รายงานข่าวจากสำนักข่าว Nikkei ระบุว่า ค่าย Nissan วางแผนที่จะเปิดสายการผลิตแห่งใหม่ ในประเทศกานา ในปี 2565 เพื่อเพิ่มยอดขายในตะวันออกกลาง และแอฟริกา ให้ทันกับความต้องการของผู้บริโภคโรงงานแห่งใหม่นี้ จะมีกำลังการผลิตราว 50,000-60,000 คัน/ปี เช่นเดียวกับแผนงานที่จะเปิดสายการผลิตในประเทศแอลจีเรีย ด้วยกำลังการผลิตราว 60,000 คัน/ปี หลังจากประมาณการความต้องการของผู้บริโภคในแถบนี้ ราว 200,000 คัน ภายในปี 2565 Nissan วางแผนที่จะรุกตลาดในแอฟริกา หลังจากผลการวิจัยพบว่า ผู้บริโภควัยรุ่น ซึ่งมีราวครึ่งหนึ่งของจำนวนประชากรทั้งหมด มีแนวโน้มที่จะได้รับรายได้เพิ่มขึ้นในอนาคต อันจะทำให้มีกำลังจับจ่ายซื้อสินค้าประเภทรถยนต์เพิ่มมากขึ้น จากการสำรวจทั่วทั้งทวีปแอฟริกา พบว่า ยอดการขายจะเพิ่มขึ้นถึง 80 % โดยเฉพาะในประเทศไนจีเรีย ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ที่สุดในแอฟริกาตะวันตก Nissan เพิ่มผู้จำหน่ายถึง 3 เท่า เป็น 45 ราย Nissan ตั้งเป้าหมายเพิ่มยอดการขายในตลาดตะวันออกกลาง, แอฟริกา และอินเดีย จากปีที่แล้ว มีส่วนแบ่งตลาด 4 % เพิ่มเป็น 8 % ในปี 2565 ขณะเดียวกัน Peyman Kargar รองประธานอาวุโส วางแผนที่จะเพิ่มผลกำไร มากกว่า 10 % รวมทั้งเตรียมที่จะแนะนำรถไฟฟ้าในแถบอ่าวเปอร์เซีย เป็นครั้งแรก ขณะเดียวกัน Nissan กำลังพิจารณาที่จะมอบให้ Renault เป็นผู้ผลิตและทำการตลาดในย่านนี้ ทั้งนี้เพราะค่ายสหกรณ์แห่งนี้ มีส่วนแบ่งการตลาดถึง 60 % ขณะเดียวกัน ในปีนี้ Toyota ก็เริ่มให้ความสำคัญกับตลาดแอฟริกา ทั้งด้านการขาย และการตลาด โดยมอบหมายให้กลุ่มทเรดิง Toyota Tsusho ดำเนินการ หลังจาก Suzuki ตอบรับที่จะผลิตรถยนต์ขนาดเล็ก จากประเทศอินเดีย โดยติดโลโก Toyota เพื่อจำหน่ายในตลาดแอฟริกา ปีที่แล้ว Toyota มียอดจำหน่ายในตลาดแอฟริกา 190,000 คัน ขณะที่ Suzuki มียอดขายเพียง 25,000 คัน