อภิญญา ชัยสันติกุลวัฒน์ ผู้จัดการทั่วไป BENTLEY BANGKOK

“ฟอร์มูลา” สัมภาษณ์พิเศษ อภิญญา ชัยสันติกุลวัฒน์ ผู้จัดการทั่วไป BENTLEY BANGKOK โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ BENTLEY (เบนท์ลีย์) อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย

ฟอร์มูลา : คุณมีความคิดเห็นอย่างไรกับอุตสาหกรรมรถยนต์ในปีที่ผ่านมา ?

อภิญญา : ในปี 2567 อุตสาหกรรมรถยนต์ในประเทศไทย ได้รับผลกระทบจากสภาพเศรษฐกิจ และการเมือง ทำให้ยอดจำหน่าย และยอดผลิตลดตลงอย่างต่อเนื่อง และยังส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อของกลุ่มลูกค้าในตลาดระดับบน ทำให้ยอดจดทะเบียนของรถยนต์ ULTRA LUXURY ลดลงถึง 30 % เมื่อเทียบกับปี 2566 และมีอัตราลดลงมากกว่าตลาดโดยรวมเล็กน้อย

ฟอร์มูลา : สถานการณ์ปีนี้คาดว่าจะเป็นอย่างไร ?

อภิญญา : ปีนี้คาดว่าตลาด ULTRA LUXURY ทรงตัว หรือฟื้นตัวเล็กน้อย ต้องรอดูนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐว่าจะเป็นอย่างไร สร้างความมั่นใจให้ลูกค้ามากขึ้นหรือไม่ เพราะสำหรับลูกค้า เมื่อมีสินค้าใหม่ออกสู่ตลาดก็ย่อมเป็นที่ต้องการอยู่แล้ว ถ้านโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาดีในระยะยาว ตลาดก็มีแนวโน้มจะฟื้นตัว และจะเกิดการแข่งขันที่สูงขึ้น รวมถึงกลุ่มรถยนต์ระดับบนก็จะส่งเสริมกลยุทธ์ด้วยการพัฒนาโมเดลใหม่ พร้อมเทคโนโลยีที่หลากหลาย เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของตลาด

ฟอร์มูลา : ปีที่แล้ว BENTLEY ประสบความสำเร็จมากน้อยเพียงใด และปีนี้วางแผนไว้อย่างไร ?

อภิญญา : ปี 2567 BENTLEY มียอดขายตามเป้าที่ตั้งไว้ เพราะลูกค้าให้การตอบรับเป็นอย่างดี โดยเฉพาะในรุ่นไฮบริดที่เปิดตัวตั้งแต่ปี 2566 ส่วนปีนี้ BENTLEY วางกลยุทธ์ต่อเนื่องจากปีที่แล้ว เริ่มจากการแนะนำ BENTLEY GT เจเนอเรชันใหม่ ที่ทำให้ BENTLEY มีสินค้าในทุกกลุ่ม และสามารถเข้าถึงลูกค้าได้ โดยมีรถราคาตั้งแต่ 14-33 ล้านบาท อีกทั้ง BENTLEY ยังให้ความสำคัญกับ CSI ในทุกๆด้าน เพื่อพัฒนาการให้บริการอย่างต่อเนื่อง ในปีที่แล้วเราสามารถทำยอดได้ตามเป้า จากการทำการตลาดเชิกรุกร่วมกับพันธมิตร และการเปิดตลาดใหม่ในจังหวัดภูเก็ต และอุดรธานี เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าใหม่ และในปีนี้เรามาพร้อมกับกลยุทธ์ด้านพโรดัคส์ที่เราได้เปิดตัวรถยนต์แบบเครื่องยนต์ไฮบริดใหม่ครบทุกรุ่น เพื่อให้เข้าถึงลูกค้าในทุกเซกเมนท์ และยังคงให้ความสำคัญกับการบริการหลังการขายมาตรฐานโรงงานที่ถือเป็นจุดแข็งของ BENTLEY ที่สร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้ามาโดยตลอด พร้อมแผนพัฒนาการบริการเพื่อรองรับรถยนต์ไฮบริดที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น

การขยายตลาดต่างจังหวัดได้ผลตอบรับดีมาก ลูกค้าบอกต่อแบบปากต่อปาก รวมถึงการบริการที่ถือเป็นจุดแข็งของ BENTLEY ที่ได้รับจาก เอเอเอส ออโต้เซอร์วิส ที่ดำเนินธุรกิจมาเป็นเวลานาน จนได้รับการยอมรับในประเทศไทย รวมถึงจุดเด่นของรถยนต์รุ่นที่เป็นตัวหลักของ BENTLEY นั่นคือ รุ่น FLYING SPUR HYBRID (ฟลายอิง สเปอร์ ไฮบริด) ที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมายของบแรนด์ แต่สำหรับในไทย รุ่น FLYING SPUR เพราะลูกค้า BENTLEY ต้องการภาพลักษณ์หรูหรา และ FLYING SPUR คือ รถแบบลีมูซีนที่เป็นตัวแทนของความหรูหรา และสง่างาม แต่ยังโดดเด่นด้วยสมรรถนะในการขับขี่แบบรถยนต์สปอร์ท และความสะดวกสบายแบบรถยนต์กแรนด์ ทัวริง ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นผู้ขับขี่ หรือผู้โดยสาร FLYING SPUR จึงสามารถตอบโจทย์ ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ตามนิยาม “WHEN SPORT SEDEN MEETS LUXURY LIIMOUSINE”

ฟอร์มูลา : ปีนี้จะมีรถรุ่นใหม่เพิ่มขึ้นหรือไม่ และรุ่นไหนจะเป็นรุ่น เรือธง ?

อภิญญา : ปีนี้ BENTLEY จะเปิดตัวไฮบริดรุ่นใหม่ครบทุกรุ่น เริ่มตั้งแต่ต้นปี NEW CONTINENTAL GT/GTC (คอนทิเนนทัล จีที/จีทีซี) ใหม่ รุ่นย่อย SPEED (สปีด) และ MULLINER (มัลลิเนอร์) รถยนต์สปอร์ทคูเป โฉมใหม่ที่ทรงสมรรถนะที่สุดของบแรนด์ ตามด้วย NEW FLYING SPUR รุ่นย่อย SPEED และ MULLINER ซูเพอร์คาร์แบบ 4 ประตูรุ่นแรกของบแรนด์ โดยทั้ง 2 รุ่นมากับเครื่องยนต์แบบ ULTRA PERFORMANCE V8 HYBRID นวัตกรรมใหม่ที่ให้พละกำลังสูงถึง 782 แรงม้ากับแรงบิด 1,000 นิวทันเมตรที่ถือว่าสูงสุดในประวัติศาสตร์ของ BENTLEY และสุดท้ายจะเปิดตัวรุ่นย่อย BENTAYGA ATELIER EDITION (เบนเทย์กา อเทลิเยร์ เอดิชัน) รถยนต์ SUV แบบอเนกประสงค์ เครื่องยนต์ V6 ไฮบริดในรุ่นฐานล้อธรรมดา และเครื่องยนต์ V8 (ICE) ในรุ่นฐานล้อยาวที่โดดเด่นด้านการออกแบบ และความหรูหรา

สำหรับรุ่นที่จะเป็นเรือธงของ BENTLEY ปีนี้จะเป็นรุ่น BENTAYGA เพราะเป็นรุ่นที่ลูกค้าให้ความมั่นใจมากสำหรับการขับในเมือง พร้อมกันนี้ยังมีรุ่นใหม่แนะนำสู่ตลาด รวมถึงยังมีแผนจะแนะนำรุ่นย่อยออกตลาดเพิ่มขึ้น

ฟอร์มูลา : ลูกค้า BENTLEY ให้การตอบรับรถไฮบริดมากน้อยเพียงใด ?

อภิญญา : นับตั้งแต่ BENTLEY แนะนำรถยนต์ไฮบริดเข้าสู่ตลาดในประเทศไทย ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้า โดยในปี 2566 มียอดส่งมอบรถยนต์ BENTLEY ถึง 70 คัน ซึ่งเป็นสถิติใหม่ของเรา แต่ในปีนี้ด้วยสภาพเศรษฐกิจ และตลาดที่ชะลอตัวลง อาจมีผลต่อการตัดสินใจซื้อ เราก็มีแผนรองรับ ไม่ว่าจะเป็นกลยุทธ์ด้านพโรดัคส์ที่ตอบโจทย์ทุกเซกเมนท์ แคมเปญ และกิจกรรมส่งเสริมการขาย พร้อมแพคเกจการดูแลหลังการขายที่น่าเชื่อถือเพื่อให้ลูกค้าตัดสินใจได้ง่ายขึ้น

ฟอร์มูลา : มีแผนลงทุนขยายโชว์รูม และศูนย์บริการอย่างไร ?

อภิญญา : BENTLEY BANGKOK มีแผนขยายศูนย์บริการที่ดอนเมืองในปี 2569-2570 เพื่อรองรับบริการรถยนต์ที่มากขึ้น และอำนวยความสะดวกให้ลูกค้า เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับงานบริการรถยนต์ที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาแผนงาน และแนวโน้มของตลาดทั้งในระยะสั้น และระยะยาว แต่ปัจจุบันจะเน้นการบริการด้วยโมบายเซอร์วิศ สำหรับลูกค้าในต่างจังหวัดที่มีแผนจะขยายมากขึ้น โดยร่วมมือกับพันธมิตรในการให้บริการ 

ฟอร์มูลา : ปัจจุบันพฤติกรรมของลูกค้ามีการเปลี่ยนแปลงไปมากน้อยเพียงใด ?

อภิญญา : พฤติกรรมของลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูงในประเทศไทยยังคงไม่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม โดยลูกค้ากลุ่มนี้มักจะซื้อรถยนต์ตามความหลงใหล หรือ PASSION INVERSTMENT คือ เลือกลงทุนในของสะสม หรือสิ่งที่ตัวเองรักตามความชอบส่วนตัว โดยเน้นที่ชื่อเสียง และความน่าเชื่อถือของบแรนด์เป็นหลัก มากกว่าคุณสมบัติ และรายละเอียดของตัวรถ ซึ่งแตกต่างจากลูกค้าในประเทศแถบยุโรป หรืออเมริกาที่เน้นเรื่องการใช้งาน และฟีเจอร์ต่างๆ แต่สำหรับรถ BENTLEY มีความแตกต่างด้านการตกแต่งภายนอก และภายในที่เป็นแบบเฉพาะบุคคล ซึ่ง BENTLEY เคยจัดกิจกรรม BENTLEY MULLINER EXCLUSIVE CO-CREATION เชิญลูกค้ารถยนต์ BENTLEY สัมผัสประสบการณ์การรังสรรค์รถยนต์ในแบบเฉพาะตัวร่วมกับนักออกแบบจาก BENTLEY MULLINER ทำให้ลูกค้ามองเห็นภาพได้ชัดมากขึ้น และคาดว่าจะมีการจัดกิจกรรมแบบนี้อีกในอนาคต

นอกจากนี้ ในการเปิดตัวรถยนต์ไฮบริดยังมีการเปลี่ยนแปลงช่วงอายุของลูกค้า จากเดิมจะมีกลุ่มลูกค้าอายุช่วง 40-50 ปี ที่อัพเกรดมาจากบแรนด์พรีเมียมหันมาสนใจ ULTRA LUXURY หรือบางคนมีรถยนต์ BENTLEY อยู่แล้ว หรือบ้างก็มีซูเพอร์คาร์ แล้วมาสนใจรถไฮบริด จนกระทั่งปีนี้ แนะนำ GT กลุ่มช่วงอายุของลูกค้าก็จะลดลงอีก โดยลูกค้าอายุน้อยสุดขณะนี้คือ 21 ปี ชื่นชอบ GT เพราะเป็นรถสปอร์ทที่หรูหรา และมีที่นั่งแถว 2 รวม 4 ที่นั่ง

ฟอร์มูลา : เพราะเหตุใด BENTLEY จึงได้รับการตอบรับเพิ่มมากขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับในอดีตที่ผ่านมา ?

อภิญญา : BENTLEY เพิ่มรถรุ่น HYBRID และการตอบรับที่ดีของ FLYING SPUR HYBRID ความเชื่อมั่นในการบริการหลังการขาย การพัฒนารถยนต์ไฮบริดในระดับ ULTRA LUXURY ที่สามารถใช้งานได้ทุกวัน ตอบโจทย์ทั้งด้านสมรรถนะ และความสะดวกสบายในการขับขี่ให้แก่ทั้งผู้ขับขี่ และผู้โดยสาร อีกทั้งรูปลักษณ์ที่ดูร่วมสมัยยิ่งขึ้น แต่ยังไม่ทิ้งความหรูหรา และงานฝีมือที่เป็นเอกลักษณ์ของบแรนด์ พร้อมกับจุดเด่นด้านการออกแบบเฉพาะตัวให้สะท้อนตัวตนของเจ้าของ ทำให้บแรนด์ BENTLEY โดดเด่น และน่าจับตามองกว่าเมื่อก่อน

ฟอร์มูลา : กลยุทธ์ที่จะใช้ในการแข่งขันเน้นอย่างไร ?

อภิญญา : กลยุทธ์หลักของ BENTLEY คือ จะแนะนำรถ HYBRID ใหม่ทำให้ปีนี้รถยนต์ BENTLEY จะมีรุ่น HYBRID ครบทุกรุ่น รวมถึงการทำกิจกรรมการตลาดร่วมกับพันธมิตรมากขึ้น และขยายตลาดต่างจังหวัด ให้การบริการ CERTIFIED BY BENTLEY สำหรับรถที่ซื้อจาก AAS ปีนี้เรามาพร้อมกับกลยุทธ์ด้านพโรดัคส์ที่เราเปิดตัวรถยนต์ไฮบริดครบทุกรุ่น ตอบโจทย์ทุกเซกเมนท์ พร้อมทำการตลาดเชิกรุกร่วมกับพันธมิตรชั้นนำในแวดวงต่างๆ เดินหน้าโรดโชว์เปิดตลาดใหม่ในเขตเศรษฐกิจของหัวเมืองใหญ่ในภาคใต้ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือเพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าใหม่ และสร้างบแรนด์ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น ชูจุดแข็งด้านการบริการหลังการขายร่วมกับพันธมิตรในพื้นที่ พร้อมดึงลูกค้าเจ้าของรถยนต์ BENTLEY บอกต่อประสบการณ์พิเศษ

ฟอร์มูลา : บริการเสริมด้านต่างๆ มีอะไรบ้าง ?

อภิญญา : รถยนต์ BENTLEY ที่ซื้อจาก BENTLEY BANGKOK ทุกคันจะได้รับสิทธิ์การบริการหลังการขายมาตรฐานโรงงานผู้ผลิต การประกันแบทเตอรีไฮบริด “นานที่สุด” 8 ปี หรือ 160,000 กม. (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) พร้อมด้วยการรับประกันโดยโรงงาน และบริการผู้ช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชม. นาน 3 ปี สำหรับเครื่องยนต์รุ่น V8 HYBRID รับ SERVICE PACKAGE นาน 3 ปีเต็ม พร้อมสิทธิ์การต่อการรับประกันโดยโรงงาน สูงสุด 4 ปี

ฟอร์มูลา : คุณมีความคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้า ?

อภิญญา : ในอนาคตแนวโน้มของรถยนต์น่าจะเป็นรถยนต์ไฟฟ้า แต่สำหรับประเทศไทยในช่วงนี้น่าจะเป็นรถยนต์ไฮบริด และรถยนต์ไฟฟ้า 100 % เพราะในส่วนของตลาด LUXURY ยังไม่มีไฟฟ้าล้วน และขณะนี้ในต่างประเทศก็มีการชะลอตัว แต่สำหรับ BENTLEY MOTORS ได้ประกาศแผนเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าแบบอเนกประสงค์รุ่นแรกในปี 2569 เพื่อเจาะตลาดใหม่ในฐานะ LUXURY URBAN SUV รุ่นแรกของโลก ซึ่งตัวรถจะได้การออกแบบ และประกอบขึ้น ณ โรงงานประเทศอังกฤษ และจะถือเป็นรถยนต์รุ่นแรกในบรรดาโมเดล PHEV หรือ BEV ที่เตรียมจะเปิดตัวในทุกปีนับจากนี้เพื่อเดินหน้าสู่การเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแบบเต็มตัวในปี 2578

ฟอร์มูลา : ตลาดรถพรีเมียมในปัจจุบัน และอนาคต 3-5 ปี จะเป็นอย่างไร ?

อภิญญา : สำหรับ BENTLEY MOTORS ได้ประกาศแผนสู่การเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแบบเต็มตัวในปี 2578 ในระหว่างนี้ รถยนต์ BENTLEY จะเน้นที่การพัฒนาเทคโนโลยีให้ทันสมัยมากขึ้น ซึ่งถ้าเป็นรถยนต์ไฟฟ้าก็จะเน้นเรื่องการพัฒนาซอฟท์แวร์ และระบบ ADAS หรือ ADVANCED DEER ALERT SYSTEM คือ เทคโนโลยีเพื่อช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้แก่ผู้ขับขี่ด้วยการทำงานที่หลากหลาย เช่น การส่งสัญญาณเสียงเตือน, การช่วยควบคุมคันเร่ง การเบรคฉุกเฉินอัตโนมัติ และในอนาคตสามารถทำให้รถยนต์ขับขี่ได้เองโดยอัตโนมัติ

ส่วนการจัดกิจกรรมการตลาดจะเน้นการขยายตลาดไปในต่างจังหวัด และเพิ่มพันธมิตรทางธุรกิจมากขึ้น 

ฟอร์มูลา : คุณมีความคิดเห็นอย่างไรกับการปรับภาษีเครื่องยนต์ V8 ตั้งแต่เดือนมกราคม ปีหน้า BENTLEY ได้รับผลกระทบมากน้อยเพียงใด ?

อภิญญา : ภาษีที่จะปรับส่งผลกระทบบ้างกับรถยนต์ BENTLEY เพราะว่า BENTLY เป็นรถนำเข้าที่มีเครื่องยนต์ วี 6 และวี 8 ต่ำกว่า 3,000 ซีซี จะต้องเสียภาษีเพิ่มจาก 8 เป็น 15 % แต่ BENTLEY ได้รับผลกระทบแค่รุ่นเดียว เราก็ต้องเน้นทำตลาดรุ่นอื่น ที่ไม่ได้รับผลกระทบ 

ฟอร์มูลา : ปัจจุบันลูกค้านิยม ซื้อ BENTLEY สด หรือผ่อน ?

อภิญญา : ก่อนจะมีรุ่นไฮบริด ลูกค้านิยมซื้อสด และผ่อนพอๆ กัน แต่หลังจากมีลูกค้ากลุ่มใหม่ และมีรถไฮบริดเข้ามาในตลาดลูกค้าจะนิยมซื้อสดมากว่าผ่อนในอัตรา 75:25  เนื่องจากลูกค้าไม่อยากจ่ายดอกเบี้ย รวมถึง BENTLEY มีลีซิงรองรับ และมีการส่งเสริมการขาย ทำให้ลูกค้านิยมซื้อเงินสดกันมาก

ฟอร์มูลา : คุณมองว่า BENTLEY ประสบความสำเร็จมากน้อยเพียงใด และเป้าหมายต่อไปจะเป็นอย่างไร ?

อภิญญา : BENTLEY ประสบความสำเร็จอย่างมากนับตั้งแต่เปิดตัวรุ่นไฮบริด ในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา และทำให้มีลูกค้ากลุ่มใหม่เกิดขึ้น รวมทั้งโรงงานยังมีแผนจะเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า 100 % ที่มากด้วยเทคโนโลยี ทำให้สินค้ามีความโดดเด่น และแข็งแกร่งยิ่งขึ้น มีแพคเกจเสริมเป็นวารันตีจากโรงงาน การขยายตลาดรถมือสอง ขณะนี้ยังไม่ได้ทำเต็มรูปแบบ โดยจะเน้นการตรวจสภาพรถให้แก่ลูกค้า โดยมีการตรวจเชค 79 รายการตามมาตรฐานของ BENTLEY และสามารถเทียบราคาได้ 

ส่วนเป้าหมายของ BENTLEY คือ ต้องการสร้างสินค้าใช้งานได้ทุกวัน สมรรถนะสูง มีฟีเจอร์ใหม่ที่ตอบโจทย์ลูกค้า ลูกค้าได้รับความพึงพอใจจาก BENTLEY BANGKOK จนทำให้มีความมั่นใจในบแรนด์ที่จะบอกต่อไปยังลูกค้าอื่นให้ตัดสินใจเลือก BENTLEY เพราะ BENTLEY BANGKOK โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ให้ความสำคัญสูงสุดกับการดูแลหลังการขาย ด้วยประสบการณ์อันยาวนานกว่า 38 ปี พร้อมเครื่องมือตรวจสอบ และวิเคราะห์สำหรับรถยนต์ BENTLEY โดยเฉพาะนำเข้าจากโรงงาน การรับประกันอะไหล่แท้ และบุคลากรที่ผ่านการอบรมอย่างเข้มข้น โดยมี QUALIFIED HIGH VOLTAGE TECHNICIAN หนึ่งเดียวในประเทศไทย เป็นผู้รับรองงานซ่อม และงานบำรุงรักษารถยนต์ไฮบริดตามมาตรฐานโรงงาน ทั้งนี้เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับเจ้าของรถยนต์ BENTLEY ตามนโยบายหลักของบริษัทที่ว่า “เอเอเอสฯ ดูแลทั้งรถ และคุณ (AAS LOOKING AFTER YOU AND YOUR CAR)” และให้ชื่อ AAS เป็น “THE NAME YOU CAN TRUST”