ระเบียงรถใหม่
All-New Honda CR-V 2023 เผยโฉมแล้วในสหรัฐอเมริกา

วันนี้ Honda สหรัฐอเมริกา ได้เผยโฉม All-New Honda CR-V เจเนอเรชันที่ 6 เพื่อลุยตลาดครอสส์โอเวอร์ เอสยูวีที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง
Honda CR-V ใหม่ มีการออกแบบที่เน้นเหลี่ยมสันมากขึ้น กระจังหน้าทรงหกเหลี่ยมขนาดใหญ่ ซึ่งทาง Honda ระบุว่า ได้แรงบันดาลใจมาจากรถกระบะ Honda Ridgeline และเอสยูวีขนาดใหญ่อย่าง Passport TrailSport
All-New Honda CR-V มีมิติตัวถัง ยาว 4,694 มม. กว้าง 1,864 มม. สูง 1,692 มม. และระยะฐานล้อ 2,700 มม. โดยมีขนาดใหญ่กว่าเมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นเดิม Honda CR-V เจเนอเรชันที่ 5 ที่มีมิติตัวถังยาว 4,571 มม. กว้าง 1,855 มม. สูง 1,689 มม. และระยะฐานล้อ 2,662 มม.
ขณะที่มิติตัวถังของคู่แข่งอย่าง Mazda CX-5 (2019) มีความยาว 4,550 มม. ความกว้าง 1,840 มม. ความสูง 1,680 มม. และระยะฐานล้อ 2,700 มม.
โดยมีการเพิ่มความแข็งแรงของโครงสร้างตัวถังขึ้นอีก 15 % ทำให้มีความปลอดภัยเมื่อเกิดอุบัติเหตุ
Honda CR-V 2023 ในสหรัฐอเมริกา มีให้เลือกทั้งหมด 4 รุ่นย่อย ได้แก่ EX, EX-L ที่มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน เทอร์โบ 1.5 ลิตร และรุ่น Sport กับ Sport Touring จะมาพร้อมเครื่องยนต์ไฮบริดขนาด 2.0 ลิตร โดยทุกรุ่นติดตั้งไฟหน้า และไฟท้ายดีไซจ์นรูปตัว L เป็นอุปกรณ์มาตรฐานตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น
ขณะที่รุ่น Sport และ Sport Touring จะมีการตกแต่งเน้นเพิ่มความดุดันด้วยกระจังหน้าทรงหกเหลี่ยม รังผึ้งสีดำเงา ปลายท่อไอเสียโครเมียมทรงเหลี่ยม ล้ออัลลอยยขนาด 18 นิ้ว และในรุ่น Sport Touring จะใช้ล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว
งานออกแบบห้องโดยสารถอดแบบมาจาก Honda Civic รุ่นล่าสุด หน้าจออินโฟเทนเมนท์ของขนาด 7 นิ้ว ในรุ่น EX และ Sport หรือขนาด 9 นิ้ว ในรุ่น EX-L และ Sport Touring สามารถรองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สายได้ (รุ่น EX และ Sport ต้องเชื่อมต่อผ่านสาย USB)
ทุกรุ่นด้านหน้าจะมีช่องชาร์จไฟแบบ USB-A และ USB-C มาให้อย่างละ 1 จุด ขณะที่รุ่น EX-L และ Sport Touring จะเพิ่มด้วยช่องจ่ายไฟแบบ USB-C อีก 2 จุดสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง และถาดชาร์จสมาร์ทโฟนแบบไร้สาย ขนาด 15 วัตต์ มาให้ด้วย
ในรุ่นทอพสุดอย่าง Sport Touring ติดตั้งระบบเสียง Bose ลำโพง 12 ตำแหน่ง พร้อมเทคโนโลยี Bose Centerpoint และ SurroundStage ทำให้ผู้โดยสารทุกตำแหน่งได้รับประสบการณ์ฟังเสียงเพลงอันยอดเยี่ยม
EX และ EX-L จะเริ่มทำตลาดก่อน ขุมกำลังจากเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 1.5 ลิตร เทอร์โบชาร์จ กำลังสูงสุด 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 243 นิวตัน-เมตร (24.7 กก.-ม.) ส่งกำลังด้วยเกียร์ CVT มีโหมดในการขับขี่ 3 โหมด ได้แก่ ECON, Normal และ Snow
โดยใน รุ่น Sport และ Sport Touring จะใช้ระบบขับเคลื่อนไฮบริด เครื่องยนต์เบนซิน Atkinson Cycle 4 สูบ ความจุ 2.0 ลิตร จับคู่มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ตัวแรกทำหน้าที่ขับเคลื่อนล้อ และอีกตัวทำหน้าที่เป็นเจเนอเรเตอร์สำหรับผลิตกระแสไฟฟ้าไปเก็บเอาไว้ในแบทเตอรี
ให้พละกำลังสูงสุด 204 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 335 นิวตัน-เมตร (34.1 กก.-ม.) ระบบส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า หรือ E-CVT โหมดในการขับเลือกได้ 4 โหมด ได้แก่ ECON, Normal, Snow และ Sport ทุกรุ่นมาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ Real Time AWD
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเข้าโค้ง และการยึดเกาะถนน All-New Honda CR-V จัดเต็มระบบความปลอดภัย Honda Sensing ที่ทำงานผ่านกล้องมุมกว้าง 90 องศา และเรดาร์รัศมี ครอบคลุม 120 องศา ด้านหน้ารถ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการตรวจจับรถยนต์ และคนเดินถนนได้ดียิ่งขึ้น รวมไปถึงเส้นแบ่งถนน, ขอบทาง, ผู้ใช้จักรยาน และจักรยานยนต์ รวมถึงป้ายสัญญาณจราจร
ระบบ Lane Keeping Assist ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน, ระบบ Traffic Jam Assist (TJA), ระบบ Low-Speed Braking Control เตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรคที่ความเร็วต่ำ และระบบ Traffic Sign Recognition (TSR), Adaptive Cruise Control (ACC) with Low-Speed Follow ที่ทำงานร่วมกับ Lane Keeping Assist ทำให้ระบบช่วยในการขับขี่สามารถทำงานได้อย่างลื่นไหลมากขึ้น
สำหรับการเปิดตัวในประเทศไทย คาดว่าอีกไม่นานเกินรอ อาจได้พบตัวจริงในงานใหญ่อย่าง Motor Expo 2022 ปลายปีนี้ 

