Jaguar จะเข้าร่วมการแข่งขัน Formula E ถึงฤดูกาล 2030

ข่าวจากประเทศอังกฤษ ระบุว่า Jaguar ตอบรับเข้าร่วมรายการแข่งขัน Formula E World Championship ไปจนถึงฤดูกาล 2030 (พศ. 2573) ทั้งเร่งพัฒนารถไฟฟ้าสำหรับใช้ในถนนสาธารณะรุ่นใหม่ด้วย 

ผู้ผลิตรถจากอังกฤษร่วมการแข่งขันรถแข่งพลังไฟฟ้าแบบที่นั่งเดี่ยว ตั้งแต่ฤดูกาล 2016-17 (พศ. 2559-60) และครบรอบการแข่งขันรถไฟฟ้า 100 ครั้ง ที่สนามโมนาโกที่ผ่านมา

ฤดูกาล 2023-24 (พศ. 2566-67) รถแข่งทีม Jaguar คว้าชัยชนะจากการแข่งขันรถ Formula E ถึง 13 ครั้ง การันตีตำแหน่งแชมพ์บริษัทผู้ผลิตในฤดูกาลนี้

มีข่าวว่าในฤดูกาล 2026-27 (พศ. 2569-70) จะปรับกติกาการแข่งขันเป็น Gen 4 ทีม Jaguar ยืนยันจะร่วมการแข่งขัน Formula E ต่อไปจนถึงฤดูกาล 2029-30 (พศ. 2572-73) โดยเข้าร่วมการแข่งขันในนามทีมแข่ง Jaguar TCS Racing Factory Team ทั้งเป็นบริษัทผู้ผลิตระบบส่งกำลังด้วย

Jaguar กำลังจะก้าวเข้าสู่บริษัทผู้ผลิตรถไฟฟ้าระดับพรีเมียม โดยตั้งเป้าหมายจะเปิดตัวรถหรูระดับลีมูซีน ถึง 3 รุ่นภายในปี 2025 (พศ. 2568)

การที่บริษัทฯ เข้าร่วมรายการแข่งขัน Formula E ต่อไปจนถึงปี 2573 ถือว่าเป็นข้อได้เปรียบของบริษัทฯ ที่นำมาใช้เป็นการชูจุดแข็งด้านเทคโนโลยีรถไฟฟ้า และสร้างภาพจำใหม่ให้แก่แบรนด์ของ Jaguar อีกด้วย

James Barclay บอสส์ใหญ่ แผนกมอเตอร์สปอร์ท กล่าวว่า ทีมงาน Formula E จะใช้การร่วมการแข่งขันรายการนี้ สำหรับการพัฒนาเทคโนโลยีรถไฟฟ้าสำหรับอนาคตได้รวดเร็วมากขึ้น 

ทั้งเป็นการพิสูจน์แนวคิดของบอร์ด JLR (Jaguar Land Rover) ที่มั่นใจว่า การเข้าร่วมการแข่งขันจะเป็นการสร้างมูลค่าให้แก่บริษัทฯ ซึ่งสอดคล้องกับแผนกลยุทธ์การปรับภาพจำใหม่ให้แก่บริษัทฯ

Jaguar มั่นใจกว่าการร่วมการแข่งขัน Motorsport เป็นการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ของรถไฟฟ้าที่ดีที่สุด โดยร่วมพัฒนาเทคโนโลยีกับบริษัทอื่น ทั้ง Wolfspeed ที่นำซิลิคอนคาร์ไบน์มาใช้ในการผลิตเซมิคอนดัคเตอร์, Castrol ในการนำน้ำมันเกียร์ใช้แล้วมาปรับสภาพ แล้วใช้ในรถแข่งเจเนอเรชัน 3 และเจเนอเรชัน 4 ด้วย 

ขณะนี้ข้อกำหนดของกติการถแข่งไฟฟ้าเจเนอเรชัน 4 จวนได้ข้อสรุปแล้ว ผู้บริหารของ Formula E ได้ออกมาเปิดเผยว่ารถแข่งเจเนอเรชัน 4 มีกำลังมากขึ้นจาก 804 แรงม้า เป็น 939 แรงม้า และการรีเจนเบรคเพิ่มกำลังมากขึ้นจาก 600 กิโลวัตต์ เป็น 700 กิโลวัตต์

รถแข่งรุ่นใหม่ของ Jaguar ได้รับการปรับเปลี่ยนหลายอย่าง ตั้งแต่แชสซีส์ที่เป็นผลงานการพัฒนาของ Spark Racing Technology จากฝรั่งเศส, แบทเตอรีจากผู้ผลิตชั้นนำของอิตาลี, มอเตอร์ขับล้อหน้า ซึ่งทำหน้าที่หลักในการรีเจนกระแสไฟกลับของ Marelli, ส่วนมอเตอร์ขับเคลื่อนล้อหลังเป็นการพัฒนาโดย Jaguar

ขณะนี้รายการแข่งขัน Formula E ในยุคเจน 4 มีการตอบรับการเข้าร่วมการแข่งขันจากทีมแข่งแล้ว 2 ทีม คือ Nissan และตามมาด้วยทีม Jaguar