ข่าวจากประเทศอังกฤษ ระบุว่า วิธีการสับเปลี่ยนแบทเตอรีรถไฟฟ้า เป็นเรื่องที่พูดกันมานานมากแล้ว จนปัจจุบันก็ยังไม่ใกล้เคียงความจริงเลย
มีเพียงค่าย Nio ผู้ผลิตรถไฟฟ้าจากประเทศจีนที่มีการบริการดังกล่าว โดยสามารถทำยอดการบริการสับเปลี่ยนแบทเตอรีถึง 30 ล้านครั้ง ด้วยเครือข่ายสถานีสับเปลี่ยนแบทเตอรีที่ได้รับความนิยมสูงในประเทศจีน รวมถึงในยุโรป และจะก้าวสู่ตลาดสหราชอาณาจักรต่อไป
ความได้เปรียบของระบบนี้ คือ ขั้นตอนการสับเปลี่ยนใช้เวลาเพียง 2.30 นาที โดยมีขั้นตอนตั้งแต่ขับรถเข้า เข้าสู่กระบวนการสับเปลี่ยน และขับออกไปจากสถานีบริการ ทั้งหมดนี้ใช้เวลาใกล้เคียงกับการเติมน้ำมันเชื้อเพลิง และเร็วกว่าการชาร์จที่มีระบบชาร์จที่เร็วที่สุดในปัจจุบัน
กระบวนการทั้งหมดเป็นระบบอัตโนมัติ ตั้งแต่ต้นจนสิ้นสุดกระบวนการ คนขับเพียงนำรถเข้าไปจอดในพื้นที่ “Recharge Area” ของสถานี และใช้คำสั่ง “Auto Parking” ที่แสดงบนจอแสดงผลในรถ
ระบบอัตโนมัติจะนำรถเคลื่อนตัวไปจอดในสถานี ซึ่งมีลูกกลิ้งที่จะเคลื่อนตัวรถไปยังตำแหน่งเปลี่ยนแบทเตอรี โดยมีถาดเลื่อนไปรองรับแบทเตอรี พร้อมกับเครื่องมือถอดสกรูยึดแบทเตอรีทั้ง 10 ตัว จากนั้นถาดแบทเตอรีจะเลื่อนลง แล้วนำไปยังที่จัดเก็บของสถานี จากนั้นจะติดตั้งแบทเตอรีชาร์จเต็มเข้ากับรถ พร้อมกระบวนการติดตั้ง และลอคแบทเตอรี
เมื่อติดตั้งแบทเตอรีเรียบร้อย จะมีการตรวจสอบสภาพการทำงานของรถ หากผ่านการตรวจสอบจึงจะสามารถนำรถออกไปใช้งานได้
สถานีบริการสับเปลี่ยนแบทเตอรีของ Nio ถูกพัฒนาเป็นรุ่นที่ 3 แล้ว โดยสามารถเก็บแบทเตอรีสำรองได้ถึง 21 ชุด มากกว่ารุ่นที่ 2 ถึง 8 ชุด ช่วยให้เพิ่มการสับเปลี่ยนมากขึ้น 30 % หรือมากถึง 408 ชุด/วัน เทคโนโลยีการนำรถเข้ารับการบริการในสถานี ด้วยเซนเซอร์ไลดาร์ (LIDAR) 2 ชุด และพโรเซสเซอร์ Nvidia Orin ประสานกับฟังค์ชัน ADAS ของ Nio เพื่อนำรถเข้าตำแหน่งเหนือประตู จากนั้นจะมีการปรับตำแหน่งครั้งสุดท้ายด้วยระบบของสถานี
ในประเทศจีน การสับเปลี่ยนแบทเตอรีในเวลากลางคืนจะถูกเก็บค่าธรรมเนียมพลังงานในการชาร์จ จึงทำให้การสับเปลี่ยนแบทเตอรีในเวลากลางคืนมีราคาสูงกว่า การสับเปลี่ยนเวลากลางวัน
การบริการสับเปลี่ยนแบทเตอรีของ Nio เติบโตอย่างก้าวหน้า นับจากเริ่มต้นที่ต้องใช้เวลาถึง 1,506 วัน ที่มีผู้ใช้บริการสับเปลี่ยนแบทเตอรีครบ 10 ล้านครั้ง ต่อมาอีก 273 วัน สามารถเข้าสู่ยอดการสับเปลี่ยนแบทเตอรี 20 ล้านครั้ง และอีกเพียง 189 วัน ที่มียอดการสับเปลี่ยนแบทเตอรีครบ 30 ล้านครั้ง แม้ Nio จะมีการขยายตลาดออกไปในภาคพื้นต่างๆ หลายประเทศ
อย่างไรก็ตาม Nio ได้ทำข้อตกลงกับบริษัท Shell ในการสร้างสถานีบริการชาร์จ และสับเปลี่ยนแบทเตอรี ทั้งจะมีการแบ่งปันเทคโนโลยี และเจรจากับบริษัทผู้ผลิตรถไฟฟ้ารายอื่นด้วย
หากอุตสาหกรรมผลิตรถไฟฟ้าสามารถทลายกำแพงความขัดแย้งด้านเทคโนโลยี ก็จะทำให้รถทุกคันสามารถใช้แบทเตอรีแบบเดียวกัน
ผู้ใช้รถ Nio ไม่จำเป็นต้องสับเปลี่ยนแบทเตอรีทุกครั้ง แต่สามารถใช้สถานีชาร์จเร็ว หรือชาร์จด้วยอุปกรณ์ชาร์จที่บ้านเหมือนกับรถไฟฟ้าทั่วไป การสับเปลี่ยนจะเหมาะสมกับรถขนส่งขนาดใหญ่ หรือรถที่ต้องเดินทางเป็นเวลานาน จนไม่มีเวลาในการชาร์จแพคแบทเตอรีจนเต็มได้
บทความแนะนำ