LOTUS ELETRE รถกิจกรรมกลางแจ้งแบบแรกของยอดผู้ผลิตรถสปอร์ทเมืองผู้ดี

รถพลังไฟฟ้าอีกแบบหนึ่งที่นำเรื่องราวมาเล่าสู่กันฟังในเดือนนี้ คือ LOTUS ELETRE (โลทัส อีเลตรี) เป็นรถสายพันธุ์ผู้ดี และเป็นผลงานใหม่ของค่าย LOTUS ซึ่งเริ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์มาตั้งแต่ปี 1952 และปัจจุบันผู้ถือหุ้นร้อยละ 51 คือ ZHEJIANG GEELY HOLDING GROUP ซึ่งเป็นเจ้าของกิจการผลิตรถยนต์ยี่ห้อ GEELY (กีลี) ในสาธารณรัฐประชาชนจีน ส่วนผู้ถือหุ้นร้อยละ 49 ที่เหลือ คือ กลุ่มธุรกิจ ETIKA AUTOMOBILE ของมาเลเซีย เปิดตัวแบบ WORLD PREMIERE หรือ “ครั้งแรกในโลก” ที่กรุงลอนดอน เมื่อเดือนมีนาคม 2022 พร้อมคำประกาศยืนยัน นี่คือรถกิจกรรมกลางแจ้งแบบแรกในประวัติศาสตร์ซึ่งยาวนานถึง 7 ทศวรรษ ที่ติดป้ายชื่อ LOTUS และติดโลโก “ลูกเบี้ยว” เป็นรถแบบแรกของค่ายนี้ที่จะผลิตในเมืองมังกร คือ ที่โรงงานของบริษัท ZEEJIANG GEELY AUTOMOBILE ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองหวู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย รวมทั้งเป็นลำดับแรกของรถพลังไฟฟ้าล้วนๆ รวม 4 แบบ ที่ค่ายนี้จะนำออกสู่ตลาดภายในปี 2025 ชื่อรุ่น ELETRE เป็นภาษาฮังการี แปลว่า COMING TO LIFE หรือ “กำลังกลับสู่ชีวิต” เป็นรถที่เรียกกันในภาษาอังกฤษว่า ELECTRIC FULL-SIZE LUXURY CROSSOVER SUV หรือเรียกในภาษาไทยสไตล์ “สื่อสากล” ว่า รถกิจกรรมกลางแจ้งข้ามพันธุ์ระดับหรูขนาดโตเต็มพิกัดพลังไฟฟ้า มีตัวถังยาว 5.103 ม. กว้าง 2.231 ม. (รวมกระจกมองข้าง) สูง 1.630 ม. (เมื่อติดล้อขนาด 20 นิ้ว) 1.636 ม. (เมื่อติดล้อขนาด 22 หรือ 23 นิ้ว) และมีช่วงฐานล้อยาว 3.019 ม. นับเป็นรถกิจกรรมกลางแจ้งขนาดใหญ่ที่สอดรับกับความต้องการของผู้ใช้รถ ทั้งในสาธารณรัฐประชาชนจีน และสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นตลาดเป้าหมาย ออกแบบ/พัฒนาโดยใช้เวลาเพียง 3 ปี ที่ศูนย์สร้างสรรค์ LTCC (LOTUS TECHNOLOGY CREATIVE CENTRE) ซึ่งตั้งอยู่ในเมือง COVENTRY (โคเวนทรี) และเพิ่งเปิดใช้งานได้เพียง 4 ปี เป็นรถตัวถังเหล็กกล้า ที่ออกแบบ และพัฒนาโดยมีพแลทฟอร์มที่ค่ายนี้เพิ่งพัฒนาขึ้นใหม่เป็นแกนหลัก เป็นพแลทฟอร์มที่มีชื่อว่า EPA (ELECTRIC PREMIUM ARCHITECTURE) มีรูปลักษณ์อย่างที่เรียกในภาษาอังกฤษว่า SKATEBOARD-STYLE DESIGN คือ คล้ายกับกระดานสเกท และเป็นพแลทฟอร์มที่สามารถดัดแปลงไปใช้กับรถแบบอื่นๆ ได้ง่าย จะเริ่มการจำหน่ายในปี 2023 และจะมีรถให้เลือกรวม 3 โมเดล คือ LOTUS ELETRE-LOTUS ELETRE S-LOTUS ELETRE R ทั้งหมดเป็นรถขับเคลื่อนทุกล้อด้วยพลังไฟฟ้าล้วนๆ และมีห้องโดยสารติดตั้งเก้าอี้ที่นั่ง 2 แถว นั่งได้รวม 5 คน 2 โมเดลแรก LOTUS ELETRE และ LOTUS ELETRE S ใช้มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ชุด ให้กำลังรวมสูงสุด 450 กิโลวัตต์/603 แรงม้า และให้แรงบิดสูงสุด 710 นิวตัน-เมตร/72.4 กก.-ม. ทำงานร่วมกันกับแบทเตอรีขนาดความจุ 112 กิโลวัตต์ชั่วโมง ซึ่งเมื่อชาร์จไฟเต็ม และวัดตามมาตรฐาน WLTP รถซึ่งสามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 4.5 วินาทีและทำความเร็วสูงสุด 258 กม./ชม. ทั้ง 2 โมเดลนี้ จะวิ่งได้ไกลถึง 600 กม. ส่วนรถโมเดลหัวกะทิ LOTUS ELETRE R ก็ใช้มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ชุด แต่กำลังรวมสูงสุดเพิ่มเป็น 675 กิโลวัตต์/905 แรงม้า และแรงบิดสูงสุดเพิ่มขึ้นเป็น 985 นิวตัน-เมตร/100.5 กก.-ม. ทำงานร่วมกันกับแบทเตอรีขนาดความจุ 112 กิโลวัตต์ชั่วโมง รถแรงโมเดลนี้ใช้เวลาแค่ 2.95 วินาที ในการทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. และสามารถทำความเร็วสูงสุด 265 กม./ชม. แต่ระยะเดินทางลดลงมากเมื่อเทียบกับรถ 2 โมเดลแรก คือ จะวิ่งได้ไกล 490 กม. เมื่อชาร์จไฟเต็ม และวัดตามมาตรฐาน WLTP ราคาค่าตัวในเมืองผู้ดี เริ่มต้นที่ 89,500 ปอนด์ หรือประมาณ 3.845 ล้านบาทไทย เมื่อคิดว่า เงินอังกฤษ 1 ปอนด์ แลกได้ด้วยเงินไทย 43 บาทถ้วน   LOTUS ELETRE รถกิจกรรมกลางแจ้งข้ามพันธุ์ขนาดใหญ่ ขับเคลื่อนทุกล้อด้วยพลังไฟฟ้า มิติตัวถัง 5.103x2.231 (รวมกระจกมองข้าง)x1.630-1.636 ม. ห้องโดยสาร 5 ที่นั่ง มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ชุด 450 กิโลวัตต์/603 แรงม้า หรือ 675 กิโลวัตต์/905 แรงม้า แบทเตอรีขนาดความจุ 112 กิโลวัตต์ชั่วโมง ระยะเดินทาง 490-600 กม. (WLTP) ราคาในสหราชอาณาจักร เริ่มต้นที่ 89,500 ปอนด์ (ประมาณ 3.845 ล้านบาทไทย)