BMW กับจุดกำเนิดของ Kidney Grille และพัฒนาการของรูปทรงกระจังหน้าถึงปัจจุบัน

  หนึ่งในเอกลักษณ์ของรถยนต์จากค่าย BMW คือ กระจังหน้าแบบ “ไตคู่” หรือ Kidney Grille เป็นฉายาของกระจังหน้าแบบแยก 2 ช่องของค่ายรถแห่งนี้ หากย้อนอดีตถึงที่มาจะอยู่ในช่วงปี 1930 กับการผลิตรถยนต์รุ่น 303 ที่มาพร้อมกระจังหน้าทรงสูง แต่ด้วยเหตุผลกลใดไม่แน่ชัด มีคนมองว่ารูปทรงดังกล่าวดูคล้ายกับ ไต และมีการขนาบ 2 ข้างเช่นนี้ด้วย นั่นคือ ที่มาของการเรียกกระจังหน้าทรงดังกล่าวว่า Kidney Grille (Kidney แปลว่า ไต)  

• BMW 303

  แม้ในเวลาต่อมา กระจังหน้าของ BMW มีการเปลี่ยนรูปทรงมาตลอด มาเป็นรูปทรงแนวนอน ตามสมัยนิยมของรถยนต์ในยุคนั้นที่มีความกะทัดรัดมากขึ้น และเป็นลักษณะของกระจังหน้าที่ถูกใช้เรื่อยมา แต่ฉายาก็ไม่เปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด ยังคงถูกเรียกว่า Kidney Grille  นัยว่าเป็นการเรียกขานที่ฟังดูมีเอกลักษณ์ และบ่งบอกตัวตนของ BMW ได้ดีอยู่แล้วก็เป็นได้     ถึงฉายา Kidney Grille จะเหมือนเดิม แต่การพัฒนาการด้านออกแบบต้องมีการเปลี่ยนแปลงเรื่อยๆ รวมถึงบรรดารถยนต์หลากหลายสายพันธุ์ของ BMW ทำตลาดมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ตัวถังแบบสปอร์ท ซีดาน หรือแม้กระทั่งครอสส์โอเวอร์สไตล์เอสยูวี ล้วนแล้วแต่เป็นกระจังหน้าที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว จนในที่สุด แนวทางใหม่ที่ทาง BMW รังสรรค์ขึ้นมา นั่นคือ กระจังหน้า “ไตคู่” ขนาดมหึมา !!  

• BMW X7 iPerformance และภาพแสดงแนวคิดการออกแบบ

  แนวทางการออกแบบของ Kidney Grille สไตล์ใหม่ เริ่มเห็นจากรถต้นแบบ BMW X7 iPerformance ว่าที่เอสยูวีตัวธง กับกระจังหน้าขนาดใหญ่ ในช่วงแรกก็ยังไม่แน่ใจว่าทาง BMW จะใช้กระจังหน้าลักษณะดังกล่าวกับรุ่นที่ผลิตจริงหรือไม่ จนกระทั่งการเปิดตัวของ X7 เป็นการตอกย้ำว่า ค่ายรถเขา “เอาจริง” สร้างความฮือฮาได้พอสมควร แต่เมื่อพิจารณาตัวรถโดยรวมแล้ว กระจังหน้าขนาดใหญ่ดูเข้ากับเส้นสายที่เน้นความบึกบึนได้อย่างลงตัวเช่นกัน สมกับการเป็นเอสยูวีระดับธง และนี่เองที่ค่ายรถนำแนวทางการออกแบบไปใช้กับอีกหนึ่งตัวธง ตัวถังซีดาน นั่นคือ BMW 7-Series รุ่นปรับโฉม ถือเป็นการพลิกโฉมครั้งสำคัญของรถรุ่นนี้ และเพิ่งมาเปิดตัวในบ้านเราหมาดๆ กับกระจังหน้าทรง ไตคู่ (Kidney Grille) ขาดใหญ่กว่าเดิมร่วม 40 % เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนปรับโฉม  

• BMW X7

  การใช้กระจังหน้าขนาดใหญ่กับรถยนต์ซีดาน ทำให้ตัวรถมีความสะดุดตามากกว่าเดิม กระแสการตอบรับย่อมแตกต่างกันไป บ้างก็ว่าดูสวยงามไปอีกแบบ บ้างก็ว่าดูเทอะทะเกินไป ไม่สมส่วน ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาของรสนิยมความชอบจากแต่ละบุคคลในแง่ของรูปทรง แต่ไม่นานมานี้ทาง BMW ยืนยันว่ากระแสตอบรับของกระจังหน้า ไตคู่ ขนาดใหญ่ อยู่ใน “ทิศทางบวก” โดยเฉพาะเหล่า Bimmer ที่ชื่นชอบยี่ห้อ BMW เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว กับเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่เด่นชัดยิ่งขึ้น  

• BMW 7-Series

  เมื่อกระแสตอบรับมาดีเช่นนี้ กระจังหน้าแบบ ไตคู่ หรือ Kidney Grille ขนาดใหญ่จึงถูกใช้งานต่อไป โดยในปัจจุบันยังไม่มีรถที่ทำตลาดรุ่นอื่นๆ (นอกเหนือจาก X7 และ 7-Series) หันมาใช้รูปแบบดังกล่าว แต่ทาง BMW ได้เผยรถต้นแบบ 4 Concept ที่บ่งบอกถึงรูปทรงของรถสปอร์ทคูเป 4-Series รุ่นใหม่ที่จะเปิดตัวในอนาคต กับกระจังหน้าทรงดุดันขนาดใหญ่ ฉีกแนวจาก 3-Series อย่างชัดเจน แม้ยังเป็นรถต้นแบบ แต่เชื่อว่าทาง BMW จะเอาจริงแน่นอน ตอกย้ำด้วยการเผยรูปภาพของว่าที่รถแข่งรุ่นใหม่ ใช้พื้นฐานจาก M4  (เปิดตัวในอนาคตเช่นกัน) ระบุว่าเป็นรถแข่งในคลาสส์ GT3 ที่จะเป็นตัวในอนาคตช่วงปี 2022 แสดงให้เห็นถึงกระจังหน้าขนาดใหญ่เช่นกัน  

• BMW 4 Concept และภาพเบื้องต้นของ M4 GT3 (เปิดตัวปี 2022)

  อย่างไรก็ตาม สังเกตได้ว่าทาง BMW มีความระมัดระวังในการใช้กระจังหน้า ไตคู่ หรือ Kidney Grille ขนาดใหญ่ มีเพียงรถยนต์ไม่กี่รุ่นเท่านั้นในตอนนั้น เป็นการเปลี่ยนแปลงแบบค่อยเป็นค่อยไป ให้ลูกค้ามีเวลาทำความคุ้นเคยด้วย แต่เชื่อว่าต่อจากนี้จะมีรถยนต์ของค่ายที่หันมาใช้กระจังหน้าลักษณะดังกล่าวมากขึ้นเรื่อยๆ  

• BMW 3-Series และ 1-Series รุ่นล่าสุด เพิ่งทำตลาดไม่นาน ยังใช้กระจังหน้าไตคู่ทรงปกติ