ความร่วมมือกันระหว่างค่ายยานยนต์ มีมานานมากแล้ว ไม่ว่าจะเพื่อการประหยัดค่าใช้จ่ายในการค้นคว้าและพัฒนา หรือเพื่อต้องการเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ค่ายอื่น พัฒนามาจนเสร็จสิ้นแล้ว จึงไม่ใช่เรื่องแปลก ที่จะมีข่าวความร่วมมือระหว่างค่ายยานยนต์ ไม่เว้นแม่แต่ค่ายยักษ์ใหญ่ อย่าง Daimler ที่ประกาศความร่วมมือกับ BMWอันที่จริงทั้งสองค่ายเยอรมันประกาศความร่วมมือกันมาตั้งแต่เดือนมีนาคม โดยจะร่วมมือและรวมกลุ่มในการให้บริการด้านโทรคมนาคม หลากชนิด ที่ทั้งสองค่ายมีอยู่ นำมารวมเป็นหนึ่งเดียว โดยมีสำนักงานใหญ่อยู่ในกรุงเบอร์ลิน บริษัทที่ยังไม่ได้ตั้งชื่อนี้ จะค้นคว้าและพัฒนาการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับด้านโทรคมนาคม ที่นำมาใช้งานในอุตสาหกรรมยานยนต์ อาทิ Car2Go ของ Daimler และ DriveNow ของ BMW ที่จะรวมเป็นหนึ่งเดียว งานด้านโทรคมนาคมของทั้งสองค่าย ก็นับว่าเป็นงานที่ใหญ่งานหนึ่ง เพราะธุรกิจการแบ่งปันกันใช้ กำลังได้รับความนิยม เนื่องจากไม่จำเป็นต้องเป็นเจ้าของยานพาหนะเพียงคนเดียว ต้องการใช้งานเมื่อไร ก็เรียกหามาใช้ได้ตามความต้องการ โดยความร่วมมือนี้ จะรวมไปถึง การพัฒนายานยนต์ไร้คนขับ และการให้บริการต่างๆ ที่เทคโนโลยี จะเกี่ยวเนื่องไปถึง Dieter Zetsche ประธาน Daimler กับ Harald Krüger ประธาน BMW ต่างเห็นตรงกันว่า กรุงเบอร์ลิน เป็นสถานที่ดีที่สุดที่จะจัดตั้งสำนักงาน และเป็นศูนย์กลางของทวีปยุโรป ที่จะช่วยให้การเคลื่อนย้ายผู้คนในอนาคต มีการเปลี่ยนแปลงไปเพราะเทคโนโลยีใหม่ๆ เป้าหมายของความร่วมมือครั้งนี้ ก็เพื่อขยับขยายการให้บริการออกไปให้ทั่วโลก ในเวลารวดเร็วที่สุด โดย Daimler และ BMW ต่างแสดงเจตจำนงในความร่วมมือกันต่อ คณะกรรมการสหภาพยุโรปเรียบร้อยแล้ว ความร่วมมือนี้ จะมุ่งเน้นไปที่ 5 ประเด็นใหญ่ๆ ที่รวมทั้ง การแบ่งปันกันใช้ยานยนต์ โดยจะมีเรื่องของ ยานยนต์พร้อมใช้ เป็นอันดับแรก ที่จะให้บริการส่วนบุคคลพร้อมบริการเสริมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางส่วนตัว, การเช่ารถเพื่อไปใช้งาน, หรือการใช้แทกซีร่วมกับผู้อื่น การจอดรถก็เป็นงานใหญ่อีกชิ้นหนึ่ง ทั้ง Daimler และ BMW ต่างก็เสนอให้ ParkNow และ Parkmobile ผู้ให้บริการด้านที่จอดรถ จัดหาบริการ ไม่ต้องชำระเงินสด และไม่ต้องมีบัตรจอดรถ เพื่อให้บริการแก่บุคคลทั่วไป โดยในอนาคต ความร่วมมือนี้ จะช่วยให้การจอดรถในเมืองใหญ่ เป็นเรื่องง่าย ช่วยประหยัดเวลา ในการค้นหาที่จอดที่ว่างอยู่ภายในเมือง ท้ายสุด น่าจะเกี่ยวเนื่องกับการให้บริการสถานีชาร์จไฟฟ้า สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าในอนาคต ซึ่งทั้ง 2 ค่าย ต่างก็เป็นคู่แข่งกันอยู่ Daimler และ BMW วางแผนที่จะจัดหาวิธีการที่ง่ายที่สุด ที่ผู้ใช้บริการสามารถเข้าถึงสถานีบริการชาร์จไฟฟ้า ได้โดยง่าย รวมถึงวิธีการชำระเงินที่สะดวก สำหรับสถานีบริการชาร์จไฟฟ้า 192,000 แห่ง ทั่วโลก ซึ่งเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นใหม่นี้ จะทำให้ผู้ผลิตรถไฟฟ้าทั้ง 2 ค่าย เข้าถึงการนำรถไฟฟ้าเสนอแก่ผู้บริโภค ทดแทนรถยนต์สันดาปภายในในปัจจุบัน แม้ว่าทั้งสองค่ายจะร่วมมือกันในด้านเทคโนโลยีดังที่กล่าว แต่ทั้งคู่ก็ยังคงเป็นคู่แข่งในธุรกิจผลิตและจำหน่ายยานยนต์ต่อไป