ชีวิตอิสระ
ปากซอง-ปากเซ หลงเสน่ห์ “ลาวใต้”
“สะบายดีลาวใต้” นี่คือทริพพิเศษที่ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด เชิญชวนให้เราร่วมเดินทางสุดเอกซ์คูลซีฟ กับทริพ “ISUZU V-CROSS PRESS TRIP ลุย ! ท้าโลก” เส้นทางอุบลราชธานี-ปากซอง (PASONG) -ปากเซ (PAKSE) สปป. ลาว ซึ่งทริพนี้จัดขึ้นช่วงปลายเดือนมิถุนายน และแน่นอนว่า พระเอกของงานจะเป็นใครไปไม่ได้ ถ้าไม่ใช่ ISUZU D-MAX V-CROSS 4x4 MASTER OF ALL ROADS ที่มาพร้อมนิยาม “ตัวจริงทุกเส้นทาง” พาหนะคันเก่งที่พาเราท่องเที่ยวในทริพ 3 วัน 2 คืนในดินแดนลาวใต้
วันแรก รวมพลที่เมืองดอกบัวงามฯ
เช้าวันแรก เราออกเดินทางจากกรุงเทพฯ มุ่งหน้าสู่จังหวัดอุบลราชธานี โดยสายการบินไทยไลออนแอร์ เพื่อรวมพลปักหมุดเชคอินจุดสตาร์ทที่โชว์รูมอีซูซุตังปักอุบล สำนักงานใหญ่ หลังจากฟังบรรยายสรุปพโรแกรมและเส้นทางเรียบร้อยแล้ว ตั้งขบวนออกเดินทางไปด่านช่องแม็ก จุดผ่านแดนไทย-ลาว ระยะทางประมาณ 96.5 กม. ขับชิลล์ๆ บนทางเรียบฝั่งไทย ใช้เวลาแค่ 90 นาที ก็มาปักหมุดเชคอินจุดที่ 2 แบบสบายๆ
หลังดำเนินการผ่านแดนเสร็จเรียบร้อย เราขับรถข้ามชายแดนเข้าสู่ สปป. ลาว โดยการขับรถในลาวนั้น ไม่จำเป็นต้องใช้ใบขับขี่สากล สามารถใช้ใบขับขี่แบบสมาร์ทคาร์ด ที่ระบุข้อมูลเจ้าของบัตรเป็นภาษาอังกฤษของไทยได้เลย อันนี้ถือว่าสะดวกสุดๆ และไม่จำเป็นต้องเสียค่าใช้จ่ายในการทำใบขับขี่สากล
จุดหมายแรก คือ ร้านอาหาร LA MEMOIRE (ลา เมมัว) ตั้งอยู่ใจกลางเมืองปากเซ ห่างจากด่านชายแดนประมาณ 45 กม. เป็นร้านอาหารที่ตกแต่งสวยงาม บรรยากาศสบายๆ รสชาติอาหาร และความหลากหลายของอาหารทั้งไทย ลาว เวียดนาม และยุโรป ใกล้เคียงกับฝั่งไทย ซึ่งดีงามมากๆ สำหรับมื้อแรกในดินแดนปากเซ ก่อนที่จะไปจุดหมายถัดไป เราจะพาไปรู้จักกับ “นครปากเซ” เป็นเมืองเอกของแขวงจำปาสัก ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขง เป็นเมืองใหม่เพิ่งตั้งได้ไม่นาน เมืองนี้ตั้งอยู่บริเวณปากแม่น้ำเซโดน ที่บรรจบกับแม่น้ำโขง ปากเซเป็นเมืองที่มีความสำคัญทางด้านเศรษฐกิจกับแขวงจำปาสัก และเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของลาวตอนใต้ มีประชาชนหลากหลายชนชาติ เข้ามาดำรงชีวิตที่เมืองนี้
สภาพตัวเมืองนั้น ให้อารมณ์คล้ายๆ อีสานบ้านเฮาเมื่อ 20-30 ปีก่อนหน้านี้ บรรยากาศแบบบ้านๆ ต้นไม้ใหญ่มีให้เห็นตลอดเส้นทาง ความเจริญทางวัตถุยังเข้ามาไม่มาก ห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ ยังเข้ามาไม่ถึง เป็นเมืองเล็กๆ ที่มีความน่ารัก และน่าเที่ยว
จุดหมายต่อไป คือ “ตาดฟาน” หรือน้ำตกตาดฟาน ในชื่อที่คนไทยคุ้นเคย แต่ในภาษาท้องถิ่นของพี่น้องชาวลาว คำว่า “ตาด” หมายถึง น้ำตก ที่นี่ถือว่าเป็นจุดขายหลักของเมืองปากเซ และเป็นน้ำตกที่สูงที่สุดในแขวงจำปาสัก เดิมทีบริเวณนี้เคยเป็นปากปล่องภูเขาไฟ ทำให้มีลักษณะภูมิศาสตร์เป็นเหวลึก รายล้อมด้วยป่าเขา และต้นไม้สูง ตัดกับตัวน้ำตกที่มีสีขาว ไฮไลท์เด็ดของแหล่งท่องเที่ยวที่นี่ คือ “ซิพไลน์” ที่สูง และหวาดเสียวสุดๆ ด้วยความสูงกว่า 200 ม. ด้วยการโหนซิพไลน์ท้าความกล้าร่วม 4 เส้น ชมวิวน้ำตก 2 สาย ที่ไหลลงมาจากหน้าผาสูงชันกลางหุบเขา หรือถ้าใครไม่กล้าเล่น ก็สามารถนั่งจิบเครื่องดื่มสารพัดชนิด ที่มีไว้บริการนักท่องเที่ยว รวมถึงกาแฟรสชาติดี บอกเลยว่า วิวที่นี่สวยงามสุดๆ ดูกว้างใหญ่ตระการตา ตัดกับท้องฟ้าสีสวยสดใส ทำให้เพลิดเพลินกับการนั่งดื่มกาแฟรสชาติหอมหวานเคล้าบรรยากาศของธรรมชาติ
หลังจากนั้นเราก็เดินทางเบาๆ อีก 8.9 กม. ย้อนกลับเข้าที่พัก ณ สะบายดี วัลเลย์ รีสอร์ท ท่ามกลางหุบเขา รายล้อมไปด้วยธรรมชาติ และอากาศบริสุทธิ์ เหมาะกับการพักผ่อนจริงๆ
วันที่ 2 เตรียมตัวลุย ! ท้าโลก…“ตาดแซพะ”
ตื่นเช้าท่ามกลางอุณหภูมิประมาณ 20 องศา มีหมอกลอยอ้อยอิ่ง ทำให้ภาพของภูเขาเบื้องหน้าดูสวยงาม และสงบร่มเย็นมาก หลังมื้อเช้าเราออกเดินทางจากรีสอร์ท ระยะทางประมาณ 18.8 กม. มุ่งหน้าไปยัง “CC1971 CAFE” ร้านคาเฟสุดฮิท ที่ตัวตึกเป็นเหมือนตึกร้าง ถ้าเดินผ่านช่วงกลางคืน มีหลอนละครับ !
CC1971 CAFE เดิมทีเป็นอาคารสำนักงานการไฟฟ้าปากเซ แต่โดนสงครามอินโดจีนถล่มยับ สภาพตัวอาคารยังมีร่องรอยของกระสุนปืนนานาชนิด สถานที่แห่งนี้กลายเป็นจุดเชคอินอีกแห่งหนึ่งของเมืองปากเซ จากนั้นออกเดินทางอีก 3.7 กม. ไปทานมื้อกลางวันที่โรงแรมปากช่องแดนงาม และเตรียมตัวให้พร้อมก่อนไปผจญภัยบนเส้นทางวิบากอีก 59.4 กม. ใช้เวลา 2 ชม. เพื่อไปเยือนตาดแซพะ น้ำตกมหัศจรรย์แห่งลาวใต้ อีกหนึ่งไฮไลท์ คือ การขับรถฝ่าเส้นทางออฟโรดเข้าไปชมตาดแซพะ ในแขวงอัตตะปือ น้ำตกแห่งนี้มีความสูง 23 ม. กว้าง 120 ม. มีความสวยงามอลังการสุดๆ คล้ายๆ น้ำตกไนแองการา
ตาดแซพะ ตั้งอยู่ในเขตคุ้มครองแห่งชาติเซเปียน ห่างจากสามัคคีชัยเมืองหลวงของจังหวัด ประมาณ 60 กม. แต่ใช้เวลาเดินทางกว่า 2 ชม. เพราะเส้นทางค่อนข้างลำบาก ส่วนใหญ่เป็นทางลูกรัง มีหลุม และบ่อเยอะมาก เหมาะกับรถขับเคลื่อน 4 ล้อ บางช่วงของเส้นทางต้องค่อยๆ หยอด บางช่วงทำความเร็วได้ผสมปนเปกันไป ถือว่าเป็นอรรถรสหนึ่งของทริพนี้ ที่สร้างความสนุกสนานครื้นเครงในรถ
ตาดแซพะ เป็นน้ำตกตามธรรมชาติที่สวยงาม และเป็นอีกหนึ่ง UNSEEN ที่นักเดินทางไม่ควรพลาด หาจังหวะ และโอกาสเหมาะๆ ไปเชคอินได้ไม่ยาก
หลังจากที่ขบวนคาราวาน “ISUZU V-CROSS PRESS TRIP ลุย ! ท้าโลก” ชื่นชมความงดงามของธรรมชาติอันยิ่งใหญ่เสร็จแล้ว ก็เคลื่อนขบวนเดินทางต่ออีก 107 กม. เพื่อกลับเข้าตัวเมืองปากเซ แวะทานมื้อเย็นที่ร้านอาหารยอดนิยมของพี่น้องชาวลาว ร้านชิ้นดาดลูลี่ลูล่า ซึ่งคำว่า “ชิ้นดาด” ในภาษาลาว คือ หมูกระทะ จากนั้นเข้าที่พัก ณ โรงแรมจำปาสัก กแรนด์ ริมแม่น้ำโขงใกล้สะพานมิตรภาพญี่ปุ่น-ลาว ซึ่งเปรียบเสมือนประตูสู่เมืองปากเซ
วันสุดท้าย ข้ามโขง เตรียมกลับบ้าน
เช้านี้ พโรแกรมสบายๆ ออกจากที่พักเดินทางเบาๆ 7.4 กม. ขึ้นสะพานมิตรภาพญี่ปุ่น-ลาว ข้ามแม่น้ำโขง แวะสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่วัดพูสะเหลา ชมวิวอันสวยงามแบบ 360 องศาของเมืองปากเซ มองเห็นเวิ้งแม่น้ำโขงไกลสุดลูกหูลูกตา โดยที่วัดจะเห็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่สีเหลืองทองบนเนินหน้าผา และรอบๆ บริเวณวัดจะมีพระพุทธรูปองค์เล็กตั้งเรียงรายอีกมากมาย
จากนั้นเราออกเดินทางต่ออีก 49.8 กม. มุ่งหน้าสู่ด่านช่องแม็ก จุดผ่านแดนไทย-ลาว เพื่อกลับเข้าสู่ประเทศไทย ขับรถประมาณ 90.9 กม. มาแวะทานอาหารกลางวันที่ร้านชมจันทร์ ริมแม่น้ำมูล ก่อนที่จะขับรถกลับมาที่โชว์รูมอีซูซุตังปักอุบล สำนักงานใหญ่ เพื่อสิ้นสุดการเดินทางของทริพนี้อย่างสมบูรณ์แบบ
ระยะทางรวมตลอดทริพ ประมาณ 533 กม. ควรค่าแก่การเดินทาง เพราะสิ่งที่เราได้เห็น ได้สัมผัส คือ ธรรมชาติตระการตาอันยิ่งใหญ่ และงดงามในความทรงจำ ว่าครั้งหนึ่งเราได้มาเยือน และหลงเสน่ห์ “ลาวใต้” เข้าเต็มๆ !
ที่กิน+ที่นอน
ร้านอาหาร LA MEMOIRE อยู่ใจกลางเมืองปากเซ มีการตกแต่งที่สวยงาม บรรยากาศสบายๆ รสชาติอาหารใกล้เคียงกับอาหารไทย มีความหลากหลายของเมนู อาทิ อาหารพื้นเมืองลาว, ไทย, เวียดนาม และยุโรป ให้เลือกมากมาย
ที่พักตลอด 2 คืน 3 วัน เราอิ่มเอมกับบรรยากาศของธรรมชาติทั้งป่าเขา ที่สบายดี วัลเลย์ และโรงแรมจำปาสัก กแรนด์ ริมแม่น้ำโขง ท่ามกลางอากาศเย็นสบาย อุณหภูมิประมาณ 20-24 องศาเซลเซียส เป็นการรีชาร์จ ตัวเองที่ยอดเยี่ยมมาก
ขอขอบคุณ
บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด ที่เชิญชวนให้เราได้ร่วมเดินทางในทริพแห่งมิตรภาพ และเรื่องเล่ารอบดึกที่จะเป็นตำนานต่อไป และพระเอกของทริพ “NEW ISUZU V-CROSS 4x4 MAGIC EYES...ทะยานต่อ ให้โลกตาม” พิคอัพแกร่ง ดุดัน ทรงพลัง เครื่องยนต์ 3.0 DDI BLUE POWER รหัส 4JJ3-TCX กำลังสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 3,600 รตน. แรงบิด 46.0 กก.-ม. (450 นิวตันเมตร) ที่ 1,600-2,600 รตน. และจัดเต็มเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ADAS (ADVANCED DRIVER ASSISTANCE SYSTEMS) เพื่อการขับขี่ที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น
ABOUT THE AUTHOR
ลิขิต น้าประเสริฐ
ภาพโดย : บริษัทผู้ผลิตนิตยสาร 417 ฉบับเดือน กันยายน ปี 2566
คอลัมน์ Online : ชีวิตอิสระ(4wheels)