ผลงานใหม่อีกชิ้นหนึ่งของกลุ่ม STELLANTIS NV (สเตลแลนทิส เอนวี) ที่นำเรื่องราวมาเล่าสู่กันฟังในเดือนนี้ เป็นผลผลิตของค่าย OPEL (โอเพล) บริษัทผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติเยอรมัน ซึ่งใช้รูป “สายฟ้า และวงแหวน” เป็นเครื่องหมายการค้า และเป็นบริษัทรถยนต์ที่ประกาศไปแล้วว่า ภายในปี 2028 รถยนต์นั่ง และรถตู้ทุกคันที่ผลิต จะมีแต่รถพลังไฟฟ้าล้วนๆ เท่านั้น
ที่มาของรถแบบนี้ คือ COMPACT CROSSOVER SUV หรือรถกิจกรรมกลางแจ้งขนาดเล็กกะทัดรัด OPEL GRANDLAND X (โอเพล กแรนด์แลนด์ เอกซ์) และรถคู่ฝาคู่แฝด VAUXHALL GRANDLAND X (วอกซ์ฮอลล์ กแรนด์แลนด์ เอกซ์) ซึ่งเปิดตัวแบบ WORLD PREMIERE หรือ “ครั้งแรกในโลก” ที่งานมหกรรมยานยนต์ฟรังค์ฟวร์ท เมื่อเดือนกันยายน 2017 และมีผู้สั่งจองมากกว่า 100,000 ราย ในปีแรกที่เริ่มจำหน่าย เป็นรถสายพันธุ์เยอรมันที่ออกแบบ/กำหนดรายละเอียดทางวิศวกรรม และผลิตในเยอรมนี
รถรุ่นที่กล่าวข้างต้น มีตัวถังยาว 4.477 ม. กว้าง 1.856 ม. และสูง 1.609 ม. ได้รับการปรับปรุงแบบ FACELIFT หรือ “ยกหน้า” เพียงครั้งเดียวเมื่อเดือนมิถุนายน 2021 ในเวลาเดียวกันก็ตัดตัวอักษร X ออกจากชื่อรุ่น จึงเหลือเพียง OPEL GRANDLAND (โอเพล กแรนด์แลนด์) กับ VAUXHALL GRANDLAND (วอกซ์ฮอลล์ กแรนด์แลนด์)
ส่วน OPEL GRANDLAND ที่กำลังปรากฏภาพให้สัมผัสด้วยสายตาขณะนี้ เป็นรถรุ่นที่ 2 เพิ่งเปิดเผยโฉมหน้าพร้อมข้อมูลบางส่วนเมื่อวันอังคารที่ 23 เมษายน 2024 มีกำหนดเริ่มรับการสั่งจองในเดือนกรกฎาคม และจะเริ่มการส่งมอบรถในฤดูใบไม้ร่วง (ประมาณไตรมาสสุดท้าย) ปีเดียวกัน สถานที่ผลิต คือ โรงงานที่เมือง EISENACH (ไอเซนัค) ในเยอรมนี
เป็นรถแบบที่ 3 ถัดจากรถกิจกรรมกลางแจ้งข้ามพันธุ์ร่วมค่ายร่วมเครือ 2 แบบ คือ PEUGEOT 3008 (เปอโฌต์ 3008) และ PEUGEOT 5008 (เปอโฌต์ 5008) ซึ่งใช้พแลทฟอร์มที่กลุ่ม STELLANTIS NV เพิ่งออกแบบ/พัฒนาขึ้นใหม่ และตั้งชื่อว่า STLA MEDIUM PLATFORM (เอสทีแอลเอ มีเดียม พแลทฟอร์ม) เป็นพแลทฟอร์มที่ส่งผลให้ตัวถังของรถรุ่นใหม่นี้มีขนาดโตกว่ารถรุ่นเดิมในทุกมิติ คือ ยาว 4.650 ม. (ยาวขึ้นถึง 17.3 ซม.) กว้าง 1.905 ม. และสูง 1.660 ม. ทั้งภายนอก และภายในตัวถัง ไม่มีส่วนใดเลยที่เป็นวัสดุชุบโครเมียม VICE PRESIDENT DESIGN หรือรองประธานด้านการออกแบบของค่ายนี้ คือ MARK ADAMS (มาร์ค อดัมส์) นักออกแบบชาวอังกฤษวัย 63 ปี กล่าวกับผู้สื่อข่าวในวันเปิดตัวรถรุ่นนี้ว่า “เราเชื่อว่าเทคโนโลยี และวัสดุคุณภาพดี คือ สิ่งที่ผู้คนพึงพอใจ ไม่ใช่สิ่งฉาบฉวยอย่างชิ้นส่วนชุบโครเมียม”
ภายในห้องโดยสารซึ่งติดตั้งเก้าอี้ที่นั่ง 2 แถว ก็มีจุดน่าสนใจอยู่มากมาย ผ้าใยแฟบริคที่ใช้หุ้ม และบุอุปกรณ์ต่างๆ ล้วนทำจากวัสดุที่หมุนเวียนกลับมาใช้ใหม่ 100 % เก้าอี้ที่นั่งแถวหลังซึ่งสามารถพับราบพนักพิงได้ แยกเป็น 3 ส่วน ในลักษณะ 40:20:40 ส่วนห้องเก็บของท้ายรถก็จุถึง 1,641 ลิตร เมื่อพับราบเก้าอี้แถวหลัง นอกจากนั้นยังมีกล่อง และช่องเก็บของอีกหลายจุด ซึ่งรวมแล้วสามารถจุของได้มากกว่า 35 ลิตร
เป็นรถขับล้อหน้าซึ่งจะมีขุมพลังขับเคลื่อนให้เลือกรวม 3 แบบ คือ (1) ด้วยพลังของเครื่องยนต์เบนซินซึ่งทำงานร่วมกันกับระบบ MILD HYBRID หรือไฮบริดแบบอ่อน ที่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 48 โวลท์ 20 กิโลวัตต์/28 แรงม้า (2) ด้วยระบบ PLUG-IN HYBRID หรือไฮบริดชนิดต้องมีการเสียบปลั๊กเพื่อชาร์จไฟ ซึ่งวิ่งด้วยพลังไฟฟ้าล้วนๆ ได้ไกล 85 กม. เมื่อชาร์จไฟเต็ม และวัดตามมาตรฐาน WLTP (3) ด้วยพลังของมอเตอร์ไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว ซึ่งจะวิ่งได้ไกลถึง 700 กม. เมื่อชาร์จไฟเต็ม และวัดตามมาตรฐาน WLTP
ยังไม่มีการประกาศราคาค่าตัว แต่คาดหมายกันว่า รถ MILD HYBRID น่าจะเริ่มต้นที่ระดับ 35,000 ยูโร หรือประมาณ 1.40 ล้านบาทไทย รถ PLUG-IN HYBRID น่าจะเริ่มต้นที่ 41,000 ยูโร หรือประมาณ 1.64 ล้านบาทไทย ส่วนรถพลังไฟฟ้าล้วนๆ อาจจะสูงถึง 53,000 ยูโร หรือประมาณ 2.12 ล้านบาทไทย (เมื่อคิดว่าต้องใช้เงินไทยถึง 40 บาท ในการแลกเงินฝรั่ง 1 ยูโร)
รถกิจกรรมกลางแจ้งข้ามพันธุ์ขนาดเล็กกะทัดรัด ขับเคลื่อนล้อหน้า
มิติตัวถัง 4.650x1.905x1.660 ม. ห้องโดยสาร 5 ที่นั่ง
เครื่องยนต์เบนซิน+ระบบ MILD HYBRID 48 โวลท์ 20 กิโลวัตต์/28 แรงม้า
เครื่องยนต์เบนซิน PLUG-IN HYBRID วิ่งด้วยพลังไฟฟ้าล้วนๆ 85 กม.
ระบบขับด้วยพลังไฟฟ้าล้วนๆ วิ่งได้ไกล 700 กม. (WLTP) เมื่อชาร์จไฟเต็ม