ผลทดสอบต่างแดน
ฮันเด ทูซอน
ทูซอน เอสยูวีรุ่นใหม่ล่าสุดจากค่าย ฮันเด หลังจากที่รุ่นก่อนหน้านี้อยู่ในตลาดนานถึง 5 ปี ฮันเด จึงตัดสินใจเปลี่ยนแบบโมเดลเชนจ์ ในทันที มาพร้อมมิติตัวรถที่มีขนาดใหญ่โตและสวยงามกว่าเดิม โดยมีเป้าหมายในการจำหน่ายเน้นไปที่ตลาดยุโรป เป็นคู่แข่งโดยตรงของ มาซดา ซีเอกซ์-5, ฮอนดา ซีอาร์-วี, เอาดี คิว 3, โตโยตา รัฟโฟร์ และฟอร์ด เอสเคพ อีโคบูสต์
ขนาดเนื้อที่ภายในห้องโดยสารจะค่อนข้างเล็ก แต่ให้ความสะดวกสบายแม้ในยามเดินทางไกล สำหรับผู้โดยสารและผู้ขับขี่รวม 5 ท่าน พื้นที่ว่างในช่วงเบาะนั่งโดยสารด้านหลังนั่งสบาย รวมไปถึงพื้นที่ในห้องเก็บสัมภาระท้ายรถกว้างขวาง มีพื้นที่ถึง 513 ลิตร การออกแบบทำด้วยความประณีต ละเอียดอ่อน เน้นประโยชน์ใช้สอย และความอเนกประสงค์เป็นหลัก ให้ทัศนวิสัยที่ดีในการมองรอบทิศทาง ทำได้อย่างปลอดโปร่ง
เครื่องยนต์มีให้เลือกทั้งเบนซิน และดีเซล สำหรับเครื่องยนต์เบนซิน แบบไดเรคท์อินเจคชัน 1.6 ลิตร ติดตั้งเทอร์โบมาช่วยเพิ่มสมรรถนะ ให้กำลังถึง 175 ม้า และแบบไม่ติดตั้งเทอร์โบ 133 แรงม้า ให้เลือกใช้งานอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีเครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 2 ลิตร ให้กำลัง 134-181 แรงม้า ส่วนเครื่องยนต์ดีเซล คอมมอนเรล ขนาด 1.7 และ 2.0 ลิตร ให้กำลัง 113-134 แรงม้า แถมยังมีระบบขับเคลื่อนให้เลือก ระหว่างขับเคลื่อนล้อหน้า หรือขับ 4 ล้อ แบบออลล์วีลดไรฟ อีกด้วย ส่วนระบบถ่ายทอดกำลังมี 3 รูปแบบ คือ เกียร์ธรรมดา และอัตโนมัติ 6 จังหวะ ระบบเกียร์อัตโนมัติแบบคลัทช์คู่ 7 จังหวะ
เราจะมาทดลองขับ ทูซอน ที่ติดตั้งเครื่องยนต์ขนาด 1.6 ลิตร ไดเรคท์อินเจคชัน เทอร์โบ 175 แรงม้า ที่ใช้ระบบถ่ายทอดกำลังแบบอัตโนมัติคลัทช์คู่ 7 จังหวะ ซึ่งระบบของ ฮันเด ถือว่าการตอบสนองดี แม้ว่าจะเป็นรองระบบ ดีซีที 6 จังหวะของ โฟล์คสวาเกน และเอาดี อยู่บ้าง
แม้ว่าพละกำลังจะมีถึง 175 แรงม้า แต่ก็ถือว่าไม่โดดเด่นกว่าคู่แข่ง แต่ในแง่ของแรงบิดที่มีอยู่ถึง 27.0 กก.-ม. มาที่รอบต่ำกว่า โดยไม่มีอาการรอรอบ แรงบิดระดับนี้มีมาให้ใช้ในช่วง 1,500-4,500 รตน.
อัตราเร่ง 0-96 กม./ชม. ใช้เวลาเพียง 7.6 วินาที เร็วกว่าบรรดาคู่แข่งทั้งหมด ในขณะที่ ฟอร์ด เอสเคพ อีโคบูสต์ ทำได้ 9.1 วินาที/รัฟโฟร์ 8.2 วินาที/ซีอาร์-วี 8.2 วินาที/ซีเอกซ์-5 2.5 ทำได้ 7.7 วินาที และเอาดี คิว 3 ทำได้ 7.8 วินาที ถือว่า ทูซอน มีอัตราเร่งอยู่ในระดับหัวแถวเลยทีเดียว อัตราความสิ้นเปลืองตามมาตรฐาน EPA ในเมือง/นอกเมือง ทำได้ 10.2/11.9 กม./ลิตร ตามลำดับ ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีทีเดียว
จากโครงสร้างที่มีความแข็งแกร่งมากขึ้น มีการปรับเซทแชสซีส์ใหม่ มีผลให้การบังคับควบคุมรถมีความแม่นยำ ผนวกกับการใช้ยางขนาด 245/45 R19 โดยเน้นการขับขี่แบบสปอร์ทเป็นหลัก ส่วนการทดสอบบนสกิดพเลทเพื่อวัดแรงจีในยึดเกาะถนนเมื่อมีแรงเหวี่ยง ทูซอน ทำได้ดีที่สุดในกลุ่ม อยู่ที่ 0.83 จี ในขณะที่ ฮอนดา ซีอาร์-วี ทัวริง ทำได้ 0.76 จี, โตโยตา รัฟโฟร์ ทำได้ 0.78 จี และมาซดา ซีเอกซ์-5 ทำได้ 0.81 จี เท่ากับ ฟอร์ด เอสเคพ
ปัจจุบันถือว่า ฮันเด พัฒนาการสร้างรถได้อย่างมีคุณภาพ สามารถแข่งขันกับบรรดารถระดับเดียวกันจากญี่ปุ่น และยุโรป ได้อย่างสมศักดิ์ศรี และอยู่ในแถวหน้าในหลายๆ หัวข้อ ส่วนยอดจำหน่ายโดยเฉพาะในยุโรป เติบโตสูงขึ้นเป็นลำดับ จนทำให้คู่แข่งต้องหันมามองและพัฒนารถของตนเอง ก่อนที่จะถูก ฮันเด มาแย่งส่วนแบ่งตลาดไปครอง
คุณรู้หรือไม่ ?
ฮันเด ทูซอน มีประสิทธิภาพการหยุดรถที่ความเร็ว 112 กม./ชม. จนถึงจุดหยุดนิ่ง ใช้ระยะทางทั้งสิ้น 177 ฟุต ให้ความปลอดภัยในการหยุดรถที่ดี โดยใช้ระยะเบรคที่ยาวกว่า เอาดี คิว 3 อยู่แค่ 1 ฟุตเท่านั้น
ABOUT THE AUTHOR
จ
จูลีเอตตา
นิตยสาร 417 ฉบับเดือน เมษายน ปี 2559
คอลัมน์ Online : ผลทดสอบต่างแดน