ข่าวจากประเทศอังกฤษ ระบุว่า Volkswagen Group และ Rivian บริษัทสตาร์ทอัพสัญชาติอเมริกัน ประกาศความร่วมมือ โดยมีข้อตกลงในการแชร์เทคโนโลยีร่วมกัน เพื่อพัฒนาซอฟท์แวร์ใหม่ สำหรับนำมาใช้กับพแลทฟอร์มรถรุ่นต่อไป
จากข้อตกลงดังกล่าว Volkswagen จะลงทุนจำนวน 5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 1.85 แสนล้านบาท) ร่วมกับ Rivian และสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า แบบเดียวที่ใช้กับพแลทฟอร์มรถไฟฟ้าของ Rivian เช่น เอสยูวี R15 และรถแวน EDV ซึ่งเป็นที่ยอมรับว่ามีระดับเทคโนโลยีก้าวหน้ามาก โดย Volkswagen จะนำเทคโนโลยีดังกล่าวมาใช้พัฒนาให้กับรถรุ่นอื่นต่อไป
ในครึ่งหลังของทศวรรษนี้ (หลังปี 2026) เราจะได้เห็นรถใหม่จาก Rivian และ Volkswagen Group ที่ใช้พแลทฟอร์มร่วมกันพัฒนาขึ้นมาใหม่ คือ พแลทฟอร์ม SDV (Software Defined Vehicle) นอกจากการร่วมกันพัฒนาซอฟท์แวร์ และพแลทฟอร์มแล้ว ยังจะเป็นการใช้ทรัพยากรร่วมกัน เพื่อลดต้นทุนการผลิตให้ต่ำลง จนมีราคาที่สามารถสู้กับรถราคาต่ำจากประเทศจีน ซึ่งกำลังหลั่งไหลเข้ามายังตลาดตะวันตก
Oliver Blume ซีอีโอของ Volkswagen Group กล่าวว่า เป้าหมายของความร่วมมือกันกับ Rivian จะเป็นการสรรค์สร้างสถาปัตยกรรมที่ใช้เทคโนโลยีชั้นนำ และลูกค้าจะได้รับประโยชน์สูงสุด ความร่วมมือนำมาซึ่งการพัฒนาโซลูชันดีที่สุด เพื่อนำมาใช้กับรถของบริษัทฯ ได้อย่างรวดเร็ว และมีต้นทุนต่ำ
RJ Scaringe ผู้ก่อตั้ง และซีอีโอของ Rivian กล่าวว่า ตั้งแต่การก่อตั้ง Rivian บริษัทมุ่งพัฒนาเทคโนโลยีระดับสูง และแตกต่างจากค่ายอื่น ทั้งยังน่าตื่นเต้นที่ได้ทราบว่า เทคโนโลยีของบริษัทฯ เป็นที่ยอมรับจากบริษัทผู้ผลิตรถขนาดใหญ่ที่สุด และมีความเชื่อมั่นสูงสุดในปัจจุบัน
ทั้งเสริมว่า สิ่งสำคัญที่สุดจากความร่วมมือในครั้งนี้ถือเป็นการลงทุนที่สำคัญ เพื่อการผลักดันบริษัทให้เติบโตไปอีกระดับ เป็นการนำเทคโนโลยีรถไฟฟ้าของ Rivian เข้าสู่ตลาดทั่วโลกร่วมกับ Volkswagen Group
บริษัท Rivian ก่อตั้งในปี 2009 เปิดตัวรถที่ผลิตออกมารุ่นแรกในปี 2017 ด้วยรถเอสยูวี R1S และตามมาด้วยรถพิคอัพ R1T สำหรับจำหน่ายโดยตรงให้ลูกค้าในสหรัฐฯ และตามมาด้วยรถแวน Rivian EDV ที่ Amazon ได้ซื้อไปมากกว่า 10,000 คัน เพื่อใช้เป็นรถขนส่งสินค้า
การร่วมมือกันของ Rivian และ Volkswagen กำลังอยู่ในขั้นตอนการรออนุมัติ คาดว่าจะเรียบร้อยภายในปีนี้ 2024