เมื่อเร็วๆ นี้ ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมพ์ ประกาศจะขึ้นอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจากเมกซิโก นับแต่ต้นเดือนหน้า เริ่มจาก 5 % และจะเป็นอัตราเดือนละ 5 % จนเต็มเพดาน 25 % หากรัฐบาลเมกซิโก ไม่จัดการเรื่องการหลบหนีเข้าเมือง ทำให้ราคาหุ้นของค่ายรถยนต์ที่จดทะเบียนในสหรัฐอเมริกา ร่วงกันระนาวราคาหุ้นของ บรรดาผู้ผลิตชิ้นส่วน และค่ายรถยนต์ Toyota, Nissan, Honda และ Mazda ตกกันเป็นว่าเล่น เมื่อรับทราบข่าวการขึ้นภาษีของ ประธานาธิบดี ทรัมพ์ ปัญหาของการลักลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย ตามแถบชายแดนประเทศเมกซิโก นับเป็นปัญหาใหญ่ของสหรัฐอเมริกา ที่ครั้งหนึ่ง ประธานาธิบดี ทรัมพ์ ถึงกับประกาศจะสร้างกำแพงให้ตลอดแนวชายแดนระหว่าง 2 ประเทศ เพื่อเป็นการป้องกัน จนล่าสุด ประกาศการขึ้นอัตราภาษีนำเข้า และจะขึ้นไปเรื่อยๆ หาก เมกซิโก ยังเพิกเฉยกับปัญหานี้อยู่ การขึ้นอัตราภาษีครั้งนี้ จะกระทบกับค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่หลายค่าย ทั้งจากสหรัฐอเมริกา และอาเซียน ที่สร้างสายการผลิตเอาไว้ในเมกซิโก ด้วยอัตราค่าแรงที่ต่ำกว่าในสหรัฐอเมริกา และอาศัยข้อตกลงการค้าเสรี ส่งรถเข้าไปขายในสหรัฐอเมริกา ตลาดซึ่งใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากประเทศจีน มานานนับศตวรรษ การขึ้นภาษีนี้ ก็เหมือนกับเป็นสิ่งสะท้อนไปยังผู้บริโภคชาวอเมริกัน ที่ทำให้ราคาสินค้าและบริการ ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์, ตู้เย็น หรือโทรทัศน์ แพงขึ้น ทำให้ต้องจ่ายในราคาที่สูงขึ้น Janet Lewis นักวิเคราะห์ ให้ความเห็นว่า “ตลาดในสหรัฐอเมริกา สินค้าต่างๆ มีผลกำไรค่อนข้างต่ำอยู่แล้ว ผู้ผลิตคงไม่ยอมแบกรับเอาอัตราภาษีนี้ไว้ แต่จะต้องผลักภาระไปยังผู้บริโภคแน่นอน” “แต่ยังมีผลกระทบไปยังผู้ผลิตชิ้นส่วน ที่ต้องสั่งชิ้นส่วนจากประเทศต่างๆ และส่งเข้าไปประกอบในเมกซิโก ก่อนจะประกอบเป็นรถยนต์ออกมาจำหน่าย ที่จะต้องเสียภาษีในการสั่งนำเข้าจากประเทศต่างๆ มาชั้นหนึ่งก่อนแล้ว ที่ทำให้ราคาชิ้นส่วนยิ่งสูงขึ้นไปอีก” ในญี่ปุ่น ราคาหุ้นของ Toyota ตกลงไป 2 % ขณะที่ Nissan ตกลง 5 % ส่วน Honda ตกลงเกือบ 4 % โดย Mazda กระทบหนักสุด เพราะราคาหุ้นตกไปเกือบ 7 % ซึ่งทั้ง 4 ค่าย ต่างมีโรงงานประกอบรถยนต์อยู่ในเมกซิโก รวมทั้งยอดผลิตรวมกันเกือบ 1 ใน 3 ที่ส่งเข้าไปจำหน่ายในสหรัฐอเมริกา จากข้อมูลของรัฐบาลสหรัฐฯ รถยนต์และชิ้นส่วน เป็นสินค้าสั่งนำเข้าจากเมกซิโกไปยังสหรัฐอเมริกา มากที่สุด ยอดรวมทั้งสิ้นในปี 2561 มูลค่า 93.3 % พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ตามมาด้วยเครื่องใช้ไฟฟ้า, เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์, ถ่านหิน, น้ำมัน และอุปกรณ์แว่นสายตา ขณะที่ในประเทศเกาหลีใต้ หุ้นของ Hyundai และ Kia รถในเครือ ก็ตกลง 0.7 % และ 4.2 % ตามลำดับ ส่วนผู้ผลิตชิ้นส่วนของ Hyundai ซึ่งป้อนชิ้นส่วนให้กับทั้ง 2 ค่าย หุ้นร่วงลงไปถึง 6.2 % Chang Moon-su นักวิเคราะห์ของเกาหลีใต้ ระบุว่า “แม้ว่าเราจะต้องคอยดูผลกระทบจากอัตราภาษีนำเข้าครั้งนี้ แต่บรรดานักลงทุน ก็คาดเดาไปในทางลบล่วงหน้าก่อนแล้ว” ค่ายรถยนต์ญี่ปุ่น และผู้ผลิตชิ้นส่วน อาทิ Denso และ Aisin Seiki ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ในเมกซิโก มานานนับศตวรรษ ทั้งจำหน่ายในเมกซิโก และส่งออกไปยังสหรัฐอเมริกา รวมทั้งอาศัยข้อตกลงการค้าเสรี ค้าขายกับแคนาดา ด้วยเช่นกัน ค่าย Nissan ผลิตรถยนต์ส่วนใหญ่อยู่ในเมกซิโก โดยรถยนต์ที่ส่งเข้าไปยังสหรัฐอเมริกา ราว 1 ใน 3 ของรถยนต์ที่ผลิตสำหรับตลาดในสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะรุ่น Sentra และ Versa ล้วนแต่ผลิตในเมกซิโก ส่วนผลผลิตของ ค่าย Mazda จากเมกซิโก ราว 30 % สำหรับสหรัฐอเมริกา ขณะที่ค่าย Toyota ซึ่งเพิ่งขยายสายการผลิตในสหรัฐอเมริกา ใช้รถที่ส่งออกจากเมกซิโก ราว 10 % เท่านั้น ในปี 2561 ค่ายรถยนต์ญี่ปุ่น ผลิตรถยนต์จากเมกซิโก ราว 1.25 ล้านคัน นอกจากนั้นยังมีการผลิตอยู่ในสหรัฐอเมริกา โดยค่ายใหญ่ 3 ค่าย ผลิตรวมกันราว 4 ล้านคัน/ปี