอ่างเก็บน้ำขนาดเล็ก ที่อยู่ในการดูแลของสถานีควบคุมไฟป่าปราจีนบุรี บริเวณนี้จะเงียบสงบ และเป็นส่วนตัวกว่าอ่างเก็บน้ำจักรพงษ์ ที่อยู่ด้านนอก อ่างเก็บน้ำทั้ง 2 แห่งเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของคนปราจีนบุรี เนื่องจากมีทัศนียภาพที่สวยงาม รายล้อมด้วยทิวเขารอบด้าน มีหมอกให้เห็นในยามเช้า และโดยเฉพาะเวลาหลังฝนตกใหม่ๆ แบบครั้งนี้ จุดชมวิวผาหินซ้อน แลนด์มาร์คที่ห้ามพลาด จุดชมวิวผาหินซ้อน ถือเป็นแลนด์มาร์คสำคัญที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาถึงเขาอีโต้ เพราะบริเวณนี้เป็นจุดชมวิวที่สวยงาม เมื่อไปยืนบนก้อนหินขนาดใหญ่ จะสามารถมองเห็นเมืองปราจีนบุรีได้ไกลสุดลูกหูลูกตา แต่ควรระมัดระวังเป็นพิเศษ การชมวิวให้สวยที่สุด ควรมาในช่วงเช้าตอนพระอาทิตย์ขึ้น หรือหากมาในยามพระอาทิตย์ตกก็สวยงามไปอีกแบบ แถมจุดนี้ยังมีลมพัดเกือบตลอดเวลา ช่วยให้ผู้ที่มาเยือนผ่อนคลายได้มาก พระพุทธทวารวดีศรีปราจีน สิรินธรโลกนาถ พระพุทธทวารวดีศรีปราจีน สิรินธรโลกนาถ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่ถัดจากจุดชมวิวผาหินซ้อนไปไม่ไกล เป็นที่ประดิษฐานพระปางนาคปรกที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำเมือง และเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนปราจีนบุรี และจังหวัดใกล้เคียง พระปางนาคปรก เป็นพระประจำท้องถิ่นเมืองปราจีนบุรี มีลักษณะงานศิลป์เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง ถือว่ามีความเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งบนแผ่นดินสยาม บริเวณรอบองค์พระ มีการจัดทำเป็นระเบียงชมวิว สามารถมองเห็นวิวภูเขา ต้นไม้ และอ่างเก็บน้ำได้ จึงเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวสายบุญไม่ควรพลาด เนินพิศวง 1 ใน 5 แห่งของประเทศ ขาลงจากยอดเขาอีโต้ จะมีป้าย “เนินพิศวง” ระยะทาง 100 ม. ให้นักท่องเที่ยวได้ลองพิสูจน์กัน ถนนจุดนี้เป็นถนนลาดยาง เมื่อมองด้วยตาเปล่าจะเห็นเป็นเนินเตี้ยๆ คล้ายทางขึ้นเขา วิธีการพิสูจน์ คือ 1. ให้เปิดสัญญาณไฟฉุกเฉิน 2. หยุดรถให้สนิทตรงจุดเริ่มต้น 3. เข้าเกียร์ว่าง ปล่อยเบรค 4. รถจะค่อยๆ ไหลขึ้นเนิน ไปจนถึงจุดสิ้นสุด เป็นอันเสร็จ หลังทดสอบเสร็จ คุณจะงงว่าทำไมรถถึงไหลขึ้นเนินได้ ก็เห็นอยู่ว่าเป็นทางลง นี่ละครับ เสน่ห์ของเนินพิศวง น้ำตกเขาอีโต้ สายน้ำแห่งความสมบูรณ์ น้ำตกเขาอีโต้ ทางเข้าอยู่เลยอ่างเก็บน้ำจักรพงษ์เล็กน้อย เป็นธารน้ำเล็กๆ ที่ไหลตลอดทั้งปี แต่จะมีน้ำมากในช่วงฤดูฝน ประกอบด้วยแอ่งน้ำเล็กๆ เป็นชั้นๆ ทุกชั้นสลับกับแนวโขดหิน แต่ละแอ่งน้ำไม่ลึก แม้จะเป็นธารน้ำตกขนาดไม่ใหญ่มาก แต่มีจุดเด่นตรงที่สามารถเข้าไปนั่งพักผ่อนในแนวโขดหินของตัวน้ำตกได้ และสามารถสัมผัสกับสายน้ำที่ไหลผ่านลอดแนวโขดหินได้อย่างใกล้ชิด รอบๆ ตัวน้ำตก จะมีต้นไม้ขนาดเล็ก และใหญ่สลับขึ้นตลอดทาง ช่วยให้ร่มเงา และบรรยากาศร่มรื่น ให้ความรู้สึกเย็นสบายได้เป็นอย่างดี วัดแก้วพิจิตร วัดเก่าแก่สมัยรัชกาลที่ 5 วัดแก้วพิจิตร เป็นวัดเก่าแก่ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 2422 ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ต่อมาในช่วงปี 2456 เจ้าพระยาอภัยภูเบศร (ชุ่ม อภัยวงศ์) ได้บูรณะวัดแห่งนี้ และสร้างศาสนสถานต่างๆ ภายในวัด เช่น โบสถ์ อาคาร รร. อภัยพิทยาคาร และ รร. พระไตรปิฎกและวินัย ซึ่งปัจจุบันเป็นอาคารพิพิธภัณฑ์ของวัด ความโดดเด่นอยู่ที่ตัวอุโบสถสีแดงอิฐ และสีชมพู ที่มีลวดลายแกะสลักงดงาม เป็นสถาปัตยกรรมที่ถูกผสมผสานแบบไทย จีน ยุโรป และขอม ได้อย่างลงตัว ซึ่งมีเพียงแห่งเดียวในประเทศไทย และภายในอุโบสถ มีพระประธาน คือ หลวงพ่ออภัยวงศ์ เป็นพระพุทธรูปสีดำออกแบบโดยสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ วัดต้นโพธิ์ศรีมหาโพธิ เราเดินทางต่อไปยัง อ. ศรีมโหสถ เพื่อไปชมวัดต้นโพธิ์ศรีมหาโพธิ ที่ถือเป็นแหล่งอารยธรรมโบราณ แหล่งโบราณคดี และสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ที่ควรเข้าไปเยี่ยมชมสักการะบูชา วัดแห่งนี้ มีต้นโพธิ์ต้นแรกที่เข้ามาปลูกในประเทศไทย ซึ่งเป็นหน่อเดียวกับพระศรีมหาโพธิ์ สถานที่ตรัสรู้พุทธคยาที่ประเทศอินเดีย ซึ่งเป็นต้นโพธิ์ที่ใหญ่ และเก่าแก่ที่สุด มีอายุกว่า 2,000 ปี แผ่กิ่งก้านสาขาแตกยื่นออกเป็นวงกว้าง ชาวท้องถิ่นถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ประจำวัดแห่งนี้ ทั่วบริเวณต้นโพธิ์ทำเป็นรั้วระเบียงคตล้อมรอบ ภายในระเบียงคตประดิษฐานพระพุทธรูปปางต่างๆ ไว้ให้คนที่เข้ามาได้กราบไหว้บูชา โบราณสถานสระแก้ว แห่งเมืองศรีมโหสถ เมืองศรีมโหสถ เป็นเมืองโบราณสมัยทวารวดี ในอดีตเคยเป็นเมืองท่าชายทะเลที่สำคัญ เป็นศูนย์กลางความเจริญทั้งด้านศิลปะ วัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณี และพุทธศาสนา มีเนื้อที่ประมาณ 700 ไร่ ภายในเมืองมีโบราณสถาน เนินดิน สระน้ำ บ่อน้ำ กระจัดกระจายอยู่ทั่วไปกว่า 100 แห่ง โบราณสถานสระแก้ว ตั้งอยู่นอกเมืองศรีมโหสถไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ เป็นสระน้ำโบราณขนาดกว้าง 18 ม. ขุดลงไปในชั้นของศิลาแลงธรรมชาติ ตัวสระเป็นรูปสี่เหลี่ยมจตุรัส ทางด้านทิศตะวันตกมีทางลงทำเป็นขั้นบันไดกว้าง 4 ม. ทางลงยาว 13.60 ม. ผนังขอบสระทุกด้านมีการแกะสลักภาพนูนต่ำเป็นรูปสัตว์ต่างๆ เช่น ช้าง มังกร สิงห์ หมู กินรี งูพันเสา ซึ่งสัตว์เหล่านี้เป็นสัตว์ชั้นสูง โบราณสถานสระมรกต สมัยทวารวดี โบราณสถานสระมรกต เป็นกลุ่มโบราณสถานทางพุทธศาสนาขนาดใหญ่ ที่สร้างซ้อนทับกันมาหลายสมัย เริ่มตั้งแต่ก่อนพุทธศตวรรษที่ 14 จนถึงพุทธศตวรรษที่ 18 ประกอบด้วยสิ่งก่อสร้างศิลาแลง และอิฐ มีการค้นพบรอยพระพุทธบาทคู่สลัก ฝ่าพระบาทสลักรูปธรรมจักรนูนทั้ง 2 ข้าง และยังมีการสลักรูปกากบาท โดยที่ตรงกลางมีหลุมสำหรับใช้ปักเสา สันนิษฐานว่ามีไว้เพื่อปักฉัตร หรือร่ม รอยพระพุทธบาทคู่นี้คาดว่าสร้างขึ้นครั้งแรกสมัยทวารวดี ถึงสมัยลพบุรี นับเป็นรอยพระพุทธบาทที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย แผนที่เส้นทาง ที่กิน มีโอกาสมาเที่ยวปราจีนบุรีทั้งที ผมขอรับประทานปลาแม่น้ำบางปะกง หรือคนที่นี่เรียกแม่น้ำปราจีนบุรี กันเสียหน่อย ผมเลือกร้าน “บ้านริมน้ำ” ซึ่งอยู่ติดริมแม่น้ำปราจีนบุรี และไม่ไกลกับโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศรมากนัก ผมสั่งปลาเนื้ออ่อนราดพริก, แกงคั่วหอยขม, ทอดมันกุ้ง และหมูสามชั้นทอดน้ำปลา รสชาติร้านนี้อยู่ในเกณฑ์ใช้ได้ ราคาไม่แพง มีบรรยากาศริมน้ำให้ได้ชม ขอขอบคุณ บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ที่เอื้อเฟื้อรถยนต์ในการเดินทาง
ABOUT THE AUTHOR
วิธวินท์ ไตรพิศ
ภาพโดย : เกรียงศักดิ์ ปันสมนิตยสาร 417 ฉบับเดือน สิงหาคม ปี 2564
คอลัมน์ Online : ชีวิตอิสระ(4wheels)