รถล่าสุด

มาแล้ว Mazda CX-30 ใหญ่กว่า CX-3 เล็กกว่า CX-5 แต่ทำไมไม่เรียก CX-4 !?! มาหาคำตอบกัน พร้อมสเปคของครอสส์โอเวอร์รุ่นใหม่

7 Mar 2020

Mazda เสริมทัพรถยนต์กลุ่มครอสส์โอเวอร์กันตั้งแต่ต้นปี กับ CX-30 ที่มาพร้อมกับการเรียกชื่อรถแบบใหม่ ดังนี้แล้วรถยนต์รุ่นนี้จะอยู่ในเซกเมนท์ไหนเทียบสเปคกัน https://youtu.be/TC-4gXVDrus

ใหญ่กว่า CX-3 เล็กกว่า CX-5

ก่อนอื่นเลย Mazda CX-30 เป็นครอสส์โอเวอร์ที่มีรูปทรงตามแบบฉบับ Mazda อย่างชัดเจน ต่อให้ปิดโลโกก็รู้กันทันทีว่า นี่คือ สไตล์ของ Mazda เห็นกันมาแล้วจากซีดานร่วมค่ายอย่าง Mazda 3 ลดสันเหลี่ยม แต่เน้นความเรียบหรู กลมกลืน พิจารณาอีกนิดก็จะรู้สึกได้ว่า CX-30 มีขนาดตัวใหญ่กว่า CX-3 อย่างแน่นอน แต่จะใกล้เคียงกับ CX-5 หรือไม่ ? เทียบสเปคของมิติตัวถังจะเห็นได้ตามตารางนี้

จากตารางจะเห็นว่า CX-30 มีมิติตัวถังที่อยู่กึ่งกลางระหว่าง CX-3 และ CX-5 ส่วนหนึ่งมาจากการใช้โครงสร้างตัวถังโดยรวมร่วมกับซีดาน Mazda 3 ทำให้มีระยะฐานล้อมากขึ้น (ขณะที่ CX-3 ใช้พื้นฐานร่วมกับ Mazda 2) แม้ขนาดตัวถังจะย่อมกว่ารุ่นพี่อย่าง CX-5 แต่หลายจุดก็มีความใกล้เคียงกัน Mazda CX-3

Mazda CX-5

ทำไมไม่ใช้ชื่อ CX-4 ?

คำตอบง่ายๆ ของคำถามนี้ คือ Mazda CX-4 ถูกใช้ไปแล้ว เป็นรถยนต์ที่ทำตลาดในประเทศจีนเท่านั้น ไม่มีในภูมิภาคอื่น หลายคนจึงไม่คุ้นกับชื่อนี้มากนัก โดย CX-4 เปิดตัวเมื่อหลายปีก่อนที่ประเทศจีน โครงสร้างตัวถังใช้ร่วมกับ Mazda 3 (รุ่นก่อนหน้าปัจจุบัน) ดูจากรูปทรงจัดเป็นครอสส์โอเวอร์ที่มีความคล้ายคลึงกับรถยนต์สไตล์สเตชันแวกอน ตัวถังมีความสูงที่ไม่มากนัก แต่ก็มีความแตกต่างจาก Mazda 3 พอประมาณ เนื่องจากตลาดในประเทศจีนมีความหลากหลายมากๆ ต่างจากตลาดกลุ่มอื่นที่อาจทับซ้อนกับรหัส CX (ในเวลานั้น) CX-4 จึงไม่เคยได้ออกมาทำตลาดนอกประเทศจีนเลย Mazda CX-4

Mazda CX-30

เหตุผลทางการตลาดก็มีส่วน

กลับมาที่ Mazda CX-30 เมื่อมิติตัวถังอยู่กึ่งกลางของ CX-3 และ CX-5 และไม่สามารถใช้ชื่อ CX-4 ได้ ทางค่ายจึงตัดสินใจใช้รหัสรุ่นแนวใหม่สำหรับ CX กลายเป็น CX-30 เพื่อบ่งบอกความแตกต่างจาก CX รุ่นอื่นๆ ผู้บริโภคสามารถรับรู้ได้ทันที โดยการเรียกรหัสลักษณะนี้ มีเพียงรถยนต์ 2 รุ่นของ Mazda นั่นคือ กระบะ BT-50 และรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่เพิ่งเปิดตัวในงาน Tokyo Motor Show 2019 กับ MX-30 Mazda CX-30

Mazda MX-30

CX-30 จะมาแทน CX-3 โดยสิ้นเชิง ?

ขนาดตัวถังที่แตกต่างกัน ทำให้ค่ายผู้ผลิตเคยระบุเอาไว้ว่า CX-30 จะไม่ได้มาแทน CX-3 อย่างไรก็ตามสำหรับบ้านเราอาจไม่ใช่เช่นนั้นเสียทั้งหมด พิจารณาได้จากราคา โดยทาง CX-30 เปิดราคาที่ 989,000-1,199,000 บาท ซึ่งใกล้เคียงกับราคาของ CX-3 ที่ 879,000-1,189,000 บาท (รุ่นทอพ คือ เครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบ ขนาด 1.5 ลิตร) หาก CX-3 ยังมีทำตลาดในบ้านเรา อาจเป็นรุ่นย่อยลำดับต้นๆ แต่รุ่นระดับบนที่มีราคาระดับ 1 ล้านบาท คงเน้นทำตลาดกับ CX-30 มากกว่า เพราะมีความสดใหม่ ภายใต้ราคาที่ใกล้เคียงกัน

หันมาดูขุมพลังที่ใช้กับ Mazda CX-30

Mazda CX-30 ใช้เครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 2.0 ลิตร กำลังสูงสุด 165 แรงม้า ที่ 6,000 รตน. แรงบิดสูงสุด 21.7 กก.-ม. ที่ 4,000 รตน. เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ บลอคเดียวกับ Mazda 3 เป็นเครื่องยนต์ Skyactiv-G ที่ได้รับการปรับปรุงท่อไอดี และรูปทรงของลูกสูบที่เหมาะสม ระบบการฉีดน้ำมัน และวาล์วควบคุมน้ำหล่อเย็น อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ยตามที่ผู้ผลิตระบุมา คือ 15.4 กม./ลิตร ส่วนเครื่องยนต์บลอคใหม่รหัส Skyactiv-X มีทำตลาดแล้วในบางภูมิภาค แต่ยังไม่มีกำหนดนำมาใช้งานในบ้านเราแต่อย่างใด

ห้องโดยสารเสริมความหรูหรา

ห้องโดยสารของ Mazda CX-30 มีแนวทางการออกแบบคล้ายกับ Mazda 3 นั่นคือ เน้นความเรียบหรู เส้นสายของคอนโซลหน้าแนวนอน ให้ความรู้สึกแบนราบคล้ายกับรถสปอร์ท การตกแต่งใช้วัสดุชั้นดี หุ้มด้วยหนังแท้ในหลายจุด พร้อมอุปกรณ์ใช้สอยที่ครบครันในรุ่นทอพ 2.0 SP ได้แก่ แพดเดิล ชิฟท์ บนพวงมาลัย ระบบเครื่องเสียงชั้นดีของ Bose พร้อมลำโพงถึง 12 ตัว เซนเซอร์กะระยะด้านหลัง 6 จุด กล้องมองภาพรอบทิศทาง 360 องศา

ระบบความปลอดภัยจัดเต็มตามแบบฉบับ Mazda

นอกจากรูปทรงที่ปราดเปรียว มาดหรูผสมความปสอร์ท Mazda CX-30 ติดตั้งระบบความปลอดภัยมาเต็มที่ เทียบเท่ากับ Mazda 3 ถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง ทุกรุ่นย่อย โดยในรุ่นทอพ 2.0 SP ติดตั้งระบบ i-Activsense ได้แก่ ระบบครูสคอนทโรลแปรผันความเร็ว , ระบบควบคุมความเร็ว และทิศทางตัวรถตามรถคันหน้า , ระบบเตือนการชนด้านหน้า และช่วยเบรคอัตโนมัติ , ระบบช่วยเบรคเมื่อมีรถแล่นมาด้านหลังขณะทำการถอยรถ , ระบบไฟหน้าแอลอีดีปรับได้อัตโนมัติ , ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน และระบบเตือนอาการเมื่อยล้าของผู้ขับ