MFG ตั้งเป้าลงทุนในธุรกิจสถานีบริการชาร์จรถไฟฟ้าถึง 18,255 ล้านบาท (400 ล้านปอนด์) ภายในปี 2573 โดยปีนี้จะลงทุนถึง 2,281 ล้านบาท (50 ล้านปอนด์) มากกว่าปี 2564 ที่ลงทุนไป 1,825 ล้านบาท (40ล้านปอนด์)รายงานจากประเทศอังกฤษ ระบุว่า Motor Fuel Group (MFG) กลุ่มบริษัทบริการน้ำมันอิสระ และการค้าครบวงจร ที่ใหญ่ที่สุดของสหราชอาณาจักร ตั้งเป้าจะเปิดสถานีชาร์จแบบเร็วพิเศษจำนวน 60 สถานี และ 350 จุดชาร์จ ภายในปี 2565 โดยใช้กระแสชาร์จ 150kW โดยสถานีบริการในเครือข่ายของบริษัทจะมีหลากหลายรูปแบบ ทั้งบริการชาร์จกระแสไฟฟ้าอย่างเดียว หรือร่วมกันกับสถานีบริการน้ำมันที่มีอยู่แล้ว โดยในไตรมาสแรกของปีนี้ มีสถานีบริการที่สนใจจะเข้าร่วมโครงการถึง 20 แห่ง ซี่งคาดว่าจะสร้างแล้วเสร็จ และสามารถบริการได้ภายในปีนี้ สถานีแต่ละแห่งจะใช้กระแสชาร์จ 150kW โดยมีหัวชาร์จระหว่าง 4-8 จุด และคาดว่าไม่กี่ปีข้างหน้า หาก MFG สามารถเพิ่มกระแสไฟได้มากกว่า 300kW จะทำให้เวลาในการชาร์จรถแต่ละคันใช้เวลาน้อยลง และบริการรถได้มากขึ้น MFG ตั้งเป้าการลงทุนในธุรกิจสถานีบริการชาร์จรถไฟฟ้าถึง 18,255 ล้านบาท (400 ล้านปอนด์) ภายในปี 2573 โดยปีนี้จะลงทุนถึง 2,281 ล้านบาท (50 ล้านปอนด์) มากกว่าปี 2564 ที่ลงทุนไป 1,825 ล้านบาท (40 ล้านปอนด์) ตอนนี้สถานีที่จัดว่าอยู่ในระดับสุดยอดของบริษัท คือ สถานีบริการที่ พัทนีย์ ในลอนดอน และสถานีที่จะมีความพร้อมมากที่สุด สำหรับการชาร์จเร็วพิเศษเป็นสถานีแรก คือ สถานีแมนเชสเตอร์ ซึ่งเป็นเมืองธุรกิจทางตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะอังกฤษ ในปีนี้มีการลงทุนถึง 2,281 ล้านบาท (50 ล้านปอนด์) เพื่อปรับปรุงพัฒนาร้านค้าปลีก, ร้านอาหารซื้อกลับบ้าน และการบริการรับนำรถเข้าไปจอดชาร์จ ซึ่งเป็นการบริการพิเศษ นอกเหนือจากการบริการชาร์จรถไฟฟ้า MFG ให้ความสำคัญของตำแหน่งที่ตั้งสถานีบริการชาร์จ บนเส้นทางปกติมากกว่าการใช้สถานีบริการในมอเตอร์เวย์ และในย่านธุรกิจของเมือง โดย MFG ให้ความสำคัญกับกลุ่มลูกค้าประจำในท้องถิ่น ที่ไม่มีระบบชาร์จรถไฟฟ้าที่บ้านมากกว่า ด้วยเครือข่ายที่กว้างขวางมากถึง 900 แห่งในสหราชอาณาจักร โดยมีคู่ค้ามากมายทั้ง BP, Esso, Jet, Murco, Shell and Texaco จึงมีความพร้อมในการบริการลูกค้าได้อย่างทั่วถึง William Bannister ซีอีโอของ MFG แจ้งว่าทางบริษัทได้ลงทุนด้านการบริการไฟฟ้าไปมาก และมีความก้าวหน้าด้านสถานีบริการชาร์จรถพลังงานไฟฟ้ามากที่สุด คาดว่าจะสามารถกระจายเครือข่ายไปทั่วสหราชอาณาจักรภายในปีนี้ พร้อมด้วยสถานีบริการที่ล้ำสมัย และมีการบริการร้านค้าครบวงจร ที่มีคุณภาพสำหรับชุมชน และสามารถมอบประสบการณ์ที่ดี ให้แก่ผู้ใช้บริการในระหว่างรอการชาร์จรถของลูกค้า