BYD นำหน้าเรื่องเซมิคอนดัคเตอร์

 

รายงานข่าวจากตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง ระบุว่า ค่ายรถไฟฟ้า BYD จากสาธารณรัฐประชาชนจีน มีชื่อบนกระดานซื้อ/ขายของตลาดหลักทรัพย์ เคยทำจดหมายแสดงความจำนง ระดมทุนในกิจการผลิตเซมิคอนดัคเตอร์ ทำให้สายการผลิตรถไฟฟ้าของ BYD ไม่เคยประสบปัญหาในการขาดแคลนชิ้นส่วนแต่อย่างใด หุ้นของ BYD เพิ่มขึ้น 4.9 % ทั้งในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง และ เซินเจิ้น หลังมีข่าวว่า กรรมการบริหาร BYD อนุมัติแผนงานในการเสนอขายหุ้นของธุรกิจการผลิตชิพในตลาดหลักทรัพย์เซินเจิ้น (Shenzhen Stock Exchange)

ราคาหุ้นของ BYD เพิ่มขึ้น 4.9 % ทั้งในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง และเซินเจิ้น หลังมีข่าวว่า กรรมการบริหาร BYD อนุมัติแผนงานในการเสนอขายหุ้นของธุรกิจการผลิตชิพ ในตลาดหลักทรัพย์เซินเจิ้น โดยผลประกอบการเมื่อปีที่แล้ว ธุรกิจการผลิตเซมิคอนดัคเตอร์ ของ BYD ทำกำไร 58.63 ล้านหยวน หรือประมาณ 293.15 ล้านบาท ต่ำกว่าปีที่ผ่านมา 31 % แต่สามารถทำกำไรเพิ่มขึ้นถึง 31 % มูลค่าราว 1.44 พันล้านหยวน หรือ 7.2 พันล้านบาท ในปี 2563 BYD ซึ่งมีมหาเศรษฐีสหรัฐอเมริกา Warren Buffett ถือหุ้นอยู่ 8.3 % เสนอรายงานต่อตลาดหลักทรัพย์ รวม 49 หน้า แต่ไม่ระบุข้อมูลที่สามารถทำกำไรได้ตามที่แจ้ง ธุรกิจการผลิตเซมิคอนดัคเตอร์ ช่วยให้สายการผลิตของ BYD ไม่ประสบปัญหาการขาดแคลนชิ้นส่วนในการประกอบ แม้แต่ผู้ผลิตรถยนต์ค่ายจีน Nio ด้วยกัน ยังต้องระงับการผลิตรถยนต์บางรุ่น อันเนื่องจากความขาดแคลนชิพในการผลิตจากผู้ผลิตเซมิคอนดัคเตอร์ เมื่อปีที่แล้ว BYD Microelectronics เข้ามาระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ ได้เงินกองทุนไปถึง 2.7 พันล้านหยวน จากนักลงทุนภายนอก 34 ราย ซึ่งมีทั้งกลุ่มเงินกองทุนจากสหรัฐอเมริกา Sequoia Capital รวมทั้งกองทุนจากผู้ผลิตสมาร์ทโฟน Xiaomi ด้วยเช่นกัน ธนาคารเพื่อการลงทุนจีน หรือ Chinese investment Bank (CICC) เป็นผู้ดำเนินการในการซื้อขายหุ้นครั้งนี้ ระบุว่า นักลงทุนเหล่านี้ เข้าซื้อหุ้น BYD เซมิคอนดัคเตอร์ ในราคาเฉลี่ยหุ้นละ 22 หยวน หรือประมาณ 110 บาท ทำให้มูลค่าหุ้นปัจจุบัน พุ่งขึ้นไปถึงราว 30 พันล้านหยวน แล้ว BYD ก่อตั้งกิจการผลิตเซมิคอนดัคเตอร์ เมื่อปี 2547 ทำการพัฒนา, ออกแบบ และผลิตเซมิคอนดัคเตอร์ ที่ทรงพลัง, ชิพ ไอซี, เซนเซอร์ และผลิตภัณฑ์ แอลอีดี ที่นำมาใช้ในรถไฟฟ้า BYD รวมทั้งจำหน่ายไปยังกลุ่มอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องมานานนับปี ซึ่งนอกจากด้านรถยนต์แล้ว ยังป้อนสายการผลิตสมาร์ทโฟน, แผงโซลาร์เซลล์ แม้กระทั่งหน้ากากนิรภัยเพื่อป้องกัน COVID-19