สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย จัดพิธีปล่อยคาราวานรถ “ตู้ปันสุข”

สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยจัดพิธีปล่อยคาราวานรถ “ตู้ปันสุข” สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เพื่อส่งมอบให้แก่สภาอุตสาหกรรม 74 จังหวัด หวังช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 ทั่วประเทศ โดยทุ่มงบประมาณกว่า 800,000 บาท จัดทำตู้ใส่สินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน รวมมูลค่าตู้ละ 10,000 บาท และมอบให้สภาอุตสาหกรรมจังหวัดบริหารจัดการแบ่งปันความสุขให้แก่ประชาชนในพื้นที่ต่อไป

สุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ที่ส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจ สังคม และการดำเนินชีวิตของประชาชนเป็นอย่างมาก ในวันนี้ สภาอุตสาหกรรมฯ โดยสายงานความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมขององค์กร ได้จัดทำ “ตู้ปันสุข” สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย มอบให้กับสภาอุตสาหกรรมจังหวัด ทั่วประเทศ รวม 74 จังหวัด (ภาคเหนือ 16 จังหวัด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 19 จังหวัด ภาคใต้ 14 จังหวัด ภาคตะวันออก 8 จังหวัด และภาคกลาง 17 จังหวัด) โดยได้ทำพิธีปล่อยคาราวานรถจำนวนทั้งสิ้น 16 คัน เพื่อแบ่งปันความสุขและร้อยยิ้มให้แก่ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน 

“ตู้ปันสุข” สภาอุตสาหกรรมฯ เป็นตู้ที่ทำด้วยไม้ รูปแบบสวยงาม มีขนาดใหญ่ และบรรจุของได้จำนวนมาก โดยใส่สินค้าอุปโภคบริโภค ประกอบด้วย ข้าวสารอาหารแห้ง (มาม่า ปลากระป๋อง) นมถั่วเหลือง ขนม น้ำดื่ม แอลกอฮอล และหน้ากากผ้า มูลค่าตู้ละ 10,000 บาท รวมเป็นงบประมาณทั้งสิ้นกว่า 800,000 บาท

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยได้ให้ความสำคัญและดำเนินการดูแลช่วยเหลือสังคมทุกภาคส่วนของประเทศมาโดยตลอด อาทิ การช่วยเหลือบุคลากรทางการแพทย์โดยการมอบอุปกรณ์ป้องกันการติดเชื้อต่างๆ ได้แก่ หน้ากากผ้า, ชุดอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (PPE), กล่องป้องกันเชื้อฟุ้งกระจาย (Aerosol Box) และผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อให้แก่โรงพยาบาลของภาครัฐ ล่าสุดได้มอบนวัตกรรมป้องกัน COVID-19 แบบเคลื่อนที่ (แคพซูลเคลื่อนย้ายผู้ป่วยความดันลบ และแคพซูลเคลื่อนย้ายผู้ป่วยความดันลบขนาดเล็ก สำหรับเข้าเครื่อง CT Scan) ให้แก่โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า จำนวน 1 ชุด ปัจจุบันสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสภาอุตสาหกรรมทั้ง 5 ภาค (ทั่วประเทศ) ได้ร่วมดำเนินการเพื่อช่วยเหลือทุกภาคส่วนทั่วประเทศมาแล้วรวมเป็นมูลค่ากว่า 13,000,000 บาท และยังคงมุ่งมั่นตั้งใจที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลช่วยเหลือสังคมและทุกภาคส่วนของประเทศต่อไป