ข่าวจากประเทศจีน ระบุว่า การประชุม “การจัดการยานยนต์เชื่อมต่ออัจฉริยะ” เมื่อกลางเดือนเมษายนที่ผ่านมา กระทรวงอุตสาหกรรม และเทคโนโลยีสารสนเทศของจีน (MIIT) ได้ประกาศข้อกำหนด เพิ่มความเข้มงวดสำหรับเทคโนโลยีการขับขี่อัตโนมัติไร้คนขับ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยมากขึ้น ทำให้บริษัทผู้ผลิตฯ ต้องปรับเปลี่ยนกระบวนการพัฒนา, ทดสอบ และการทำตลาดของระบบขับขี่อัตโนมัติอย่างมีประสิทธิผล
ห้ามใช้พโรแกรมทดสอบเบทาสาธารณะ
กระทรวงห้ามใช้พโรแกรมทดสอบเบทา ซึ่งเดิมบริษัทผู้ผลิตได้นำมาใช้กับ “ผู้ใช้รถรุ่นบุกเบิก” เพื่อทำทดสอบฟีเจอร์ใหม่ และแจ้งผลการใช้งานของระบบการขับขี่อัตโนมัติไปยังบริษัทผู้ผลิต หลังจากนี้หากผู้ใช้รถจะทำการทดสอบระบบในที่สาธารณะต้องได้รับการอนุมัติก่อนทุกครั้ง
จัดระเบียบการตั้งชื่อทางการตลาด
บริษัทผู้ผลิต ต้องหลีกเลี่ยงการใช้ชื่อ Automatic Driving, Autonomous Driving (ระบบขับขี่อัตโนมัติ), Intelligent Driving (ระบบขับขี่อัจฉริยะ) หรือ Advanced Intelligent Driving (การขับขี่อัจฉริยะขั้นสูง) โดยต้องเปลี่ยนมาใช้ “L (ตัวเลขของระดับ) Assisted Driving” (การช่วยเหลือการขับขี่) โดยต้องระบุระดับ (Level) การช่วยเหลือการขับขี่อย่างเคร่งครัด
ห้ามใช้ระบบนำรถเข้าจอด และระบบเรียกรถจากระยะไกล
ระบบควบคุมรถ เช่น การนำรถเข้าจอด, การสั่งการแบบวันทัช (one-touch) และการควบคุมระยะไกล โดยไม่มีคนขับควบคุมการขับเคลื่อน ถือว่าเป็นคำสั่ง “ต้องห้าม” ทั้งหมด ทางกระทรวงฯ ไม่อนุญาตให้ติดตั้งระบบดังกล่าวกับรถ เนื่องจากไม่มั่นใจว่ามีคนขับอยู่ในรถขณะใช้คำสั่ง หรือระบบมีความปลอดภัยเพียงพอ
เพิ่มข้อบังคับให้มือของคนขับต้องอยู่บนพวงมาลัย
ได้เพิ่มข้อบังคับให้มีระบบตรวจสอบความพร้อมของคนขับ และห้ามปิดการใช้งาน ต้องมีระบบตรวจสอบมือคนขับ ต้องอยู่บนพวงมาลัย หากพบว่ามือของคนขับไม่อยู่บนพวงมาลัยเกิน 60 วินาที ระบบต้องมีกระบวนการลดความเสี่ยง โดยควบคุมให้รถวิ่งช้าลง, เปิดไฟเตือนฉุกเฉิน หรือนำรถเข้าจอดข้างทาง
การควบคุมการอัพเดท OTA อย่างเข้มงวด
กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร (MIIT) ออกข้อกำหนดให้ลดความถี่ของการอัพเดท “OTA” และปรับปรุงระบบการบริหารความเสี่ยง ระบบอัพเดทฉุกเฉินต้องสามารถเรียกคืนได้ และต้องได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแลของภาครัฐฯ
ผู้เกี่ยวข้องทางอุตสาหกรรมยานยนต์มีความเห็นว่าข้อบังคับเกิดขึ้นไม่นาน หลังการเสียชีวิต 3 รายจากอุบัติเหตุรถยนต์ โดยให้ความสำคัญกับความปลอดภัย ต้องเท่าทันกับเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะก่อนงานแสดงรถที่เซี่ยงไฮ้ ซึ่งจะมีการโปรโมทระบบขับขี่อัตโนมัติไร้คนขับออกมามาก ซึ่งเป็นการแสดงถึงความมุ่งมั่นของรัฐในด้านความปลอดภัยมากขึ้น