“ฟอร์มูลา” สัมภาษณ์พิเศษ ปิยะเทพ ศิวากาศ ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการ MASERATI ประเทศไทย บริษัท โมเดน่า มอเตอร์เวอร์ค จำกัด ภายใต้ บริษัท มาสเตอร์ กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด (MGC-ASIA)
ฟอร์มูลา : คุณมองว่าสถานการณ์รถยนต์ในปีนี้เป็นอย่างไร ?
ปิยะเทพ : ปีที่แล้วตลาดรถยนต์ในกลุ่มลักชัวรีส์ยังดีอยู่ แต่ MASERATI (มาเซราตี) ติดเรื่องการส่งมอบล่าช้าสำหรับรถเปิดตัวใหม่ ทำให้ยอดจองปีที่แล้วใกล้เคียงกับปีก่อนหน้านี้ รวมถึงส่งผลให้ยอดส่งมอบตกลงประมาณ 15 % เนื่องจากรถยนต์ไฟฟ้า 2 รุ่นใหม่ของ MASERATI ได้รับความนิยมมาก เห็นได้ชัดเจนจาก “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 41” ที่มียอดจองในงานมากกว่าทุกปี
จากความสำเร็จของ MASERATI ในปีที่ผ่านมา ทำให้บริษัทแม่มองว่า ลูกค้ามีความต้องการผลิตภัณฑ์ระดับลักชัวรีมากขึ้น อีกทั้งในช่วงที่ผ่านมา ลูกค้าให้การตอบรับรถยนต์ไฟฟ้าอย่างมาก มียอดจองสูงสุด 80 % ทำให้ทิศทางของ MASERATI สำนักงานใหญ่ พโรโมทสเปคซูเพอร์คาร์ ซึ่งส่งผลดีต่อเรา โดยแนวโน้มขณะนี้จะหันไปผลิตรถที่เป็น HIGH PERFORMANCE มากขึ้น แรงม้าจะขยับไปที่ 500 แรงม้า ทำให้เริ่มมีลูกค้ากลุ่มใหม่ที่ชอบขับรถสปอร์ทจริงๆ ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา
ฟอร์มูลา : แนวโน้มของสินค้าใหม่ที่จะนำเข้ามาจำหน่ายในไทย ?
ปิยะเทพ : แนวโน้มจะเป็นสปอร์ทคาร์เพิ่มมากขึ้น แต่เอสยูวีก็ยังคงมีเช่นกัน เพราะปัจจุบันรถสันดาปก็ยังคงได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ถึงแม้รถไฟฟ้าจะมีแรงม้าเยอะแล้ว โดย MASERATI ยังเน้นรถที่เป็นเครื่องยนต์สันดาป และไฟฟ้าเท่านั้น ไม่มีไฮบริดอย่างแน่นอน
ฟอร์มูลา : ปัจจุบันลูกค้าให้การตอบรับ MASERATI มากน้อยเพียงใด ?
ปิยะเทพ : กลุ่มลูกค้าของ MASERATI จะเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ ชอบนวัตกรรม มีคาแรคเตอร์เป็นตัวของตัวเอง และส่วนใหญ่จะรู้จัก MASERATI อยู่แล้ว ไม่เหมือนเมื่อ 4-5 ปีที่แล้ว ที่เราเริ่มทำตลาดใหม่ๆ ช่วงแรกลูกค้าจะถามว่า MASERATI เป็นรถจากประเทศไหน เห็นในซีรีส์ เกาหลี คิดว่าเป็นรถเกาหลี แต่ช่วงนี้ทุกคนรู้แล้วว่า MASERATI มีประวัติศาสตร์มากกว่า 100 ปี และเป็นบแรนด์รถที่เกิดจากสนามแข่ง
นอกจากนี้ ลูกค้า MASERATI ชอบความชัดเจนของงานดีไซจ์นที่มีเอกลักษณ์ สะท้อนความเป็นบแรนด์อิตาเลียน ตามคาแรคเตอร์ของลูกค้ากลุ่มใหม่ที่ชื่นชอบอะไรที่มีรสนิยม ความพิเศษ และงานฝีมือที่มีความประณีต แฝงความขี้เล่น รวมถึงชอบรถที่ขับสนุก อายุระหว่าง 35-45 ปี
MASERATI มีความแตกต่างจากบแรนด์อื่น เช่น รถไฟฟ้าจะมีแบทเตอรีอยู่ข้างใต้ ขณะที่ยี่ห้ออื่นจะมีที่นั่งอยู่บนแบทเตอรี แต่ใน MASERATI GRANTURISMO (กรันตูริสโม) แบทเตอรีจะเป็นตัว T ที่นั่งจะไม่ได้อยู่บนแบทเตอรี แต่นั่งอยู่บนฐาน เพื่อให้มีความสนุกในการขับขี่ ควบคุมรถได้ดี ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่เราพัฒนามาจากรถแข่ง FORMULA E ของ MASERATI ที่ได้แชมพ์หลายสนาม แรงบิด 1,300 นิวทันแมตร แรงม้า 761 แรงม้า มีมอเตอร์ 3 ตัว ปกติจะมีมอเตอร์ 2 ตัว เพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสเทคโนโลยีของเราอย่างเต็มที่
ฟอร์มูลา : คุณวางนโยบาย และทิศทางการตลาดไว้อย่างไร ?
ปิยะเทพ : MASERATI จะมุ่งเน้นผลิตภัณฑ์ HIGH PERFORMANCE เพราะว่ารถแต่ละคันที่เข้ามาจำหน่ายในปัจจุบันจะเน้นรถที่มีแรงม้า 500 แรงม้าขึ้นไป รวมถึงกลุ่มรถเอสยูวี ก็จะเน้นที่แรงม้า เพราะกลุ่มลูกค้ามีความต้องการรถประเภทนี้มากขึ้น ลูกค้าที่เคยใช้รถบแรนด์อื่นก็หันมาใช้รถ MASERATI ทำให้ MASERATI ต้องปรับคาแรคเตอร์ จนปัจจุบัน MASERATI มีความเป็นอิตาเลียนมากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องงานฝีมือ มีเอกลักษณ์ และความประณีต พร้อมสมรรถนะที่สูงเกิดเป็นกลยุทธ์การตลาดที่จะทำต่อไปในอนาคต
ส่วนช่องว่างทางการตลาดที่ MASERATI ยังไม่มี ไม่ว่าจะเป็นเอสยูวีขนาดใหญ่ ซีดานขนาดกลาง และใหญ่ บริษัทแม่ก็กำลังพัฒนาผลิตภัณฑ์ออกมาในอนาคต
ฟอร์มูลา : 3-5 ปี ตลาดจะเป็นอย่างไร ?
ปิยะเทพ : จำนวนคงไม่ได้เพิ่มขึ้นมากมาย ขณะเดียวกัน ก็ต้องเตรียมความพร้อมสำหรับเซกเมนท์ใหม่ที่จะเปิดตัวในอนาคตอันใกล้ ซึ่งความจริงแล้ว MASERATI ก็มีกลุ่มลูกค้าส่วนนี้อยู่บ้าง นั่นคือ ลูกค้าของ MASERATI LEVANTE (มาเซราตี เลวันเต) และ GHIBLI (กีบลี)
ฟอร์มูลา : บริษัทฯ มีนโยบายเกี่ยวกับ MASERATI มือสองอย่างไร ?
ปิยะเทพ : MASERATI มีพโรแกรม MASERATI APPROVED PRE-OWNED ซึ่งไม่ใช่รถทุกคันจะเข้าพโรแกรมนี้ได้ เพราะรถมือสองของ MASERATI ต้องผ่านการตรวจสอบอย่างเข้มงวด โดยมีการตรวจสอบประวัติ เชคสภาพ และปรับสภาพตามข้อกำหนดของ MASERATI รวม 121 รายการ พร้อมการรับประกัน และรับรองมาตรฐานที่บริษัทแม่กำหนด เพื่อให้ลูกค้าเกิดความเชื่อมั่น และซื้อไปแล้วสามารถใช้ได้ในระยะยาว
พโรแกรม MASERATI APPROVED PRE-OWNED ทำขึ้นเพื่อรองรับลูกค้าที่ต้องการลองสัมผัสบแรนด์ MASERATI แต่รถยังมีปริมาณไม่มาก เพราะรถที่จะเข้าพโรแกรม MASERATI APPROVED PRE-OWNED ต้องผ่านการตรวจสอบอย่างดี อีกส่วนหนึ่ง ลูกค้าที่ใช้รถ MASERATI ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยปล่อยรถออกสู่ตลาด
ฟอร์มูลา : คุณมีความคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับภาษีรถยนต์นำเข้าใหม่ ?
ปิยะเทพ : สำหรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตใหม่รถยนต์ที่มีเครื่องยนต์เกิน 3,000 ซีซี จะได้รับผลกระทบเนื่องจากต้องจ่ายภาษีในอัตราสูงขึ้น ส่วนรถต่ำกว่า 3,000 ซีซี และรถไฟฟ้า ไม่ได้รับผลกระทบ MASERATI นับว่าโชคดีที่รถที่จำหน่ายอยู่ในปัจจุบันอยู่ในกลุ่มที่ไม่ต้องปรับขึ้น รถไฟฟ้าจะมีการปรับขึ้นเล็กน้อย รถที่มาถึงเมืองไทยก่อนวันที่ 1 มกราคม 2569 ที่ยังไม่ได้มีการปรับภาษี เพระถ้าหากลูกค้าที่จองรถแล้วรถมาไม่ทันอาจจะต้องมีการตกลงกับผู้นำเข้าว่าจะออกมาในทิศทางใด
ฟอร์มูลา : ปัจจัยความสำเร็จของ MASERATI ในประเทศไทย คืออะไร ?
ปิยะเทพ : MASERATI เป็นบแรนด์ไม่น่าเบื่อ เพราะมีรถหลากหลายเซกเมนท์ ไม่ว่าจะเป็นเอสยูวี ซีดาน ซูเพอร์คาร์ สปอร์ทคาร์ ที่ผ่านมา การจัดกิจกรรมให้ลูกค้าทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ลูกค้ามีความสุข เพราะ MASERATI จัดทริพแตกต่างจากที่อื่น มีความขลัง มีตำนาน มีความพิเศษ โดยจะนำหลายสิ่งมาเชื่อมโยงกับความเป็นอิตาเลียน
MASERATI ในไทย นับว่ายังเพิ่งเริ่มต้น เพราะเปิดตัวมาแค่ 8 ปี สินค้าก็ยังไม่มีจังหวะที่จะมีจำหน่ายครบทุกรุ่น เมื่อเรามีสินค้าครบไลน์ คงจะทำให้บแรนด์น่าสนใจมากกว่านี้ และจะเป็นบแรนด์ที่มีคาแรคเตอร์ของตัวเองชัดขึ้น