ข่าวจากสหรัฐอเมริกา ระบุว่า Honda N-Van e ที่อวดโฉมในงาน Japan Mobility Show 2023 ด้วยรูปแบบรถเพื่อการพาณิชย์พลังไฟฟ้า พร้อมวางจำหน่ายช่วงปลายเดือนพฤษภาคม ปี 2567 พร้อมระยะเดินทางตามมาตรฐาน WLTC ที่ 130 ไมล์ (210 กม.) เพียงพอกับการใช้งานเดินทางระยะสั้นในเมืองได้
สำหรับรูปลักษณ์ภายนอกไม่ต่างจากรุ่นเครื่องยนต์สันดาปภายใน นอกจากพอร์ทชาร์จกระแสไฟที่กริลล์หน้ารถ ซึ่งรีไซเคิลมาจากกันชนรถที่หมดอายุการใช้งานแล้ว
เช่นเดียวกับห้องโดยสารแทบไม่แตกต่างจากเดิม ด้วยการติดตั้งแบทเตอรีใต้พื้นห้องโดยสาร ยังไม่ทราบความจุ แต่ผู้ผลิตแจ้งว่า ชาร์จด้วยกระแสไฟสลับ 6 กิโลวัตต์ จะใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมง และสามารถจ่ายกระแสไฟ 1.5 กิโลวัตต์ ให้อุปกรณ์ไฟฟ้า (โหมด vehicle-to-load: V2L) ได้ หากชาร์จเร็วด้วยกระแสตรง 50 กิโลวัตต์ จาก 10-80 % ได้ภายใน 30 นาที
ในรุ่นนี้ให้ประตูเลื่อนทั้ง 2 ฝั่ง โดยฝั่งซ้ายเป็นประตูแบบไร้เสา เพิ่มขีดความสามารถในการลำเลียงสัมภาระขนาดใหญ่เข้ารถได้สะดวกขึ้น มีรุ่นย่อยให้เลือก 3 รุ่น โดยรุ่นแรก (Cargo) มีเบาะนั่ง 2 ที่นั่ง สำหรับคนขับ และผู้โดยสารหลังคนขับ สามารถใช้เนื้อที่ด้านซ้ายตลอดความยาวรถสำหรับขนสัมภาระได้
อีก 2 รุ่นย่อยเป็นแบบ 4 ที่นั่ง โดยสามารถพับเบาะโดยสารราบลงกับพื้น เพื่อขนสัมภาระขนาดใหญ่ได้ รุ่น Cargo มีพิกัดบรรทุกสูงสุด 350 กก. และรุ่น 4 ที่นั่ง พิกัดบรรทุกสูงสุดที่ 300 กก. ขณะใช้เบาะโดยสาร 2 ที่นั่ง
ในรุ่นสูงสุด คือ N-Van e ติดตั้งระบบช่วยการขับขี่ขั้นสูง (Honda Sensing Aadvanced Driver Assistance: ADAS), ระบบเชื่อมต่อทางไกลกับสมาร์ทโฟนกับระบบควบคุมภายในรถ, ถุงลมม่านนิรภัยทั้ง 2 ฝั่ง ซึ่งเป็นครั้งแรกที่นำมาใช้กับกลุ่มรถเพื่อการพาณิชย์ขนาดเบา (Light Commercial Vehicle: LCV)
ค่าตัวยังไม่ยืนยันอย่างเป็นทางการ แต่จากการแถลงข่าวในปีที่แล้ว ทราบว่ามีราคาเริ่มต้นที่ 1 ล้านเยน (ประมาณ 2.44 แสนบาท) สำหรับรุ่นไร้มลพิษ