Nissan ขาดทุนครั้งมโหฬาร

 

รายงานข่าวจากกรุงโตเกียว ระบุว่า Nissan Motor แจ้งผลการดำเนินงานรอบปีงบประมาณ 2563 ซึ่งสิ้นสุดเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2564 ประกาศขาดทุนครั้งประวัติศาสตร์ ผลกระทบจากโรคระบาดร้ายแรง COVID-19  และการขาดแคลนเซมิคอนดัคเตอร์ จึงทำให้ต้องลดจำนวนการผลิตลง

ผลการขาดทุนในปีงบประมาณที่ผ่านมา จากรายงานระบุว่า จำนวน 150.65 พันล้านเยน หรือประมาณ 43.688 พันล้านบาท นับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2562 Nissan ทำกำไรไม่ได้เลย แต่กระนั้น เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา Nissan ประมาณการผลการขาดทุนเอาไว้ถึง 205 พันล้านเยน หรือประมาณ 59.405 พันล้านบาท แต่ผลการจำหน่ายในสาธารณรัฐประชาชนจีน กลับกระเตื้องขึ้น ประกอบกับการตัดค่าใช้จ่ายครั้งใหญ่ภายในบริษัทเช่นกัน นับแต่ปลายปีที่แล้ว วิกฤตการณ์ขาดแคลนเซมิคอนดัคเตอร์ ที่ใช้ในการผลิตชิพ อุปกรณ์ไฟฟ้าภายในรถยนต์ ขาดแคลนอย่างหนัก รวมทั้งเกิดเพลิงไหม้โรงงานผลิตชิพในญี่ปุ่น และการเกิดไฟดับครั้งใหญ่ ในรัฐเทกซัส ที่ส่งผลกระทบต่อผู้ผลิตในอุตสาหกรรมรถยนต์กันถ้วนหน้า ขณะระงับการขยายในตลาดโลก ค่าย Nissan จากแผนงานของอดีตประธาน Carlos Ghosn จำเป็นต้องลดจำนวนการผลิตรถยนต์ขายดีอันดับ 1 ในญี่ปุ่น Nissan Note และปรับลดยอดการผลิตในตลาดอเมริกาเหนือ ก็เพราะขาดแคลนเซมิคอนดัคเตอร์ ดังที่กล่าว ก่อนหน้านี้ Makoto Uchida ซีอีโอ ได้ประเมินผลการดำเนินงานว่า บริษัทจะสามารถกลับมาทำกำไรได้ภายในปีนี้ หลังออกมาตรการตัดค่าใช้จ่าย และเพิ่มการออกรถรุ่นใหม่ เพื่อดึงความสนใจของผู้บริโภค แต่ผลดำเนินงาน ท่ามกลางโรคระบาดร้ายแรง รวมทั้งวิกฤตการณ์ขาดแคลนชิพ ทำให้ไม่สามารถเป็นได้ตามที่หวังไว้ ขณะที่การปรับปรุงการดำเนินงานภายใน เริ่มเข้าที่เข้าทาง แต่ก็ยังมี “ความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจ อันเนื่องมาจากการขาดแคลนเซมิคอนดัคเตอร์ และราคาวัสดุที่เพิ่มสูงขึ้นในปีงบประมาณใหม่นี้” แถลงการณ์ ระบุว่า “และเพื่อประเมินผลกระทบที่เกิดขึ้น และแผนงานในอนาคต Nissan ตั้งเป้าการดำเนินงานในปีงบประมาณ 2564 นี้ น่าจะอยู่ระหว่าง บวก-ลบ ศูนย์” การดำเนินงานของ Nissan อยู่ระหว่างแผนการปรับเปลี่ยนครั้งใหญ่ ที่ประกาศไว้ว่า จะแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่ๆ 12 รุ่น ในระยะเวลา 18 เดือน จนถึงเดือนพฤศจิกายน, การลดปริมาณการผลิตของทั่วโลก และลดค่าตอบแทน เพื่อเป็นการเพิ่มผลกำไร ทำให้รถยนต์รุ่นใหม่ๆ อย่าง Nissan Rogue มียอดขายเพิ่มขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ และเดือนมีนาคม ยอดขายเพิ่มถึง 51 % โดยเฉพาะในจีน ยอดขายเพิ่มถึง 35 % แต่เมื่อรวมยอดทั้งปีงบประมาณแล้ว ไม่สามารถทำให้กระเตื้องขึ้น ยอดขายลดลง 12 % อันเนื่องจากโรคระบาด ที่ทำให้ประเทศต่างๆ ประกาศลอคดาวน์ ห้ามผู้คนออกจากบ้าน Nissan ประเมินยอดการขายในปีงบประมาณ 2564 คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 8.6 % จำนวน 4.4 ล้านคัน พร้อมยืนยันว่า บริษัทมีเงินสด ที่จะดำเนินงานได้ต่อไปตามปกติ โดยในรอบปีที่ผ่านมา มีเงินสดและทรัพย์สินที่สามารถแปลงค่าได้ รวมแล้วประมาณ 1.9 ล้านล้านเยน (1.9 Trillion yen) รวมทั้งยังมีวงเงินเครดิทที่สามารถใช้เงินสดได้ถึง 2.2 ล้านล้านเยน เช่นกัน