ธุรกิจ
Great Wall Motor ฉลองยอดผลิตในไทย 10,000 คัน
Great Wall Motor ประกาศความสำเร็จ ฉลองผลิตรถยนต์คันที่ 10,000 จากโรงงานอัจฉริยะ (Smart Factory) ที่จังหวัดระยอง โดยรถยนต์คันที่ 10,000 คือ เจ้าสิงโตอารมณ์ดี All New Haval Jolion Hybrid SUV รุ่น Ultra ที่มาพร้อมนวัตกรรมยานยนต์อันล้ำสมัย และสมรรถนะโดดเด่น พร้อมรองรับไลฟ์สไตล์การขับขี่หลากหลายรูปแบบ ตอกย้ำกระแสความร้อนแรงของรถยนต์พลังงานไฟฟ้า และความมุ่งมั่นของ Great Wall Motor ในการก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้านยานยนต์ไฟฟ้า (XEV Leader) ที่พร้อมเดินหน้าผลักดันประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลางของการใช้ และการผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในภูมิภาคอาเซียนอย่างเป็นรูปธรรม ควบคู่ไปกับการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้แก่ระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าตามนโยบายภาครัฐ และเติบโตเคียงข้างสังคมไทยอย่างยั่งยืน
เรก ลี รองประธานบริหาร ฝ่ายการผลิตในโรงงาน Great Wall Motor ภูมิภาคอาเซียน กล่าวว่า เรามีความภาคภูมิใจเป็นอย่างมากกับการส่งรถยนต์คันที่ 10,000 ออกจากสายการผลิตของโรงงานของเรา ด้วยความอุตสา หะ มุ่งมั่น ทุ่มเทของพนักงานของเรา ทำให้เราสามารถผลิตรถยนต์ที่มีคุณภาพออกมาให้ผู้บริโภคชาวไทยได้ขับขี่ ความสำเร็จในครั้งนี้จะเป็นแรงผลักดันให้ Great Wall Motor พยายามยกระดับคุณภาพการผลิตของเรา เพื่อส่งมอบยานยนต์ไฟฟ้าให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในประเทศไทย และในภูมิภาคอาเซียน การเปิดโรงงานอัจฉริยะ Smart Factory ของเราสำหรับผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่จังหวัดระยองนี้ นอกจากจะเป็นการสร้างปรากฎการณ์ครั้งสำคัญในอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยแล้ว ยังเป็นการประกาศความพร้อมสำหรับการผลิต และจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในตลาดอาเซียนอีกด้วย เราได้นำนวัตกรรมของ Great Wall Motor มาใช้ในการผลิต การขนส่งลอจิสติคส์ และการปฏิบัติการเชิงดิจิทอล พร้อมทั้งเพิ่มอัตราการจ้างงาน พัฒนาองค์ความรู้ที่เกี่ยวกับยานยนต์ไฟฟ้า และส่งเสริมความเข้าใจด้านเทคโนโลยีที่เป็นส่วนสำคัญในการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าคุณภาพให้แก่ชาวไทย
ที่สำคัญ นับตั้งแต่การเข้ามาดำเนินธุรกิจในไทยอย่างเป็นทางการ Great Wall Motor ได้ลงทุนในประเทศไปแล้วกว่า 12,000 ล้านบาท ทำให้เกิดการจ้างงานกว่า 3,000 ตำแหน่ง และมีแผนที่จะลงทุนในประเทศไทยรวมทั้งสิ้น 22,600 ล้านบาท โดยเราจะยังคงเดินหน้าวิสัยทัศน์เชิงกลยุทธ์ และปรัชญาการทำธุรกิจที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาอย่างยั่งยืน สำรวจโอกาส และความเป็นไปได้ในการสร้างโมเดลใหม่เพื่อสิ่งแวดล้อม และลดปริมาณคาร์บอน พร้อมทั้งวางแผนที่จะดำเนินกิจการ และลงทุนในธุรกิจผลิตยานยนต์ และชิ้นส่วนภายในประเทศ 100 % ตลอดจนสร้างห่วงโซ่ของระบบนิเวศยานยนต์ โรงงาน และการเดินทางที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ควบคู่ไปกับการขยายศักยภาพของบุคลากรตลอดจนกำลังการผลิตของโรงงานแห่งนี้อย่างต่อเนื่องเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการยกระดับประเทศไทยสู่การเป็นฐานการผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าของภูมิภาคอาเซียน และกลายเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่สำคัญสำหรับนักลงทุนจากทั่วโลกในท้ายที่สุด
ณรงค์ สีตลายน กรรมการผู้จัดการ Great Wall Motor (ประเทศไทย) กล่าวว่า การสนับสนุนจากแฟนๆ ที่มอบให้ Great Wall Motor มาโดยตลอดนับตั้งแต่ก้าวแรกที่เราเข้ามาดำเนินธุรกิจในประเทศไทย เป็นพลังสำ คัญที่หล่อเลี้ยง และช่วยให้เราเดินหน้านำเสนอผลิตภัณฑ์ และบริการคุณภาพตลอดจนประสบการณ์เหนือระดับรูปแบบใหม่ๆ ให้แก่ผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง วันนี้โรงงานอัจฉริยะของเราที่จังหวัดระยองซึ่งเป็นฐานการผลิตเต็มรูปแบบที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจากโรงงานในประเทศจีน ได้ผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าคันที่ 10,000 ซึ่งพร้อมจะออกไปโลดแล่นบนท้องถนนอย่างเต็มภาคภูมิเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านประเทศไทยสู่การเป็นสังคมรถยนต์พลังงานใหม่ในอนาคต ความสำเร็จครั้งนี้ไม่เพียงสะท้อนให้เห็นถึงความเป็นนิยมของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วในหมู่ผู้บริโภค แต่ยังเป็นอีกบทพิสูจน์ของความเชื่อมั่น และความไว้วางใจในคุณภาพผลิตภัณฑ์ และบริการจาก Great Wall Motor ที่จะตอบแทนแฟนๆ ชาวไทยด้วยการทำงานอย่างเต็มที่ตลอดกระบวนการผลิต และส่งมอบรถยนต์พลังงานไฟฟ้าทุกๆ รุ่น และทุกๆ คันทั้งในปัจจุบัน และในอนาคต ตอกย้ำกลยุทธ์ New Energy New Intelligence และ New Experience ซึ่งเป็นหัวใจหลักของ Great Wall Motor ในฐานะผู้นำที่จะสานต่อภารกิจในการเติมเต็มความสมบูรณ์แบบให้แก่ระบบนิเวศยานยนต์พลังงานไฟฟ้าควบคู่ไปกับการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์ และเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งต่อไป
ทั้งนี้ โรงงาน เกรท วอลล์ มอเตอร์ แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) เป็นฐานการผลิตอัจฉริยะเต็มรูปแบบแห่งที่ 2 นอกประเทศจีนของ Great Wall Motor ตั้งอยู่ที่อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง ครอบคลุมพื้นที่ 412 ไร่ มีศักยภาพการผลิตแบบเต็มกำลังอยู่ที่ 80,000 คัน/ปี และจะเป็นฐานการผลิตหลักสำหรับรถยนต์พวงมาลัยขวาโดยเฉพาะรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (XEV) ของภูมิภาคอาเซียน ซึ่งบริษัทฯ ได้วางสัดส่วนของการผลิต และส่งออกอยู่ที่ 60:40 กล่าวคือ เป็นการจำหน่ายภายในประเทศ 60 % และเป็นการส่งออก 40 % โดยในปัจจุบันโรงงานแห่งนี้สามารถผลิตรถยนต์ 2 รุ่นจากแบรนด์ Haval ได้แก่ All New Haval H6 Hybrid SUV และ All New Haval Jolion Hybrid SUV และยังมีแผนที่จะผลิตรุ่นอื่นๆ อีกในอนาคต
สำหรับ All New Haval Jolion Hybrid SUV รถยนต์คันที่ 10,000 ที่ออกจากสายการผลิตนั้น เป็นรถยนต์รุ่นที่ 2 ที่ผลิตที่โรงงาน เกรท วอลล์ มอเตอร์ แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) และเป็นรถยนต์รุ่นที่ 3 ที่ Great Wall Motor นำเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ โดดเด่นด้วยรูปลักษณ์ภายนอกอันโฉบเฉี่ยวสะท้อนถึงสุนทรียภาพแห่งอนาคต มาพร้อมเทคโนโลยีการขับขี่อัจฉริยะ ผสานกับการออกแบบภายในแบบ 360 อง ศา ด้วยพื้นที่ห้องโดยสารที่กว้างขวาง และอัดแน่นไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่หลากหลาย และครบครัน All New Haval Jolion Hybrid ยังขับเคลื่อนด้วยขุมพลังเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังรวมสูงสุด 190 แรงม้า ให้แรงบิดรวมสูงสุด 38.2 กก.-ม. หรือ 375 นิวตัน-เมตร มาพร้อมกับระบบเกียร์แบบ DHT และเทคโนโลยีคันเร่งอัจฉริยะ (Intelligent Single Pedal) ให้ผู้ขับขี่สามารถเร่งหรือชะลอความเร็วได้เพียงคันเร่งเดียว อีกทั้งยังสร้างขึ้นบน GWM Lemon Platform พแลทฟอร์มโมดูลาร์อัจริยะ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การขับขี่ที่สนุกสนาน โดยตั้งแต่เปิดตัวในปลายเดือนพฤศจิกายนในปีที่ผ่านมาจนถึงสิ้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา Great Wall Motor ได้ส่งมอบเจ้าสิงโตอารมณ์ดีออกไปโลดแล่นอยู่บนท้องถนนของประเทศไทยแล้วกว่า 2,533 คัน
ABOUT THE AUTHOR
นุสรา เงินเจริญ
บรรณาธิการข่าวธุรกิจและสังคม ที่มีประสบการณ์มากว่า 30 ปี รักการอ่าน ขอบงานเขียน ชอบพบปะผู้คน ได้มีโอกาสสัมภาษณ์ผู้บริหารในวงการยานยนต์ไทย ท่องเที่ยว เป็นประสบการณ์ที่ดี เปิดโลกได้พัฒนาตัวเองกว่า 30 ปี แวดวงสื่อสารมวลชน
ภาพโดย : บริษัทผู้ผลิตคอลัมน์ Online : ธุรกิจ (บก. ออนไลน์)