เป็นรถสปอร์ทเปิดประทุนระดับ “ซูเพอร์คาร์” ซึ่งไม่ได้ออกแบบขึ้นใหม่ทั้งคัน แต่พัฒนาต่อกิ่งต่อยอดมาอีกทอดหนึ่งจากรถสปอร์ทคูเปประตูปีกผีเสื้อติดป้ายชื่อ MASERATI MC20 (มาเซราตี เอมซี 20) ซึ่งเปิดตัวแบบ “ครั้งแรกในโลก” เมื่อเดือนกันยายน 2020 และขณะนี้เริ่มการจำหน่ายไปแล้ว รถคูเปแบบดังกล่าว มีตัวถังยาว 4.669 ม. กว้าง 1.965 ม. และสูง 1.224 ม. มีช่วงฐานล้อยาว 2.700 ม.และมีค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศต่ำกว่า 0.38 เป็นรถขับเคลื่อนล้อหลัง ซึ่งใช้เครื่องยนต์ทวินเทอร์โบเบนซินฉีดเชื้อเพลิงโดยตรง DOHC วี 6 สูบ 90 องศา ความจุ 3.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 463 กิโลวัตต์/630 แรงม้า ที่ 7,500 รตน. และให้แรงบิดสูงสุด 730 นิวตัน-เมตร/74.5 กก.-ม. ทำงานร่วมกันกับระบบเกียร์อัตโนมัติคลัทช์คู่ 8 จังหวะ มีโหมดการขับให้เลือก 5 แบบ คือ GT MODE-WET MODE-SPORT MODE-CORSA MODE-ESC OFF MODE สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาไม่ถึง 2.9 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้สูงกว่า 325 กม./ชม.
ส่วนรถเปิดประทุน MASERATI MC20 CIELO (มาเซราตี เอมซี 20 ซีเอโล) ซึ่งมีชื่อรอง CIELO อันเป็นภาษาอิตาลีซึ่งแปลว่า SKY หรือ ท้องฟ้า ห้อยท้าย มีตัวถังยาว 4.669 ม. กว้าง 1.965 ม. สูง 1.218 ม. และมีช่วงฐานล้อยาว 2,700 ม. คือ เท่ากันในทุกมิติกับรถคูเปซึ่งเป็นที่มา ยกเว้นความสูงที่ลดลงนิดหน่อย ส่วนค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศเพิ่มขึ้นนิดนึงเป็น 0.39 เป็นตัวถังที่ทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ หน้าตาและรายละเอียดของตัวถังทั้งภายนอกและภายใน แทบไม่มีอะไรเลยแตกต่างจากรถคูเป แม้แต่ประตูข้างทั้ง 2 ด้านที่เปิด/ปิดแบบปีกผีเสื้อดังที่เห็นในภาพ กล่าวได้อย่างเต็มปากเต็มคำว่ามีจุดสำคัญเพียงจุดเดียวเท่านั้นเองที่เปลี่ยนแปลงไป คือ หลังคา
เป็นประทุนหลังคาแบบแข็งที่ค่าย “ตรีศูล” หรือ “สามง่าม” กล่าวอ้างอย่างภูมิอกภูมิใจว่า เป็นผลงานระดับ STATE-OF-THE-ART หรือ “สุดยอดงานศิลป์” บังคับควบคุมการทำงานโดยการกดปุ่ม โดยใช้เวลาเพียง 12 วินาที ในการเปิดหรือปิดแต่ละครั้ง จึงทำให้กล่าวได้อย่างเต็มปากเต็มคำเช่นกันว่า นี่คือหนึ่งในบรรดาระบบประทุนที่ทำงานได้เร็วที่สุด เมื่อเทียบกับรถเปิดประทุนทุกรุ่นทุกแบบที่มีขายอยู่ในโลกขณะนี้
นอกจากเปิด/ปิดได้เร็วดังที่ว่าแล้ว ประทุนหลังคาแบบแข็งของรถสปอร์ทซูเพอร์คาร์แบบนี้ ยังมีความพิเศษตรงที่มีช่องหน้าต่างกระจกสุดไฮเทค ที่เรียกกันในภาษาอังกฤษว่า ELECTRONIC (SMART GLASS) WINDOW ใช้เทคโนโลยีก้าวล้ำนำสมัยที่มีชื่อเรียกว่า PDLC หรือ POLYMER-DISPERSED LIQUID CRYSTAL ซึ่งทำให้เมื่อใช้นิ้วสัมผัสจุดบังคับควบคุมบนจอสกรีนกลางในแผงหน้าปัด ก็จะเปลี่ยนสภาพจากกระจกใสเป็นกระจกฝ้า (หรือกลับกัน) ในทันทีทันใด
ค่าย “ตรีศูล” หรือ “สามง่าม” ยืนยันว่า การเปลี่ยนแปลงทั้งหลายทั้งปวงที่กล่าวนี้ ไม่ส่งผลกระทบใดๆ ต่อรูปทรงองค์เอวของตัวถังและประสิทธิภาพทางอากาศพลศาสตร์ มีก็แต่เพียงน้ำหนักรถพร้อมขับเท่านั้นที่เพิ่มขึ้น 65 กก. เป็น 1,540 กก.
ระบบขับเคลื่อนและอุปกรณ์เกี่ยวเนื่องต่างๆ ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง คือยังคงเป็นรถขับเคลื่อนล้อหลัง ด้วยพลังของเครื่องยนต์ทวินเทอร์โบเบนซินฉีดเชื้อเพลิงโดยตรง DOHC วี 6 สูบ 90 องศา 3.0 ลิตร 463 กิโลวัตต์/630 แรงม้า ถ่ายทอดกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติคลัทช์คู่ 8 จังหวะ ระบบรองรับ (กันสะเทือน) แบบอิสระปีกนกสองชั้นทั้งหน้าและหลัง ติดตั้งห้ามล้อหน้าแบบจานรู ขนาด 380x34 มม. ห้ามล้อหลังแบบจานรู ขนาด 350x27 มม. และใช้ยางคู่หน้าขนาด 245/35 ZR20 กับยางคู่หลังขนาด 305/30 ZR20
สมรรถนะความเร็วตามตัวเลขของผู้ผลิต อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ในเวลาประมาณ 3.0 วินาที อัตราเร่ง 0-200 กม./ชม. ทำได้ใน 9.2 วินาที ความเร็วสูงสุดไม่ระบุชัดเจน บอกแต่เพียงว่า สูงกว่า 320 กม./ชม. ส่วนห้ามล้อจาก 100-0 กม./ชม.ใช้ระยะไม่ถึง 33 เมตร

