เดือนนี้ ”ระเบียงรถใหม่” เป็นเรื่องราวของรถหลากหลายขนาดหลากหลายประเภท คือ มีทั้งรถสปอร์ทระดับ "ซูเพอร์คาร์" รถกิจกรรมกลางแจ้งขนาดเล็กกะทัดรัด รถกิจกรรมกลางแจ้งขนาดกลาง และรถเก๋งซีดานขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ ที่นำมารวมกันได้ในเดือนนี้ก็เนื่องจากเป็นรถที่มีจุดร่วม คือ ทุกคันล้วนเป็นรถที่เรียกกันในภาษาอังกฤษว่า PLUG-IN HYBRID CAR หรือรถไฮบริดชนิดที่ต้องมีการเสียบปลั๊กเพื่อชาร์จไฟนั่นเองเริ่มกันที่ แฟร์รารี เอสเอฟ 90 สตราดาเล (FERRARI SF90 STRADALE) รถสปอร์ทซูเพอร์คาร์ที่ค่าย "ม้าลำพอง" ทำขึ้นเนื่องในโอกาสที่ประกอบกิจการมาครบ 90 ปี ในปีนี้ นับเป็นการเขียนประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของค่าย เพราะนอกจากเป็นรถตลาดทรงพลังที่สุด และมีอัตราเร่งเยี่ยมยอดที่สุดเท่าที่เคยสร้างแล้ว รถรุ่นใหม่นี้ยังเป็น พลัก-อิน ไฮบริด (PLUG-IN HYBRID) หรือรถไฮบริดชนิดต้องมีการเสียบปลั๊กเพื่อชาร์จไฟแบบแรกของค่ายอีกต่างหาก รหัสชื่อรุ่น SF มาจาก SCUDERIA FERRARI ซึ่งเป็นชื่อเต็มในภาษาอิตาลีของค่ายนี้ 90 คือ 90 ปี ส่วน STRADALE เป็นคำอิตาลีซึ่งแปลว่าถนน ตัวถังยาว 4.710 ม. กว้าง 1.972 ม. สูง 1.186 ม. ที่ออกแบบขึ้นใหม่ทั้งหมด และมีน้ำหนักรถเปล่า 1.570 กก. ติดตั้งระบบขับทุกล้อซึ่งให้กำลังรวมสุทธิสูงสุด 736 กิโลวัตต์/1,000 แรงม้า โดยแยกได้เป็น 574 กิโลวัตต์/780 แรงม้า หรือร้อยละ 78 จากเครื่องยนต์ทวินเทอร์โบเบนซินฉีดเชื้อเพลิงโดยตรง DOHC วี 8 สูบ 90 องศา 3,990 ซีซี 574 กิโลวัตต์/780 แรงม้า ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ วี 8 สูบ ที่ทรงพลังที่สุดในประวัติศาสตร์ของค่าย "ม้าลำพอง" มีค่ากำลังต่อขนาดความจุ หรือ SPECIFIC POWER OUTPUT ที่สูงถึง 195 แรงม้า/ลิตร นั่นเทียว เป็นเครื่องยนต์ที่พัฒนาต่อยอดมาอีกทอดหนึ่งจากเครื่อง วี 8 สูบ 3,902 ซีซี ที่ใช้ในรถ แฟร์รารี 488 ปิสตา (FERRARI 488 PISTA) แต่ออกแบบใหม่ทั้งในส่วนของห้องสันดาป ระบบไอดี ระบบไอเสีย และระบบฉีดเชื้อเพลิง ส่วนที่เหลืออีก 162 กิโลวัตต์/220 แรงม้า หรือเท่ากับร้อยละ 22 ได้จากมอเตอร์ไฟฟ้ารวม 3 ชุด ชุดหนึ่งติดตั้งที่ท้ายรถ ที่เหลือติดตั้งหน้ารถ ส่วนระบบเกียร์เพื่อส่งกำลังสู่ล้อคู่หน้าและคู่หลัง เป็นเกียร์อัตโนมัติคลัทช์คู่ 8 จังหวะ ที่เพิ่งพัฒนาขึ้นใหม่และค่ายนี้ยืนยันว่า เบากว่า/มีขนาดเล็กกว่า/ประสิทธิภาพสูงกว่า/และใช้เวลาในการเปลี่ยนจังหวะเกียร์สั้นลงถึงร้อยละ 30 เมื่อเทียบกับระบบเกียร์อัตโนมัติคลัทช์คู่ 7 จังหวะที่เคยใช้มาก่อนในรถหลายแบบหลากรุ่น เป็นรถสปอร์ทสุดไฮเทคที่ใช้เวลาเพียง 2.5 วินาที ในการทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. และใช้เวลา 6.7 วินาทีในการทำอัตรา 0-200 กม./ชม. ส่วนความเร็วสูงสุด คือ 340 กม./ชม. อุปกรณ์ป้อนพลังไฟฟ้าแก่มอเตอร์ เป็นแบทเตอรี ลิเธียม-ไอออน (LITHIUM-ION) ขนาดค่อนข้างเล็ก คือ แค่ 7.9 กิโลวัตต์ชั่วโมง ชาร์จไฟแต่ละครั้งรถจึงวิ่งด้วยพลังไฟฟ้าล้วนๆ ได้ไกลเพียง 25 กม. เท่านั้นเอง เป็นการวิ่งด้วยล้อคู่หน้าเพียงอย่างเดียวไม่ใช้ล้อคู่หลัง และวิ่งได้ช้ากว่าปกติ คือ ทำความเร็วสูงสุดได้เพียง 135 กม./ชม. เป็นรถที่มีโหมดการขับให้เลือกถึง 4 แบบ คือ EDRIVE เป็นการขับด้วยพลังไฟฟ้าล้วนๆ HYBRID เป็นโหมดการขับมาตรฐานที่มุ่งเน้นประสิทธิภาพโดยรวมของระบบขับไฮบริด PERFORMANCE เป็นการขับที่มุ่งเน้นพละกำลังและความสนุกสนานในการขับ QUALIFY เป็นการขับที่ให้กำลังสูงสุดรวมทั้งมุ่งเน้นประสิทธิภาพการชาร์จไฟเข้าแบทเตอรีด้วย ยังไม่มีประกาศราคาค่าตัว แต่ยืนยันแล้วว่าจะรับประกันการบำรุงรักษา 7 ปี และจะเริ่มการส่งมอบรถในไตรมาสแรกของปี 2020