EQ (อีคิว) เป็นซับบแรนด์ของ Mercedes-Benz (เมร์เซเดส-เบนซ์) ที่แยกออกมาพัฒนา และผลิตรถไฟฟ้าโดยเฉพาะหลังจาก Mercedes-Benz EQC (อีคิวซี) รถ EQ คันแรก ได้เปิดตัวในกรุงสตอคโฮล์ม ประเทศสวีเดน เมื่อปี 2561 EQC คันนี้มีมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว อยู่ที่เพลาหน้า และเพลาหลัง ให้กำลังรวม 402 แรงม้า แรงบิด 78.0 กก.-ม. (765 นิวตัน-เมตร) วิ่งได้ระยะทาง 417 กม./การชาร์จไฟ 1 ครั้ง EQS คือ รถยนต์คันต่อไปของค่าย ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100 % เน้นความหรูหรา โดยทาง Mercedes-Benz ตั้งใจวางจำหน่ายรถ EQ มากถึง 10 รุ่น ภายในปี 2565 โดยเรียงลำดับดังนี้ ปี 2562 EQC ปี 2563 EQV ปี 2564 EQS, EQS SUV, EQB และ EQA ปี 2565 EQE และ EQE SUV จากภาพ รถที่ถูกหุ้มลายพราง คือ EQS, EQE และ EQE SUV โดยทาง Mercedes-Benz ประกาศว่าการพัฒนารถไฟฟ้ากำลังดำเนินไปตามกำหนดเวลา ผ่านการทดสอบอย่างเข้มข้นที่ศูนย์ทดสอบ และเทคโนโลยีในเมือง Imendingen ประเทศเยอรมนี เทคโนโลยีระบบสัมผัสหลายอย่าง ถูกนำมาติดตั้งในรถยนต์พลังงานไฟฟ้าของค่ายดาวสามแฉก เช่น การเปิด/ปิดบานประตูทั้งสี่ การสั่งงานต่างๆ ด้วยการใช้นิ้วแตะที่แผงควบคุมผ่านระบบสัมผัสบนจอภาพแบบ 3 มิติ บริเวณคอนโซลกลาง และแผงประตู แบทเตอรีลิเธียม-ไอออน ถูกติดตั้งระหว่างเพลาหน้า และเพลาหลัง เพื่อการกระจายน้ำหนักที่สมดุล มีความจุ 100 กิโลวัตต์ชั่วโมง ใช้ระบบชาร์จเร็ว 1 ชั่วโมง EQS สามารถทำระยะทางได้ถึง 700 กม./การชาร์จไฟ 1 ครั้ง ถ้าชาร์จเร็วในสถานีที่มีกำลังไฟ 350 กิโลวัตต์ แบทเตอรีจะเพิ่มจาก 0 % เป็น 80 % ในเวลาเพียงแค่ 20 นาที มอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุด 470 แรงม้า แรงบิด 71.4 กก.-ม. (700 นิวตัน-เมตร) ให้กำลังพอกับเครื่องยนต์ V8 เทอร์โบ เลยทีเดียว ให้อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ภายใน 4.5 วินาที Mercedes-Benz EQS อยู่ในระยะสุดท้ายของการผลิต ให้เป็นไปตามมาตรฐานของบแรนด์ด้านความหรูหรา ความปลอดภัย และความสะดวกสบาย ทั้งการทดสอบบนทางหิมะ ฤดูหนาวในสแกนดิเนเวีย ในอุณหภูมิต่ำมาก และการทดสอบ Nardo test track ท่ามกลางอากาศที่ร้อนอบอ้าว ในอุณหภูมิสูงสุดถึง 42 องศาเซลเซียส และอุณหภูมิพื้นผิวสนามที่สูงถึง 54 องศาเซลเซียส ในแถบยุโรปใต้ และแอฟริกาใต้ EQS ผ่านทดสอบมากกว่า 2,000,000 กม. และพร้อมเปิดตัวเวอร์ชันจำหน่ายจริงในปีหน้า โดยผลิตที่เดียวกันกับ S-Class (เอส-คลาสส์) ในโรงงาน Factory 56 เมือง Sindelfingen
บทความแนะนำ