BENTLEY CONTINENTAL GT SPEED/GTC SPEED รุ่นใหม่ของรถหรู รถแรง รถเร็ว สายเลือดผู้ดี มีทั้งหลังคาแข็งหลังคาอ่อน

สหราชอาณาจักร-BENTLEY MOTOR (เบนท์ลีย์ มอเตอร์) ผู้ผลิตรถหรูรายเก่าแก่ของเมืองผู้ดี ใช้วันอังคารสุดท้ายของเดือนมิถุนายน 2024 เป็นวันเปิดตัวรถคูเป BENTLEY CONTINENTAL GT (เบนท์ลีย์ คอนทิเนนทัล จีที) และรถเปิดประทุน BENTLEY CONTINENTAL GTC (เบนท์ลีย์ คอนทิ เนนทัล จีทีซี) รุ่นใหม่ 

นับเป็นรถรุ่นที่ 4 และเป็น ROAD GOING CAR หรือรถวิ่งได้ตามท้องถนนที่ทรงพลังที่สุดของค่ายนี้ ย้อนหลังไปในช่วงเวลากว่า 2 ทศวรรษที่ผ่านมา รถหรู รถแรง รถเร็ว ติดป้ายชื่อ BENTLEY CONTINENTAL GT/GTC ออกจำหน่ายทั่วโลกไปแล้วรวม 3 รุ่น รุ่นแรกเริ่มจำหน่ายในปี 2003 ตามมาด้วยรุ่นที่ 2 ในปี 2011 และรุ่นที่ 3 ในปี 2018 ผู้ผลิตยืนยันว่า เฉพาะในส่วนของตัวถังทั้งภายนอก และภายใน แม้ดูเหมือนยังหลงเหลือสิ่งดีดีจากรถรุ่นก่อนอยู่ไม่น้อย แต่จริงๆ แล้ว รถรุ่นที่ 4 นี้ ใช้ชิ้นส่วนใหม่ถึงร้อยละ 68

ในวันเปิดตัว รถรุ่นใหม่นี้มีอยู่เพียง 2 โมเดล คือ BENTLEY CONTINENTAL GT SPEED ซึ่งเป็นรถ 2 ประตูคูเป 4 ที่นั่ง ซึ่งมีตัวถัง ยาว 4.895 ม. กว้าง 2.187 ม. (รวมกระจกมองข้าง) และสูง 1.397 ม. กับ BENTLEY CONTINENTAL GTC SPEED ซึ่งเป็นรถเปิดประทุน 2 ประตู 4 ที่นั่ง ซึ่งมีตัวถังยาว 4.895 ม. กว้าง 2.187 ม. และสูง 1.392 ม. ติดตั้งประทุนหลังคาแบบอ่อน (มีให้เลือก 7 สี) บังคับเปิดปิดโดยการกดปุ่ม ซึ่งทำได้เมื่อรถยังวิ่งเร็วไม่เกิน 48 กม./ชม. การเปิดประทุนแต่ละครั้งใช้เวลา 19 วินาที

ที่เปลี่ยนไปมาก คือ ระบบขับ ทั้ง 2 โมเดลไม่ได้ติดตั้งระบบขับทุกล้อด้วยพลังของเครื่องยนต์เบนซิน ดับเบิลยู 12 สูบ เหมือนรถรุ่นก่อน แต่ใช้ระบบขับ PLUG-IN HYBRID (พลัก-อิน ไฮบริด) หรือไฮบริดชนิดต้องเสียบปลั๊กเพื่อชาร์จไฟ ที่ใช้เครื่องยนต์เบนซิน วี 8 สูบ 3,996 ซีซี 441 กิโลวัตต์/596 แรงม้า ทำงานร่วมกันกับมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 140 กิโลวัตต์/190 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติคลัทช์คู่ 8 จังหวะ ของ PORSCHE (โพร์เช) และแบทเตอรีขนาดความจุ 25.9 กิโลวัตต์ชั่วโมง ได้กำลังรวมสูงสุด 575 กิโลวัตต์/782 แรงม้า และจะวิ่งด้วยพลังไฟฟ้าล้วนๆได้ไกล 81 กม. เมื่อชาร์จไฟเต็ม

สมรรถนะความเร็วตามข้อมูลของผู้ผลิตรถคูเป อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ใน 3.2 วินาที ความเร็วสูงสุด 335 กม./ชม. (ไม่เคยมีรถแบบใดของค่ายนี้ที่วิ่งได้เร็วเท่านี้) ส่วนรถเปิดประทุน ตัวเลขเปลี่ยนเป็น 3.4 วินาที และ 285 กม./ชม.

ราคาค่าตัว เริ่มต้นที่ 236,000 ปอนด์ หรือประมาณ 10.9 ล้านบาทไทย (เมื่อคิดว่าต้องใช้เงินไทยถึง 46 บาท ในการแลกเงินอังกฤษ 1 ปอนด์)