ข่าวจากประเทศจีน ระบุว่า Avatr 15 ครอสส์โอเวอร์ เอสยูวีทรงฟาสต์แบคที่โฉบเฉี่ยว และมีคุณสมบัติที่โดดเด่น โดยเป็นผลงานความร่วมมือจากบริษัทระดับแนวหน้าทั้ง Changan, Huawei และ CATL ซึ่งจะวางตลาดประเทศจีนในครึ่งหลังของปีนี้ โดยมีจุดมุ่งหมายที่จะแชร์ส่วนแบ่งการตลาดจาก Tesla Model Y โดยมีให้เลือกทั้ง 2 แบบ ได้แก่ EREV (Extended Range Electric Vehicle) และ EV (Electric Vehicle)
บริษัท Avatr ก่อตั้งขึ้นในปี 2561 เป็นโครงการร่วมกับ Changan และ Nio บริษัทสตาร์ทอัพชื่อดังของจีน ต่อมา Nio ถอนการร่วมลงทุนด้วยปัญหาด้านการเงิน บริษัท CATL จึงเข้าร่วมในโครงการแทน ในปัจจุบัน Changan ถือหุ้นอยู่ 40 % ส่วน CATL ถือหุ้นมากกว่า 17 % และหุ้นที่เหลือถือโดยกองทุนท้องถิ่น โดย Huawei เป็นผู้สนับสนุนชิ้นส่วนหลัก
ปัจจุบันสายการผลิตของ Avatr มีด้วยกัน 2 รุ่น ได้แก่ Avatr 11 ครอสส์โอเวอร์ เอสยูวี และ Avatr 12 แฮทช์แบค และในปีนี้ได้เปิดตัวรถรุ่นใหม่ คือ Avatr 15 ที่เห็นวิ่งทดสอบบ่อยครั้ง จนครั้งนี้เป็นการเปิดเผยภาพการทดสอบอย่างเป็นทางการของ Avatr 15
ภาพของ Avatr 15 ที่เปิดเผยออกมาไม่แน่ใจว่าเป็นการตกแต่งที่ให้ความตื่นตาตื่นใจ หรือจงใจอำพรางรูปทรงของรถ ในด้านหน้าจะมีไฟรันนิงไลท์แอลอีดี 2 ชุด ใต้กันชนหน้ามีช่องรับลมแบบปรับได้ ด้านข้างของ Avatr 15 ยังใช้กล้องแทนกระจกส่องข้าง มือเปิดประตูแบบพับได้ และติดตั้งขอลากในด้านหลัง
Avatr 15 อยู่ในระดับเดียวกับ Tesla Model Y มีความยาว 4,750 มม. อยู่บนพแลทฟอร์ม CHN ซึ่งเป็นความร่วมมือพัฒนากับค่าย Changan, CATL และ Huawei ที่สามารถรองรับรูปแบบรถทั้ง EREV และ BEV ตามแผนเดิม Avatr 15 จะมีรุ่นไฮบริดกับไฟฟ้าล้วน สำหรับตลาดประเทศจีนเป็นรถระดับเดียวกันกับ Xpeng G6, BYD Song Plus และ BYD Sea Lion 07
การพรางตัวด้วยลวดลายของแผนที่ ได้เปิดเผยรายละเอียดตำแหน่งที่ทำการทดสอบรถ คือ เส้นรุ้ง 49°22’ เหนือ และเส้นแวง 120°85’ ตะวันออก ซึ่งเป็นตำแหน่งใกล้กับเมืองยาเกชิ ประเทศมองโกเลีย ที่มีอุณหภูมิต่ำสุดที่ -50.4 องศาเซลเซียส ซึ่งพิสูจน์ได้ว่า Avatr 15 สามารถใช้งานได้ในสภาพอากาศหนาวสุดขั้วระดับนี้
รายละเอียดทางเทคนิคของ Avatr 15 จะเปิดเผยทีหลัง และขอแจ้งเพิ่มเติมว่า Avatr 15 จะส่งจำหน่ายนอกประเทศจีน โดยเริ่มที่ประเทศไทย และตลาดหลักในอนาคต ในเอเชียกลาง แอฟริกาเหนือ อเมริกาใต้ ตะวันออกกลาง และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และ Avatr มีแผนจะวางตลาดยุโรป และอเมริกาเหนือ ต่อไป