“ยุคใหม่เพิ่งเริ่มยุ่ง”

เปรียบเทียบยอดจำหน่ายรถยนต์ประจำเดือนกันยายน 2022/2021 ตลาดโดยรวม +15.6 % รถยนต์นั่ง -8.6 % รถกิจกรรมกลางแจ้ง (SUV) +18.8 % กระบะ 1 ตัน +37.2 % รถเพื่อการพาณิชย์ +0.1 % เปรียบเทียบยอดจำหน่ายรถยนต์ประจำเดือนมกราคม-กันยายน 2022/2021 ตลาดโดยรวม +19.1 % รถยนต์นั่ง +13.9 % รถกิจกรรมกลางแจ้ง (SUV) +24.0 % กระบะ 1 ตัน +22.8 % รถเพื่อการพาณิชย์ +8.2 % บรรยากาศเดือนสุดท้ายของปี มีหลายเรื่องที่ต้องทำกัน สำหรับผู้ค้ารถอย่างน้อยก็นั่งวางแผนสำหรับทำงานปีต่อไป บริษัทที่ทำแผนแบบปฏิทิน ซึ่งปีหน้าคงเป็นปีที่มองไปถึงการเติบโตอย่างแท้จริง หลายปีที่ผ่านมา เราพบเจอความท้าทายกันมามาก ด้วยปัจจัยลบล้วนๆ สิ้นปี 2565 คงเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางก้าวข้ามสิ่งร้ายๆ อย่างแท้จริง มีอะไรให้น่าคิดสำหรับวงการรถยนต์ไทยในปีหน้าบ้าง ลองมองคร่าวๆ ปีหน้าเป็นยุคใหม่ที่เริ่มยุ่งของ ”รถพลังงานสะอาด” ซึ่งแจ้งเกิดในตลาดใหม่ๆ หลังจากผ่านขั้นตอนการแนะนำมาแล้ว คงเริ่มทำยอดเติบโตกันอย่างแท้จริง ประกอบกับเวลา 12 เดือนจากนี้ไป โรดแมพของภาครัฐในการส่งเสริมการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจากแบทเตอรีจะเริ่มออกดอกออกผล เราน่าจะได้เห็นการเคลื่อนไหวของภาคอุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแบบแบทเตอรี หลายๆ เซกเมนท์ เช่น รถโดยสารไฟฟ้า รถบรรทุกไฟฟ้า รถสามล้อไฟฟ้า รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า ออกมาขายกันจริงจัง ค่ายรถที่รับเงื่อนไขของ BOI ไปแล้ว ซึ่งมีทั้งผู้ผลิตรายเล็ก และรายใหญ่ที่มีขนาดลงทุน 5,000 ล้านบาท หรือมากกว่า 5,000 ล้านบาท การเร่งเดินสายพานการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าได้ 10,000 คัน/ปี/ราย คือ เป้าหมาย เพราะว่าผู้ประกอบการเหล่านั้น ได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล แบบ 3 ปี และ 8 ปี ตามขนาดการลงทุน ก็ต้องทำตามเงื่อนไขการลงทุน และในด้านวิจัย และพัฒนา การผลิตชิ้นส่วนสำคัญต่างๆ เช่น TRACTION MOTOR การผลิตระบบ BMS ที่ทำหน้าที่บริหารจัดการแบทเตอรี ระบบควบคุมการขับขี่ หรือ DCU แม้กระทั่งการผลิตสายชาร์จแบทเตอรี เต้ารับ เต้าเสียบต่างๆ ก็เริ่มทำการผลิตกัน นอกจากนี้ สิ่งที่เกิดขึ้นชัดเจน คือ ระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้า ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนทางด้านระบบอัดประจุไฟฟ้าอัจฉริยะ (EV SMART CHARGING SYSTEM) หรือระบบประกอบอื่นๆ ก็ออกดอกออกผลในปีที่จะถึงนี้ การไหล่บ่าของรถยนต์บแรนด์จีน เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นมาสักพักหนึ่ง สำหรับตลาดรถยนต์ของไทยก็ยังได้เห็นปรากฏการณ์นี้ การเปิดบแรนด์ใหม่ๆ ในกลุ่มตลาดยานยนต์ไฟฟ้าจากจีนแบบไม่หวั่น COVID-19 น่าสนใจมาก ส่วนรถยนต์ดั้งเดิมในตลาดแทบไม่ได้ยินข่าวการเทเม็ดเงินเกี่ยวกับการลงทุนใหญ่เลย มีเพียง FORD (ฟอร์ด) เท่านั้นก็บอกว่า ลงทุนเพื่อผลิต FORD RANGER กระบะ NEW GEN กับ EVEREST (เอเวอเรสต์) NEW GEN เป็นการลงทุนเพื่อเปลี่ยนโมเดล กับเพิ่มประสิทธิภาพของโรงงาน ส่วนการเปิดบแรนด์ใหม่จากยุโรป หรือญี่ปุ่น ไม่ต้องพูดถึง...เงียบกริบ อาจเป็นเพราะปักฐานกันหนาแน่นอยู่แล้ว แต่บแรนด์จีนซึ่งเป็นรถของโลกใหม่ มีความเคลื่อนไหวตลอดเวลา อย่าลืมว่าจีน คือ ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของโลกในแง่ของปริมาณการผลิต มีบิกโฟร์เป็นแกนนำ คือ SAIC MOTOR, DONGFENG MOTOR CORPORATION, FAW GROUP และ CHANGAN AUTOMOBILE สำหรับในไทยมีเพียง SAIC MOTOR เท่านั้นที่มาลงทุนโดยตรง ส่วนอื่นๆ อยู่ระหว่างการพิจารณาแต่ดูแค่บิกโฟร์คงไม่ได้ เพราะรถจีนรายเล็กเพิ่มจำนวนบแรนด์ในตลาดไทย รถยนต์บแรนด์จีนจริงๆ ในตลาดบ้านเขา มี 75-80 บแรนด์ รวมบแรนด์รถยนต์ขนาดใหญ่ รถยนต์นั่ง รถบรรทุก และรถยนต์ไฟฟ้า อิสระ (ไม่ขึ้นอยู่ในค่ายใหญ่) 15 บแรนด์เข้าด้วยกันหมด คิดว่ามีอีกมากกว่า 10 บแรนด์ที่กำลังจะมาถึงบ้านเรา ในช่วงเวลา 2-3 ปีนี้ ซึ่งอาจเป็นบแรนด์เล็กๆ แต่เล็กของจีน ก็ใหญ่ในบ้านเราแน่นอน ช่วงเวลาของปีหน้า คนซื้อรถยนต์ไฟฟ้าใช้ต้องผ่านการติวเข้มจากบรรดาผู้ขาย เพราะการเปลี่ยนถ่ายเทคโนโลยี ทำให้ลูกค้ามีเรื่องที่ต้องรู้อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีล้ำสมัย การรู้เท่าทันวิธีใช้รถยนต์ยุคใหม่ เช่น เมื่อรถยนต์ไฟฟ้าแบทเตอรีหมด ต้องทำอย่างไร รวมถึงศัพท์แสงต่างๆ เกี่ยวกับรถยนต์ อาทิ V2L มันคืออะไร ซื้อไปได้ใช้ หรือว่าถูกหลอกให้จ่ายโดยไม่ได้ใช้จริง ภาพความหรูหราแบบนี้ ดึงดูดคนซื้อควักกระเป๋าจ่ายเงินได้ไม่ยาก ความสำคัญของการรู้เท่าทันเทคโนโลยี ทำให้เราไม่โมโหไปทุบรถตัวเองให้เสียเวลา ส่วนยอดขายของตลาดรถโดยรวมสิ้นปีนี้ คงต้องรอดูตัวเลขหลังปีใหม่ว่า เป็นไปตามการคาดการณ์หรือไม่ แต่เชื่อว่า ยอด 8.5-9 แสนคัน คงอยู่ราวๆ นี้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการแก้ปัญหาการส่งมอบรถยนต์บางค่าย ว่าคลี่คลายหรือยัง ปีที่กำลังจะผ่านไป ถือว่าเป็นปีที่ "เหนื่อยแต่สนุก" ของทุกคน ส่วนปีหน้าเชื่อว่าความคึกคักจะกลับมา และบรรยากาศน่าจะ "สนุกแต่เหนื่อย" ครับ สวัสดีปีใหม่ทุกท่าน...