ทดลองขับ GAC Aion Y Plus...น้องใหม่มาแรง !

กระแสความร้อนแรงของรถยนต์ไฟฟ้า Aion Y Plus จากค่าย GAC หรือ Guangzhou Automobile Group Co., Ltd. กำลังได้รับความสนใจจากคนไทยเป็นวงกว้าง หลายคนอาจจะยังไม่รู้จักรถสัญชาติจีนยี่ห้อนี้ มีความเป็นมาอย่างไร เราจะสรุปให้ฟังสั้นๆ ว่า GAC ก่อตั้งในปี 1954 ปัจจุบันเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่อันดับ 5 ของจีน ในปี 2021 มียอดขายรถกว่า 2 ล้านคัน และสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในเมืองกวางโจว มณฑลกวางตุ้ง GAC เป็นแบรนด์ยักษ์ใหญ่ของจีน มีบริษัทจำหน่ายรถภายใต้แบรนด์ Trumpchi, Aion และ Hycan นอกจากนี้ ยังมีแบรนด์ที่ร่วมมือกับค่ายรถญี่ปุ่น อาทิ GAC-Honda, GAC-Mitsubishi และ GAC-Toyota เป็นต้น แบรนด์ GAC AION ก่อตั้งในปี 2017 เพื่อผลิต และจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า หรือ EV 100 % ปัจจุบันมีรถเอมพีวี และครอสส์โอเวอร์ เอสยูวี ที่น่าสนใจ เช่น GAC Aion Y Plus, GAC Aion S Plus, Aion LX และ Aion V และ Aion Y Plus คือ รถรุ่นแรกที่ GAC แนะนำสู่ตลาดรถเมืองไทย เรามีโอกาสได้สัมผัส และทดลองขับรุ่นนี้ ก่อนที่จะเปิดตัว และประกาศราคาอย่างเป็นทางการในวันที่ 9 กันยายน 2566 ที่จะถึงนี้ จะมีอะไรที่น่าสนใจ ลองไปติดตามกันครับ Aion Y Plus ถูกพัฒนาขึ้นบนพแลทฟอร์มรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ มีขนาดตัวถังที่ใหญ่กว่าที่คิด และใหญ่กว่ารถในระดับเดียวกัน ด้วยมิติตัวถังยาว 4,535 มม. กว้าง 1,870 มม. สูง 1,650 มม. ระยะฐานล้อ 2,750 มม. ซึ่งมีขนาดตัวใหญ่กว่า BYD Atto 3 รวมถึงรถญี่ปุ่นขนาด B-SUV อาทิ Toyota Corolla Cross, Honda HR-V, Subaru XV และ Mazda CX-30 ภายนอก หน้าตาตามสไตล์รถ EV คือ ตัวรถถูกออกแบบให้มีแผงกระจังหน้าขนาดใหญ่แบบทึบ มีช่องดักอากาศอยู่ชายล่างของแผงกระจังหน้า บนฝากระโปรงติดตราสัญลักษณ์ G ไฟหน้าแบบ LED พร้อมไฟเดย์ไทม์ รันนิง รูปทรงแล้วแต่จิตนาการของผู้พบเห็น บางคนมองว่าเหมือนปีกนกอินทรี แต่บางคนบอกว่าเหมือนตัว Y ตามชื่อรุ่นมากกว่า แต่โดยรวมแล้ว หน้าตาจัดว่าสวยลงตัวตามทเรนด์รถ EV ด้านข้างของตัวรถ ที่บริเวณซุ้มล้อทั้งสี่ ติดตั้งคิ้วสีเทาด้านเสริมบุคลิกรถให้ดูแพงขึ้น ที่เด่นสุดๆ คือ มือเปิดประตูเป็นแบบก้านกระดก เป็นงานดีไซจ์นที่ดูแตกต่าง เวลาที่เราขับรถ มือเปิดประตูจะถูกดูดเข้าไปซ่อนในแผงประตู บนหลังคาติดตั้งราวหลังคาสีบรอนซ์เงิน และมีกระจกซันรูฟแบบพาโนรามิค ขนาดใหญ่ แบ่งเป็น 2 ช่วงครอบคลุมพื้นที่เบาะแถวหน้า และหลัง ทำให้มีมุมมองที่กว้างขวาง ดูไม่อึดอัด และยังช่วยสร้างมุมมองที่แตกต่างสำหรับการใช้งานได้ด้วย ส่วนด้านหลังออกแบบโค้งมน มีเส้นแถบ LED พาดยาวตลอดแนว รับกับไฟท้าย LED ที่เป็นเส้นบางๆ ในชุดโคมไฟท้าย พร้อมไฟเบรคดวงที่ 3 ที่ออกแบบฝังไว้ในสปอยเลอร์ นอกจากนี้ ด้านล่างยังติดตั้งกล้องมองหลังมาให้ด้วย สำหรับล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว ลวดลาย 5 แฉก มาพร้อมยาง Chao Yang รุ่น SU318a H/T ขนาด 215/55 R17 ภายในห้องโดยสาร บอกเลยว่าเนื้องานทำออกมาดูดี และดูแพงด้วยวัสดุซอฟท์ทัชในบางจุด สีสันเน้นโทนสีเขียวเทอร์คอยซ์เบาๆ ตัดกับสีเงินที่มือเปิดประตู และสีดำที่เน้นตามขอบประตู ทำให้บรรยากาศในห้องโดยสารดูมีระดับ พวงมาลัยแบบ 3 ก้าน รูปทรงตัว D จับถนัดมือ มีแฮนด์ลิงที่ดี น้ำหนักของพวงมาลัยกำลังดี บางคนอาจจะรู้สึกว่าพวงมาลัยของรถ EV น้ำหนักเบาไปอาจจะไม่ถนัด แต่สำหรับ Aion Y Plus แล้วทำได้ลงตัว และบนพวงมาลัย มีปุ่มควบคุมต่างๆ ครบครัน แผงหน้าปัดมีขนาดใหญ่ หน้าจอกลางมีขนาด 14.6 นิ้ว พร้อมฟีเจอร์ควบคุมฟังค์ชันต่างๆ ของตัวรถ ส่วนแผงคอนโซลเกียร์ ออกแบบเป็น 2 ชั้น มีที่วางโทรศัพท์ 2 ตำแหน่ง และวางแก้วน้ำ 2 ตำแหน่ง พร้อมช่องเก็บของ และที่เท้าแขน ช่วยลดความเมื่อยล้าจากการขับขี่ จอแสดงผลการขับขี่ขนาด 10.25 นิ้ว ให้ข้อมูลครบถ้วน ส่วนเกียร์เป็นแบบก้านเกียร์อยู่หลังคอพวงมาลัย เกียร์จะมี 3 ตำแหน่งให้เลือกใช้งาน ได้แก้ ปรับก้านเกียร์ขึ้นด้านบน เป็นตำแหน่ง R ตำแหน่งตรงกลาง เป็นตำแหน่ง N และตำแหน่งล่างสุด เป็นตำแหน่ง D ส่วนตำแหน่ง P สำหรับจอดรถ ให้กดที่หัวของแป้นเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ จะคล้ายๆ รถยุโรปชั้นนำ เบาะนั่งด้านหน้า ฝั่งคนขับเป็นแบบปรับไฟฟ้า ส่วนฝั่งผู้โดยสารเป็นแบบปรับด้วยมือ คุณภาพของเบาะคู่หน้านุ่มนั่งสบาย รับกับสรีระ ส่วนเบาะนั่งแถว 2 มีความกว้าง แต่คุณภาพเบาะอาจจะแข็งไปหน่อย แต่มีส่วนอื่นๆ มาช่วยชดเชย เช่น ประตูหลังเปิดได้กว้างถึง 90 องศา ช่วยให้ก้าวขึ้น/ลงรถได้สะดวก พื้นที่วางขามีความกว้างมาก นั่งสบายทุกท่วงท่า อีกทั้งยังมีระยะเฮดรูมที่สูงพอสมควร ทำให้ตัวรถดูกว้างขวาง มีมุมมองที่ดูสบายๆ เบาะนั่งภายในสามารถพับให้กลายเป็นห้องนั่งเล่น ดูหนัง หรือห้องนอน สำหรับการไปแคมพิงได้ มีระบบ V2L สำหรับการจ่ายกระแสไฟฟ้าให้แก่อุปกรณ์แคมพิง และคุณสามารถเปลี่ยนรถเป็น Power Bank เคลื่อนที่ได้ด้วยในเวลาที่ต้องการตั้งแคมพ์ ขุมพลังของ GAC Aion Y Plus มีให้เลือก 3 รุ่น ดังนี้ รุ่น Standard Range 136 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 176 นิวตันเมตร แบทเตอรีขนาด 51.9 กิโลวัตต์ชั่วโมง (kWh) วิ่งได้ระยะทางสูงสุด 400 กม. (มาตรฐาน NEDC) รุ่น Standard Range Plus 204 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 225 นิวตันเมตร แบทเตอรีขนาด 61.7 กิโลวัตต์ชั่วโมง วิ่งได้ระยะทาง 480 กม. (มาตรฐาน NEDC) รุ่น Long Range 204 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 225 นิวตันเมตร แบทเตอรีขนาด 69.9 กิโลวัตต์ชั่วโมง วิ่งได้ระยะทาง 580 กม. (มาตรฐาน NEDC) แบทเตอรีของ Aion Y Plus ใช้เทคโนโลยีที่มีความปลอดภัยสูง ได้ทำการทดสอบด้วยการใช้อาวุธปืนยิงเข้าไปที่แบทเตอรี ก็ไม่ทำให้เกิดไฟลุกไหม้ ส่วนระบบความปลอดภัย ในรุ่นทอพจะมีถุงลมนิรภัยรอบคัน รุ่นธรรมดาจะได้เฉพาะคู่หน้า และด้านข้างของเบาะหน้า ส่วนรุ่นเริ่มต้นมีเฉพาะคู่หน้าเท่านั้น สำหรับรุ่นที่เราได้ทดลองขับ คือ รุ่น Standard Range Plus 204 แรงม้า บอกเลยว่า ตัวรถขับดีกว่าที่คาดไว้ ช่วงล่างออกแนวแน่นๆ เฟิร์มๆ ไม่ย้วย ไม่ยวบยาบ โดยเฉพาะเวลาที่ขับผ่านเส้นทางขรุขระ หลุมบ่อ หรือเนินลูกระนาดตามสภาพพื้นผิวจราจรในกรุงเทพฯ ระยะเบรคดี เราลองขับในโหมด Normal และ Sport รู้สึกว่าการตอบสนองของรถในโหมด Sport ให้ความคล่องตัว และเน้นขับสนุก อัตราเร่งแซงขึ้นเร็วมาก มีอารมณ์หลังติดเบาะหน่อยๆ ตามสไตล์รถ EV ส่วนโหมด Normal ให้ความประหยัดระยะเวลาในการใช้งาน ทั้งขับ และจอดเป็นบางช่วงเกือบๆ 2 ชม. ความจุแบทเตอรีจาก 100 % ลดลงมาเหลือ 90 % และเหลือระยะทางที่วิ่งได้เกือบ 400 กม. ถือว่ามากพอสำหรับการใช้งานในเมือง น่าเสียดายที่มีเวลาจำกัด เลยไม่ได้ลองเล่นฟีเจอร์อื่นๆ โดยรวมแล้ว GAC Aion Y Plus เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่น่าสนใจมาก ถ้าเปิดราคาจำหน่ายไม่ดุดันจนเกินเอื้อม รับรองว่ารถยนต์ไฟฟ้าค่ายอื่นๆ มีหนาวแน่ ! ส่วนแผนการตลาดในระยะเริ่มต้น มีการแต่งตั้ง Authorized Distributor 4 ราย ทำตลาดร่วมกัน คือ โกลด์ อินทิเกรท (Gold Integrate) ในชื่อ Harmony Group, ชาริช โฮลดิ้ง (Sharich Holding) ในชื่อ Aionic Auto, วิริยะ กรุพ (Viriyah Group) ในชื่อ V Group และบริษัทจากเมืองจีน ในชื่อ Jinhui