Toyota เปิดข้อมูลรถแนวคิด FT-3e และ FT-Se

Toyota เผยข้อมูลยนตรกรรมที่จะนำมาจัดแสดงปีนี้ เริ่มจากรายละเอียดการออกแบบบางส่วนของคอนเซพท์คาร์ รถยนต์ไฟฟ้าแบทเตอรี (BEV) จำนวน 2 รุ่น ได้แก่ “FT-3e” และ “FT-Se”

คอนเซพท์คาร์ทั้ง 2 รุ่น จะนำเสนออนาคตแห่งรถยนต์ที่เปลี่ยนแปลงเนื่องจากพลังงานไฟฟ้า และการเสริมความอัจฉริยะ โดย “FT-3e” เป็นคอนเซพท์โมเดลแบบ SUV และ “FT-Se” เป็นคอนเซพท์โมเดลแบบรถสปอร์ท รวมถึงการถ่ายทอดประสบการณ์ใหม่ๆ ที่รถยนต์จะมอบให้ Toyota เชื่อว่าในอนาคตการขับเคลื่อนจะไม่ได้เป็นเพียงแค่ยานพาหนะในการขนส่งเท่านั้น แต่จะเป็นเสมือนเพื่อนข้างกายคนสำคัญในชีวิตประจำวัน ที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าแต่ละบุคคลได้ด้วย สำหรับคอนเซพท์คาร์ทั้ง 2 รุ่นนั้น นอกจากจะโดดเด่นด้านการตอบสนองต่อการควบคุมแล้ว ยังชูการออกแบบที่ดึงดูดสายตา และนำเสนอความสนุกของการขับขี่ในแบบเฉพาะตัว พร้อมฟังค์ชันอำนวยความสะดวก ที่ช่วยค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับพื้นที่ต่างๆ ซึ่งจะทำให้รถทั้ง 2 รุ่นกลายเป็นรถคันโปรดที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวทันที 

รายละเอียดรุ่นคอนเซพท์คาร์ ที่จัดแสดงภายในบูธ Toyota ในงาน Japan Mobility Show 2023

1. FT-3e

คอนเซพท์คาร์ รถยนต์ไฟฟ้าแบทเตอรี (BEV) เจเนอเรชันใหม่ ที่จะยกระดับชีวิตประจำวันของลูกค้า ด้วยประสบการณ์การขับขี่ใหม่ๆ จากเทคโนโลยีล้ำสมัย และบริการที่ปรับให้เหมาะกับแต่ละบุคคล

ช่วยบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอน และการสร้างสังคมที่น่าอยู่ยิ่งขึ้น ผ่านการเชื่อมต่อกับสังคมด้วยการเป็นสื่อกลางในการถ่ายโอนพลังงาน และข้อมูลภายในรถกับสภาพแวดล้อม

1. การออกแบบ

การออกแบบภายนอก ผสานความล้ำสมัย และสวยงาม แต่คงโครงสร้างของเส้นสาย และผิวสัมผัสของตัวรถให้เรียบง่ายที่สุด

จอแสดงผลดิจิทอลบริเวณส่วนล่างของตัวรถไปจนถึงส่วนบนของประตู แสดงผลข้อมูลต่างๆ เช่น ระดับแบทเตอรี อุณหภูมิภายในห้องโดยสาร และคุณภาพอากาศภายในรถ

2. FT-Se

โมเดลรถสปอร์ท BEV สมรรถนะสูง อีกหนึ่งตัวเลือกของรถสปอร์ท ในยุคแห่งความเป็นกลางทางคาร์บอนตามแนวคิดของ Toyota Gazoo Racing ในการ “สร้างสรรค์ยนตรกรรมที่ดียิ่งกว่า ผ่านกีฬามอเตอร์สปอร์ท”

เสริมเสถียรภาพในการควบคุมตัวรถ และความคล่องตัวตามหลักอากาศพลศาสตร์ ด้วยการใช้ชิ้นส่วนหลักร่วมกับ FT-3e

1. การออกแบบ

นอกจากการออกแบบให้มีสัดส่วนที่กว้าง และลาดต่ำแล้ว ยังมีรูปทรงโฉบเฉี่ยว และล้ำสมัย ช่วยลดแรงต้านตามหลักอากาศพลศาสตร์

พื้นที่สำหรับผู้ขับ หรือ Cockpit เจเนอเรชันใหม่ ช่วยให้ควบคุมรถได้อย่างเป็นธรรมชาติ มอบประสบการณ์การขับขี่ที่ดียิ่งขึ้น

ส่วนบนของแผงหน้าปัดอยู่ในตำแหน่งที่ต่ำ ส่งผลให้มีทัศนวิสัยที่ดีขึ้น ตลอดจนที่รองเข่าออกแบบใหม่หมด ช่วยปกป้องร่างกายจากแรง G ขณะขับขี่