นำเรื่องราวของรถพลังไฟฟ้าล้วนๆ มาเล่าสู่กันฟังอีกครั้งหนึ่ง เป็นรถ 5 สัญชาติ คือ รถจีน รถเยอรมัน รถฝรั่งเศส รถสาธารณรัฐเชค และรถญี่ปุ่น เป็นผลงานของผู้ผลิตรถยนต์ 6 ยี่ห้อ คือ AUDI (เอาดี) OPEL (โอเพล) PEUGEOT (เปอโฌต์) DS (เดแอส) SKODA (สโกดา) และ NISSAN (นิสสัน) มีทั้งรถเก๋งซีดาน รถเก๋งฟาสต์แบค รถเก๋งแฮทช์แบค และ SUV หรือรถกิจกรรมกลางแจ้ง
เปิดระเบียงด้วย AUDI E5 SPORTBACK (เอาดี อี 5 สปอร์ทแบค) ผลงานชิ้นแรก และเป็นชิ้นเดียวในขณะนี้ของค่าย AUDI ไม่มีโลโก “สี่ห่วง” ซึ่งเพิ่งปรากฏตัวให้เห็นเป็นครั้งแรก ที่งานมหกรรมยานยนต์เซี่ยงไฮ้ครั้งล่าสุด ซึ่งมีขึ้นระหว่างวันที่ 23 เมษายน-2 พฤษภาคม 2025 แต่ต้องรอจนถึงฤดูร้อนของปีนี้ (ประมาณไตร 3) จึงจะเริ่มการจำหน่าย
AUDI ไม่มีโลโก “สี่ห่วง” และต้องพิมพ์ หรือเขียนด้วยอักษรนำเท่านั้น เป็นยี่ห้อรถที่เพิ่งก่อกำเนิดขึ้นใหม่เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2024 เพื่อใช้กับรถที่จะผลิตเพื่อจำหน่ายในสาธารณรัฐประชาชนจีนโดยเฉพาะ เป็นกิจการรวมทุนของผู้ผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่ 2 ราย คือ AUDI AG (เอาดี อาเก) ของเยอรมนี ที่ประกอบกิจการมายาวนานกว่าหนึ่งศตวรรษ กับ SAIC MOTOR CORPORATION LIMITED (เอสเอไอซี มอเตอร์ คอร์พอเรชัน ลิมิเทด) บริษัทรถยนต์รายใหญ่ที่สุดของรัฐบาลจีน ที่เริ่มกิจการเมื่อปี 1955 และมีรถอยู่ในเครือข่ายมากมาย เช่น MG (เอมจี) MAXUS (แมกซัส) IM (ไอเอม) ROEWE (โรเว) และ WULING (อู่หลิง)
AUDI E5 SPORTBACK รถแบบแรกของค่ายนี้ เป็นรถที่ออกแบบ และพัฒนาโดยใช้เทคโนโลยีและชิ้นส่วนหลายชิ้นร่วมกันกับรถร่วมค่ายร่วมเครือซึ่งติดป้ายชื่อ IM L6 (ไอเอม แอล 6) และเริ่มการจำหน่ายในเมืองมังกรเมื่อเดือนพฤษภาคม 2024 รถจีนที่ว่านี้เป็นรถเก๋งซีดานขนาดกลาง ในตัวถัง 4 ประตู 5 ที่นั่ง ยาว 4.937 ม. กว้าง 1.960 ม. และสูง 1.474 ม. ติดตั้งระบบขับด้วยพลังไฟฟ้าล้วนๆ ซึ่งมีให้เลือก 3 แบบ คือ (1) ระบบขับล้อหลัง ซึ่งใช้มอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 245 กิโลวัตต์/333 แรงม้า ทำงานร่วมกันกับแบทเตอรีขนาดความจุ 74 กิโลวัตต์ชั่วโมง มีระยะเดินทาง 690 กม. เมื่อวัดตามมาตรฐาน CLTC ของจีน (2) ระบบขับล้อหลัง ซึ่งใช้มอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 300 กิโลวัตต์/408 แรงม้า และแบทเตอรีขนาดความจุ 100 กิโลวัตต์ชั่วโมง มีระยะเดินทาง 850 กม. (3) ระบบขับทุกล้อ ซึ่งใช้มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ชุด กำลังรวม 579 กิโลวัตต์/787 แรงม้า และแบทเตอรีขนาดความจุ 100 กิโลวัตต์ชั่วโมง มีระยะเดินทาง 780 กม.
AUDI E5 SPORTBACK มีขนาดตัวถัง ยาว 4.881 ม. กว้าง 1.959 ม. สูง 1.478 ม. และมีช่วงฐานล้อยาว 2.950 ม. ซึ่งตามมาตรฐานที่ใช้กันในยุโรป ก็จัดว่าเป็น COMPACT EXECUTIVE CAR หรือ D-SEGMENT CAR นั่นเอง ตัวถังที่ว่านี้วางตัวอยู่บนพแลทฟอร์มที่ฝ่ายเยอรมัน และฝ่ายจีนร่วมกันออกแบบ/พัฒนาขึ้นใหม่ และตั้งชื่อว่า ADVANCED DIGITIZED PLATFORM หน้าตา และรูปทรงองค์เอวของตัวถังเห็นตัวจริงแล้วต้องยอมยกนิ้วให้ ข้อมูลในสื่อประชาสัมพันธ์ของค่ายนี้บอกว่า ทั้งส่วนหน้า และส่วนท้ายของรถ ออกแบบอย่างที่เรียกในภาษาอังกฤษว่า MINIMALIST IN FORM, AND MAXIMALIST IN FUNCTION ซึ่งน่าจะหมายความว่า “ใช้รูปฟอร์มน้อยที่สุด แต่ได้ประโยชน์ใช้สอยสูงสุด”
ภายในห้องโดยสารที่ระบุว่า เป็นผลลัพธ์ของการผสมผสานกันอย่างลงตัว ของความหรูหราสง่างามและเทคโนโลยีระดับ CUTTING-EDGE หรือ “ก้าวล้ำนำสมัย” คอนโซลกลางมีที่วางโทรศัพท์สมาร์ทโฟน 2 เครื่อง พร้อมระบบชาร์จไฟไร้สายขนาด 50 วัตต์ หลังคา PANORAMIC GLASS ROOF มีระบบปรับความเข้มความใสของแสงโดยอัตโนมัติ ที่ขาดเสียมิได้สำหรับรถหรู และไฮเทคยุคนี้ก็คือ การปรับระบบการทำงานต่างๆ ในตัวรถโดยวิธี OVER-THE-AIR UPDATE คือ ทำได้ผ่านอากาศโดยไม่ต้องนำรถเข้าศูนย์
เป็น ALL-WHEEL STEERING CAR หรือรถบังคับเลี้ยวทุกล้อ ที่มีให้เลือกทั้งรถขับเคลื่อนล้อหลังซึ่งติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้า 1 ชุด และรถขับเคลื่อนทุกล้อ QUATTRO (กวัตตโร) ซึ่งติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ชุด ส่วนกำลังขับก็มีให้เลือกถึง 4 ระดับ คือ 220 กิโลวัตต์/299 แรงม้า-300 กิโลวัตต์/408 แรงม้า-425 กิโลวัตต์/578 แรงม้า และ 579 กิโลวัตต์/787 แรงม้า เป็นระบบขับด้วยพลังไฟฟ้าล้วนๆ ที่ปรับแต่งโดยศูนย์วิจัยพัฒนาของค่าย “สี่ห่วง” ในเยอรมนี
แบทเตอรีก็มีให้เลือกหลายขนาด ขนาดใหญ่ที่สุด คือ แบทเตอรีขนาดความจุ 100 กิโลวัตต์ชั่วโมง ซึ่งเมื่อชาร์จไฟเต็มรถจะวิ่งได้ไกลถึง 770 กม. ที่น่าพอใจมากก็คือ การชาร์จไฟแบบ ULTRA-FAST หรือ “เร่งด่วนสุดสุด” โดยไฟฟ้ากระแสตรง (DC) ที่สถานีชาร์จไฟ เป็นเวลา 10 นาที รถจะวิ่งได้ไกลถึง 370 กม.
สมรรถนะความเร็วตามตัวเลขของค่ายไร้ห่วง โมเดลที่แรงที่สุด และเร็วที่สุด อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ในเวลาแค่ 3.4 วินาที
ที่น่าติดตามก็คือ รถ AUDI ไม่มีห่วงอีก 2 แบบ ที่ค่ายนี้ยืนยันแล้วว่า จะตามมาในปี 2026 และ 2027
AUDI E5 SPORTBACK