BMW เสนอพลังทางเลือกในงาน Motor Expo 2021

บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย เดินหน้าสานต่อความมุ่งมั่นด้านอนาคตแห่งการขับเคลื่อนด้วยทัพรถยนต์ BMW (บีเอมดับเบิลยู) รุ่นใหม่ล่าสุด ข้อเสนอสุดพิเศษภายในงาน "มหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 38" ระหว่างวันที่ 1-12 ธันวาคม 2564 นี้ ณ อิมแพคท์ ชาลเลนเจอร์ เมืองทองธานี ด้วยความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าในการนำเสนอที่สุดของพลังแห่งทางเลือกให้แก่ลูกค้า พร้อมจัดแสดงรุ่นรถยนต์ในหลากหลายระบบขับเคลื่อนให้ผู้เข้าชมงานได้สัมผัสอย่างจุใจ นำทัพโดย BMW 630I GT M Sport (บีเอมดับเบิลยู 630 ไอ จีที เอม สปอร์ท) ใหม่ ที่มาพร้อมสมรรถนะสปอร์ททรงพลังตามแบบฉบับ BMW ผสานความสะดวกสบายเหนือระดับสำหรับการขับขี่ทางไกล ในขณะที่รถยนต์ BMW X3 (บีเอมดับเบิลยู เอกซ์ 3) ใหม่ โดดเด่นด้วยความสปอร์ท ทันสมัย ผสมผสานความดิจิทอลยิ่งกว่า BMW X3 XDrive30E M Sport (บีเอมดับเบิลยู เอกซ์ 3 เอกซ์ดไรฟ 30 อี เอม สปอร์ท) ใหม่ และ BMW X3 XDrive20D M Sport (บีเอมดับเบิลยู เอกซ์ 3 เอกซ์ดไรฟ 20 ดี เอม สปอร์ท) ใหม่ ในขณะที่รถยนต์ BMW IX (บีเอมดับเบิลยู ไอเอกซ์) IX3 (ไอเอกซ์ 3) ที่มาพร้อมระบบขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า และดีไซจ์นการออกแบบล้ำสมัยมาอวดโฉมภายในงาน

อเลกซันเดร์ บาราคา ประธาน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย กล่าวว่า ท่ามกลางความท้าทายมากมายที่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว BMW ยังคงโอบรับแนวคิด นวัตกรรมใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อสานต่อความก้าวหน้าด้านอนาคตแห่งการขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี ซึ่งผสมผสานศาสตร์แห่งศิลป์ สุนทรียะแห่งการขับขี่ในการส่งต่อให้แก่ลูกค้าได้อย่างยั่งยืน ความเป็นผู้นำของเราในตลาดรถยนต์พรีเมียมสะท้อนได้จากความยืดหยุ่นในการปรับเปลี่ยนวิวธีการทำงานท่ามกลางเหตุการณ์ที่พลิกผัน ในขณะที่ผู้จำหน่ายของเราก็ทำงานอย่างมุ่งมั่นเพื่อให้สามารถตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้า สถานการณ์ที่เปลี่ยนไปได้ในคราวเดียว กัน เรามุ่งมั่นที่จะมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้าตามพันธกิจของบริษัทในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ บริการที่ดีที่สุด การวัดผลของเราด้านดัชนีชี้วัดความพึงพอใจ ความผูกพันของลูกค้าที่มีต่อองค์กร (NPS) ในส่วนการขาย บริการหลังการขาย เพิ่มขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปี 2564 ซึ่งนับเป็นสัญญาณบวกที่ดีจากลูกค้าของเรา โดยผ่านการโหวทอย่างเป็นเอกฉันท์ ซึ่งแสดงระดับความพึงพอใจที่เพิ่มขึ้นทั้งด้านการขาย บริการหลังการขาย ในขณะเดียวกัน เรายังยกระดับโซลูชันด้านดิจิทอลเพื่อสนับสนุนเส้นทางของลูกค้าผ่านช่องทางการขาย บริการ เรามุ่งมั่นอย่างเต็มที่ในการประยุกต์ใช้นวัตกรรม พัฒนาความเป็นดิจิทอลให้มากขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้มากที่สุด นอกจากนั้น เรายังนำเสนอเทคโนโลยีที่ดีที่สุดเพื่อความพึงพอใจในทุกเส้นทางของลูก ค้าของเรา และเราจะไม่หยุดอยู่แค่นั้น เพราะเรามุ่งหมายที่จะทำให้เกินกว่าความคาดหวังของลูกค้าทั้งในวันนี้ และพรุ่งนี้

“BMW 630I GT M Sport ใหม่ มาพร้อมสมรรถนะสไตล์สปอร์ททันสมัยควบคู่ความสะดวกสบายสำหรับการเดินทางระยะไกล รูปลักษณ์ภูมิฐานหรูหราเหนือระดับ และการใช้งานรอบด้าน ในขณะที่รถยนต์ BMWX3 ใหม่ มาให้เลือกใน 2 รุ่นย่อย คือ BMW X3 XDrive30E M Sport และ BMW X3 XDrive20D M Sport ด้วยรูปลักษณ์ล้ำสมัยขึ้น พร้อมสมรรถนะอันทรงพลังยิ่งขึ้น ดีไซจ์นที่ปรับเปลี่ยนทั้งด้านหน้า และด้านหลัง เน้นองค์ประกอบของความเป็นตระกูล X อันคลาสสิค ที่สำคัญ BMW ยังได้สร้างประวัติศาส ตร์ใหม่สู่ยุคแห่งการขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้าในประเทศไทย ด้วยรถยนต์ SAV ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าอย่าง BMW IX  และ IX3 ใหม่นี้” 

ไฮไลท์รถยนต์ BMW ภายในงาน "มหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 38"

BMW 630I GT M Sport ใหม่ ราคาจำหน่าย: 4,099,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และโปรแกรมบำรุงรักษา BSI  Standard คุ้มครองการบำรุงรักษาระยะเวลา 3 ปี หรือ 60,000 กม.)

BMW 630I GT M Sport ใหม่ โดดเด่นกว่ารถยนต์อื่นๆ ในคลาสส์เดียวกัน ผสมผสานความสะดวกสบายสำหรับการขับขี่ทางไกลสมรรถนะสไตล์สปอร์ทไว้อย่างลงตัว พร้อมการออกแบบภายในที่หรูหรา ฟังค์ชันการใช้งานอัจฉริยะ คอนเซพท์ รายละเอียดการออกแบบตัวถัง ภายในตัวรถอย่างพิถีพิถันส่งให้ตัวรถโดดเด่นยิ่งขึ้น ความเพลิดเพลิน ประสิทธิภาพการขับขี่ถูกยกระดับขึ้นอีกขั้นด้วยนวัตกรรมระบบผู้ช่วยผู้ขับขี่ ระบบปฏิบัติการ และการเชื่อมต่อต่างๆ

การออกแบบภายนอกของ BMW 630I GT M Sport ใหม่ มาพร้อมสัดส่วนปราดเปรียวที่เน้นย้ำถึงเอกลักษณ์หรูหราสไตล์สปอร์ท การใช้งานที่หลากหลาย สะดุดตาด้วยกระจกรถไร้ขอบทั้ง 4 ประตู เส้นสายหลังคาที่ทอดยาวจนถึงท้ายรถ ประตูท้ายขนาดใหญ่      สปอยเลอร์หลังเพิ่มเสถียรภาพในการขับขี่ ดีไซจ์นด้านหน้า-ท้ายตัวรถแบบใหม่ส่งให้ BMW 630I GT M Sport มีรูปลักษณ์สง่างาม สปอร์ท เตะตายิ่งขึ้น กระจังหน้า ไฟหน้าทรงใหม่โดดเด่นกว่าเคย กระจังหน้าทรงไตคู่เหยียดออกด้านข้าง เข้าใกล้กันชนยิ่งขึ้น ส่วนกันชนท้ายดูกว้าง สะดุดตาเป็นพิเศษ ท่อไอเสียมาในทรงสี่เหลี่ยมคางหมู แพคเกจชุดแต่ง M Sport ออกแบบใหม่เช่นกัน มาพร้อมกันชนหน้าทรงลูกศรที่ชี้ไปทางถนน ชิ้นส่วนตะแกรง และดิฟฟิวเซอร์ขนาดใหญ่ท้ายรถ

ไฟหน้าใหม่ในระบบ LED มาพร้อมฟังค์ชันไฟหน้าปรับองศาการเข้าโค้งอัตโนมัติ ระบบ BMW Selective Beam ลดความพร่ามัว ระ บบปรับการทำงานไฟสูงอัตโนมัติพร้อมเทคโนโลยี Matrix มาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน การออกแบบไฟหน้าสะดุดตาด้วยไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันรูปตัว L 2 ตัวที่เรียงข้างกัน โดยไฟขับขี่ด้านนอกยังทำหน้าที่เป็นไฟเลี้ยวอีกด้วย ส่วนระบบปรับการทำงานไฟสูงอัตโนมัติช่วยปรับไฟส่องสว่างบนถนนได้ตามสถานการณ์การขับขี่

คอนเซพท์การออกแบบที่เด่นชัดของ BMW 630I GT M Sport ใหม่ เสริมความโอ่อ่า การใช้งานที่ทันสมัยภายในตัวรถ ความหรู หราเหนือระดับนี้มาพร้อมกับห้องโดยสารที่เอื้อต่อผู้ขับขี่ เบาะนั่งที่สูงขึ้น การใช้งานที่หลากหลาย ช่องเก็บสัมภาระเพิ่มความจุจาก 600 ลิตรได้สูงสุด 1,800 ลิตร ระบบแสดงผล BMW Live Cockpit Professional ที่มาพร้อมหน้าปัดดิจิทอล จอ Control Display  ขนาด 12.3 นิ้ว มาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ด้านระบบควบคุมที่อยู่บริเวณคอนโซลกลางดีไซจ์นใหม่ตกแต่งด้วยอลูมิเนียมลาย Rhom bicle Smoke Grey พวงมาลัยหนัง M Sport ที่จัดวางปุ่มควบคุมต่างๆ ใหม่ เป็น 2 ฟีเจอร์เด่นที่ส่งให้ภายในตัวรถยนต์ BMW 630 I GT M Sport ใหม่ มีความพรีเมียมยิ่งขึ้น อุปกรณ์มาตรฐานอื่นๆ ยังรวมถึงเบาะนั่งปรับไฟฟ้าสำหรับผู้ขับขี่ ผู้โดยสารตอนหน้า เบาะหนัง Dakota BMW 630I GT M Sport ใหม่ ยังมาพร้อมกับเบาะนั่งตอนหน้าดีไซจ์นสปอร์ท แถบตกแต่งภายในใหม่ ชุดไฟสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสารแบบใหม่ ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ 4 โซน หลังคากระจก Panorama และระบบเครื่องเสียงรอบทิศ ทาง Harman Kardon

BMW 630I GT M Sport ใหม่ ยกระดับความสะดวกสบายในการขับขี่ พร้อมห้องโดยสารที่โอ่อ่า กว้างขวางเพื่อความผ่อนคลายในการเดินทาง มาในเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ทำงานคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะแบบ Sport Steptronic ส่งพละกำลังสูงสุด 190 กิโลวัตต์/258 แรงม้า ที่ 5,000-6,500 รตน. แรงบิดสูงสุด 40.8 กก.-ม. หรือ 400 นิวตัน-เมตรที่ 1,550-4,400 รตน. จึงเร่งความเร็วจากหยุดนิ่งสู่ 100 กม./ชม. ได้ภายใน 6.5 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ 250 กม./ชม.

BMW 630I GT M Sport ใหม่ มาพร้อมระบบควบคุม แสดงผลชั้นเยี่ยม นำเสนอที่สุดแห่งความครบถ้วนในการควบคุมรถยนต์ การ นำทาง รวมถึงฟังค์ชันการสื่อสาร ระบบความบันเทิงที่ครบเครื่อง มอบความสะดวกสบายด้วย BMW Connected Drive กับระบบการสั่งงานด้วยเสียง กล้องแสดงภาพด้านหลัง ระบบการสั่งงานด้วยการเคลื่อนไหวของมือ เสริมความล้ำสมัยด้วยระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ไม่ว่าจะเป็นระบบปกป้องคนเดินถนนเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ระบบควบคุมความเร็วคงที่พร้อมฟังค์ชัน Stop & Go ระบบป้องกันการกระแทกจากด้านข้าง ระบบช่วยนำรถเข้าที่จอดอัตโนมัติ รวมถึงฟังค์ชันจอดรถยนต์ปราศจากผู้ขับขี่ควบคุมด้วยกุญแจ และระบบแสดงข้อมูลการขับขี่ BMW Head-Up Display

ระบบแสดงผล BMW Live Cockpit Professional ใน BMW 630I GT M Sport ใหม่ มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Operating System 7 ที่นอกจากจะช่วยให้การใช้งานสะดวกสบาย ปรับแต่งหน้าจอแสดงผลได้ง่ายยิ่งขึ้น ยังช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถใช้บริการดิจิทอลเพิ่มเติมได้อีกด้วย อุปกรณ์มาตรฐานใน BMW 630I GT M Sport ใหม่ ยังรวมถึงระบบผู้ช่วย BMW Intelligent Personal Assistant ที่ใช้งานได้หลากหลายกว่าเดิม

BMW 630I GT M Sport ใหม่ มาใน 3 สีตัวถัง คือ สีเทา Bernina Grey สีดำ Carbon Black และสีขาว Mineral White

BMW X3 XDrive30E M Sport ใหม่ ราคาจำหน่าย: 3,799,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และโปรแกรมบำรุงรักษา  BSI Standard คุ้มครองการบำรุงรักษาระยะเวลา 3 ปี หรือ 60,000 กม.)

BMW X3 XDrive20D M Sport ใหม่ ราคาจำหน่าย: 3,699,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และโปรแกรมบำรุงรักษา  BSI Standard คุ้มครองการบำรุงรักษาระยะเวลา 3 ปี หรือ 60,000 กม.)

กระจังหน้าทรงไตคู่มาในดีไซจ์นใหม่ มีรูปทรงสะดุดตา ขนาดใหญ่กว่าครั้งไหนๆ ด้วยกรอบกระจังแบบชิ้นเดียว มิติของไฟหน้าที่ ราบลงประมาณ 10 มม. กันชนหน้าใหม่ ทำให้ BMW X3 มีรูปลักษณ์ที่ต่างไปจากเดิม ไฟหน้า LED มาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ส่วนท้ายโดดเด่นยิ่งขึ้นด้วยขอบสีดำล้อมรอบส่งให้ไฟท้าย LED สะดุดตา มาในทรง 3 มิติที่บางขึ้น และไฟเลี้ยวแนวนอนในลายเส้นแบบ Filigree

BMW X3 ใหม่ รับเอาดีไซจ์นคอนโซลกลางมาจาก BMW 4-Series (ซีรีส์-4) ในปัจจุบัน หน้าจอ Control Display แบบตั้งลอยพร้อมฟังค์ชันทัชสกรีน ในขนาด 12.3 นิ้วเป็นมาตรฐาน อุปกรณ์มาตรฐานต่างๆ ที่พัฒนาเพิ่มเติมยังรวมถึงเบาะนั่งตอนหน้าดีไซจ์น  สปอร์ท ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ 3 โซน ยังมีชุดไฟสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสารที่ช่วยให้บรรยากาศในรถมีความหรู หรา และผ่อนคลายยิ่งขึ้น

BMW X3 XDrive30E M Sport ใหม่ ผสมผสานระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ X Drive และระบบขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า E  Drive ของ BMW เข้ากันอย่างลงตัว เพื่อมอบความเพลิดเพลินในการขับขี่ควบคู่ความยั่งยืนอย่างสมบูรณ์ พร้อมระบบพลัก-อิน ไฮบริดที่ประกอบด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2 ลิตร มอบกำลังสูงสุดที่ 135 กิโลวัตต์/184 แรงม้า เทคโนโลยี BMW Twin Power Turbo และมอเตอร์ไฟฟ้าที่ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะแบบ Sport Steptronic พร้อม Gearshift Paddles มอบกำลังขับจากระบบไฟฟ้าสูงสุดที่ 80 กิโลวัตต์/109 แรงม้า โดยส่งพลังลงสู่ล้อทั้ง 4 อย่างเต็มพิกัดเพื่อตอบทุกโจทย์การขับขี่อย่างแท้จริง รวมถึงการขับขี่ด้วยระบบไฟฟ้าเต็มรูปแบบ การประหยัดน้ำมัน การลดมลภาวะ เมื่อนับรวมกันแล้ว เครื่องยนต์ขุมพลังเบนซิน 4 สูบ และมอเตอร์ไฟฟ้าของรถยนต์พลัก-อิน ไฮบริดรุ่นนี้สามารถส่งกำลังรวมสูงสุดได้ถึง 215 กิโลวัตต์/292 แรงม้า และยังช่วยลดอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงให้ลงมาที่ระดับ 35.7 กม./ลิตร ขณะที่อัตราการปล่อย CO2 อยู่ที่ 64 กรัม/กม. และหากนับรวมการใช้พลัง งานทั้ง 2 รูปแบบแล้ว BMW X3 xDrive30E M Sport ใหม่ จะมีอัตราการใช้ไฟฟ้าอยู่ที่ประมาณ 17.92 กิโลวัตต์ชั่วโมง/100 กม. ส่วนแบทเตอรีลิเธียม-ไอออนมาพร้อมกับเทคโนโลยีเซลล์แบทเตอรีใหม่ล่าสุด ส่งกำลังให้สามารถขับขี่ในโหมดไฟฟ้าล้วนได้ในระยะทางสูงสุดถึง 47 กม. ตามมาตรฐาน NEDC ประสิทธิภาพอันยอดเยี่ยมในด้านการใช้พลังงานนี้ ยังมาพร้อมสมรรถนะที่เป็นเลิศ ด้วยแรงบิดรวมสูงสุดที่ 42.8 กก.-ม. หรือ 420 นิวตัน-เมตร จึงเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายในเวลาเพียง 6.1 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 210 กม./ชม.

ด้าน BMW X3 XDrive20D M Sport ใหม่ ขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง BMW Twin Power Turbo เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ มอบกำลังสูงสุดที่ 140 กิโลวัตต์/190 แรงม้า ที่ 4,000 รตน. พร้อมแรงบิดสูงสุดกว่า 40.8 กก.-ม. หรือ 400 นิวตัน-เมตร ที่ 1,750-2,500 รตน. เร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายในเวลาเพียง 8 วินาที ทำความเร็วสูงสุดที่ 213 กม./ชม. และยังทำงานร่วมกับเกียร์อัตโน มัติ 8 จังหวะแบบ Steptronic พร้อม Gearshift Paddles

ทั้ง BMW X3 XDrive30E M Sport ใหม่ และ BMW X3 XDrive20D M Sport ใหม่ Sport มาพร้อมกับล้ออัลลอย M น้ำหนักเบาขนาด 20 นิ้วในลาย Double-Spoke ระบบไฟหน้า LED ปรับตามทิศทางการหมุนของพวงมาลัย ระบบปรับการทำงานไฟสูงอัตโน มัติ ระบบช่วยการขับขี่ ระบบแสดงผล BMW Head-Up Display โดย BMW X3 XDrive30E M Sport ใหม่ โดดเด่นด้วยช่วงล่าง  Adaptive ระบบช่วยนำรถเข้าที่จอดอัตโนมัติ รุ่น Plus (พลัส) คาลิเพอร์เบรค M Sport ระบบสร้างเสียงจำลองเตือนผู้ใช้ถนนรอบข้าง กล้องแสดงภาพรอบทิศทาง ในขณะที่ BMW X3 XDrive20D M Sport ใหม่ มาพร้อมกับช่วงล่าง M Sport ระบบช่วยนำรถเข้าที่จอดอัตโนมัติ กล้องแสดงภาพด้านหลัง ผู้ขับขี่ ผู้โดยสารยังเพลิดเพลินไปกับการเดินทางได้ด้วยระบบเครื่องเสียงรอบทิศทาง Harman Kardon ในรถยนต์ BMW X3 XDrive30E M Sport และระบบเครื่องเสียง HiFi Loudspeaker ใน BMW X3 XDrive 20D M Sport อีกด้วย ด้านปริมาตรการจุสัมภาระของ BMW X3 XDrive30E M Sport ใหม่ และ BMW X3 XDrive20D M Sport ใหม่ อยู่ที่ 450-1,500 ลิตร และ 550-1,600 ลิตร ตามลำดับ ในขณะที่ระบบ BMW Live Cockpit Professional ติดตั้งมาในรถยนต์ทั้ง 2 รุ่น มอบการเชื่อมต่อไร้สายกับสมาร์ทโฟนได้อย่างยอดเยี่ยมผ่านแอพ Apple Car Play

ทั้ง BMW X3 XDrive30E M Sport ใหม่ และ BMW X3 XDrive20D M Sport ใหม่ มีมาให้เลือกใน 5 สีตัวถัง ไม่ว่าจะเป็นสีดำ  Black Sapphire Metallic สีเทา Brooklyn Grey Metallic สีขาว Mineral White Metallic สีน้ำเงิน Phytonic Blue และสีเทา  Sophisto Grey Brilliant Effect

BMW IX XDrive50 Sport (บีเอมดับเบิลยู ไอเอกซ์ เอกซ์ดไรฟ 50 สปอร์ท) ราคาจำหน่าย: 5,999,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม แพคเกจบำรุงรักษา BSI Standard นาน 4 ปี ไม่จำกัดระยะทาง

BMW IX มาพร้อมเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าใหม่ล่าสุด พร้อมความล้ำยุคด้านเทคโนโลยีขับขี่อัตโนมัติ การเชื่อมต่ออีกมากมาย เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคยิ่งขึ้น มาพร้อมเทคโนโลยี BMW E Drive ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบไฟฟ้า ซึ่งทำงานร่วมกันเพื่อสร้างสมรรถนะการขับขี่ในระยะยาวไกลยิ่งขึ้น อัตราเร่งที่ทรงพลัง BMW IX XDrive  50 Sport ส่งพละกำลังรวมสูงสุด 385 กิโลวัตต์/523 แรงม้า ระบบ BMW E Drive เจเนอเรชันที่ 5 นี้ยังทำงานพร้อมเทคโน โลยีเซลล์แบทเตอรีล่าสุด มอบระยะทางขับเคลื่อนตามมาตรฐาน WLTP สูงสุดถึง 630 กม. สร้างแรงบิดรวมได้สูงสุดถึง 78.0 กก.-ม. หรือ 765 นิวตัน-เมตร ระบบป้องกันการลื่นไถลของล้อ (Near-Actuator Wheel Slip Limitation) ได้รับการติดตั้งควบคู่กับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อเป็นครั้งแรก ช่วยป้องกันการลื่นไถลของล้อ และเพิ่มความเสถียรภาพในการควบคุมรถยิ่งขึ้นอีกระดับ จึงโลดแล่นด้วยความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ด้ภายใน 4.6 วินาที

แบทเตอรีแรงดันสูงใน BMW IX XDrive50 Sport มีความจุพลังงานสุทธิ 105.2 กิโลวัตต์ชั่วโมง และความจุพลังงานรวม 111.5  กิโลวัตต์ชั่วโมง หัวชาร์จแบบ Combined Charging Unit (CCU) ได้รับการออกแบบมาเพื่อมอบการชาร์จที่ยืดหยุ่น รองรับการชาร์จแบบ DC ได้สูงสุด 200 กิโลวัตต์ จึงสามารถชาร์จจาก 0-80 % ได้ในเวลาเพียง 39 นาที อีกทั้งยังเพิ่มระยะขับขี่ได้สูงสุดถึง 100 กม. หลังชาร์จแบทเตอรีด้วยการชาร์จแบบ DC 50 กิโลวัตต์ เพียง 21 นาที

ระบบการนำพลังงานกลับมาใช้ใหม่แบบแปรผัน (Adaptive Recuperation) ช่วยเสริมประสิทธิภาพ ระยะการขับขี่ของ BMW  IX XDrive50 Sport ด้วยการดึงพลังงานจากระบบเบรคกลับมาใช้ใหม่ให้เหมาะสมกับสภาวะการขับขี่ โดยใช้ข้อมูลจากระบบนำทาง เซนเซอร์จากระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ เช่น เมื่อรถเข้าใกล้ทางแยก ระดับการดึงพลังงานกลับมาใช้ใหม่จะเพิ่มสูงขึ้น เพื่อเติมพลังงานไฟฟ้ากลับเข้าสู่แบทเตอรีแรงดันสูง ขณะเดียวกันก็จะทำให้ความเร็วในการขับขี่ลดลง จะทำงานสลับกับฟังค์ชัน Coasting ขณะขับ ขี่บนท้องถนน ซึ่งช่วยให้รถเคลื่อนที่ได้โดยไม่ต้องใช้พลังงานเมื่อผู้ขับขี่ยกเท้าออกจากแป้นคันเร่ง ผู้ขับขี่สามารถเลือกระดับการนำพลังงานกลับมาใช้ใหม่ได้ตามต้องการ ระหว่างระดับสูง ปานกลาง และต่ำ โดยเมื่อเลือกขับขี่ด้วยเกียร์ B ระบบ Recuperation จะทำงานที่ระดับสูงสุดโดยอัตโนมัติเพื่อสร้างประสบการณ์ในการขับขี่แบบ One-Pedal Feeling

โครงสร้างตัวถัง ปรัชญาการดีไซจ์น การออกแบบแชสซีส์ของ BMW IX ได้รับการพัฒนาเพื่อหลอมรวมความสะดวกสบายเหนือระ ดับในการขับขี่ การควบคุมที่โฉบเฉี่ยว สไตล์สปอร์ท โครงสร้างของ BMW IX มาในวัสดุอลูมิเนียมแบบ Spaceframe ส่วนหลังคามาในโครงสร้าง Carbon Cage ซึ่งประกอบด้วยวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์บริเวณด้านข้าง ด้านหลัง ผสานการใช้วัสดุ 2 ประเภทเข้าไว้ด้วยกันเพื่อเสริมทั้งความแข็งแกร่ง ลดน้ำหนักให้เบาลงได้อย่างชาญฉลาด ส่วนค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ (Drag Coefficient ) ที่ต่ำเพียง 0.25 จากองค์ประกอบด้านอากาศพลศาสตร์ต่างๆ ยังช่วยเสริมประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องยนต์ ระยะการขับขี่ด้วยเช่นกัน แบทเตอรีแรงดันสูงใน BMW IX ที่ติดตั้งอยู่ใต้ท้องรถ ช่วยลดจุดศูนย์ถ่วงให้ต่ำลง เมื่อประสานเข้ากับการกระจายน้ำหนักอย่างสมดุลจึงทำให้ตอบสนองต่อการควบคุมได้ฉับไวยิ่งขึ้น นอกจากนี้ รูปแบบการขับขี่ที่มีความสมดุลของ BMW IX ยังช่วยเพิ่มความมั่นคง และความสบายขณะขับขี่ ขณะที่ยังคงความคล่องตัวไว้ได้อย่างดีเยี่ยม

เทคโนโลยีแชสซีส์ที่ใช้ในการพัฒนา BMW IX ประกอบด้วยเพลาหน้าแบบปีกนกคู่ เพลาหลังแบบ Five-Link ช่วงล่างแบบปรับระดับได้ ระบบพวงมาลัยไฟฟ้าที่ปรับน้ำหนักตามความเร็วรถขณะขับขี่ (Servotronic) แปรผันตามการหมุน ความเร็ว มาพร้อมระบบช่วงล่างแบบถุงลมที่ควบคุมด้วยไฟฟ้า ระบบปรับองศาของล้อหลังเพื่อการเข้าโค้ง เลี้ยว (Integral Active Steering) และเบรคแบบสปอร์ท ล้อ Aerodynamic ขนาด 22 นิ้ว แบบสลับสี ขัดเงา 3 มิติ เสริมด้วยยางล้อลดเสียงรบกวนที่มีชั้นโฟมบริเวณพื้นผิวด้านในเพื่อลดการเกิดเสียงได้รับการติดตั้งมาเป็นมาตรฐาน

อีกเอกลักษณ์ใหม่ที่ไม่ซ้ำใครของ BMW IX คือ ดีไซจ์นภายนอกที่มีเส้นสายในการออกแบบชัดเจนทรงพลัง แต่ยังมีความเรียบง่าย คงความบึกบึนสไตล์ SAV รายละเอียดขององค์ประกอบต่างๆ สื่อถึงความประณีต ความหรูหราล้ำยุค โดดเด่นสะดุดตาด้วยกระจังหน้าทรงไตคู่ที่เกือบปิดทึบ สะท้อนถึงนวัตกรรมการผลิตที่ล้ำสมัย ส่วนกล้อง เรดาร์เซนเซอร์ฝังอยู่ภายใต้พื้นผิวของกระจังหน้า โดดเด่นด้วยไฟหน้า ไฟท้ายที่เรียวยาวที่สุดของ BMW มือจับประตูที่เปิดด้วยการกดปุ่ม หน้าต่างไร้ขอบ และประตูท้ายสอดประสานกลมกลืนเป็นหนึ่งเดียวตั้งแต่หน้ารถจรดท้ายรถโดยไม่มีช่องว่าง

การออกแบบภายในห้องโดยสารมุ่งนำเสนอแนวคิดของการใช้ชีวิตที่เปี่ยมด้วยคุณภาพ พื้นที่กว้างขวาง เบาะที่นั่งแบบใหม่พร้อมพนักพิงศีรษะเสริมความหรูหรายิ่งขึ้น พื้นที่วางขามากขึ้นเนื่องจากไม่ต้องมีท่อส่งน้ำมันกลางตัวรถ ช่วยเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระ คอน โซลกลางมาในดีไซจ์นเฉียบ ปุ่มควบคุมระบบสัมผัส ระบบเปลี่ยนเกียร์แบบ Rocker Switch เติมเต็มความทันสมัยยิ่งขึ้นภายในห้องโดยสาร พร้อมเน้นย้ำถึงการออกแบบห้องโดยสารเพื่อผู้ขับขี่ด้วยจอ BMW Curved Display พวงมาลัยทรงหกเหลี่ยม และจอ  Head-Up Display

ระบบปรับอากาศอัตโนมัติมาพร้อมฟิลเทอร์นาโนไฟเบอร์ที่สามารถกรองอากาศบริสุทธิ์ ควบคุมผ่านจอระบบสัมผัสแบบใหม่ ซึ่งใช้ควบคุมการหมุนเวียนของอากาศภายในห้องโดยสาร รวมถึงระบบทำความร้อนที่เบาะนั่ง พวงมาลัย มาพร้อมตัวเลือกอุปกรณ์เสริมคุณภาพเสียงทรงพลังยิ่งขึ้น อย่างระบบเสียงรอบทิศทางคุณภาพสูง Bowers & Wilkins Diamond Surround Sound System ที่ฝังอยู่ในพนักพิงศีรษะ และระบบเสียงแบบ 4D ที่มีฟังค์ชันสั่นตามเสียงเบสในเบาะหน้า

BMW IX ยังมาพร้อมเสียงประกอบการขับขี่ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ เติมเต็มความเร้าใจในการขับขี่ทุกครั้งที่เร่งความเร็ว นอกจากนี้ ฟังค์ชัน BMW Iconic Sounds Electric ซึ่งสามารถซื้อได้ผ่าน BMW Shop ยังมาพร้อมตัวเลือกเสียงใหม่ล่าสุดจากนักแต่งเพลงประกอบภาพยนตร์ชื่อดังระดับโลกอย่าง Hans Zimmer

BMW IX xDrive50 Sport ยังมาพร้อมหน้าจอแสดงผล และระบบทำงาน I Drive เจเนอเรชันใหม่ ซึ่งเปิดตัวเป็นครั้งแรกใน BMW  IX ต่อยอดการสื่อสารระหว่างผู้ขับขี่ รถยนต์ให้เป็นธรรมชาติมากขึ้น ทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ BMW Operating System 8 ที่ออกแบบสำหรับทำงานร่วมกับจอระบบสัมผัสแบบโค้ง BMW Curved Display รองรับการโต้ตอบด้วยเสียงกับ BMW Intelligent Personal Assistant ซึ่งได้รับการอัพเกรดจากรุ่นก่อนหน้า โดยจอ BMW Curved Display เป็นกลุ่มจอแสดงผลดิจิทอลประกอบด้วย จอ Information Display ขนาด 12.3 นิ้ว จอ Control Display ขนาด 14.9 นิ้ว รวมเข้าด้วยกันภายใต้แผงกระจกชิ้นเดียวที่หันหน้าเข้าหาผู้ขับขี่ ส่วนระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ดิจิทอลมาพร้อมฟีเจอร์ใหม่ และแสดงกราฟิคดีไซจ์นใหม่ขณะสื่อสารกับผู้ใช้งาน ระบบ My Modes ใหม่ ขยายการตั้งค่าต่างๆ ของรถยนต์ให้ครอบคลุมประสบการณ์ขับขี่ทุกรูปแบบ

BMW IX ยังมาพร้อมระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ นวัตกรรมหลากหลายที่สุด เหนือกว่ารถยนต์ทุกรุ่นจาก BMW พร้อมเซนเซอร์เจเนอเรชันใหม่ ซอฟท์แวร์ใหม่ พแลทฟอร์มในการประมวลผลที่ทรงพลัง ใช้กล้อง 5 ตัว เรดาร์เซนเซอร์อีก 5 ตัว และอุลทราโซนิคเซนเซอร์ 12 ตัวในการตรวจจับสภาพแวดล้อมรอบคัน ระบบเตือนขณะเปลี่ยนเลน ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติพร้อมฟังค์ชัน Stop & Go  รวมถึงสองระบบใหม่ล่าสุด-ระบบเตือนขณะเปิดประตูรถ ในกรณีที่มีจักรยาน คนเดินเท้าอยู่ใกล้ประตูรถ (Exit Warning Function ) และระบบ Remote Theft Recorder เสริมการทำงานของระบบที่ติดตั้งมาเป็นมาตรฐานอย่างระบบช่วยนำรถเข้าที่จอดอัตโนมัติ รุ่น Plus ประกอบด้วยกล้องแสดงภาพรอบทิศทาง แสดงภาพพื้นที่โดยรอบของรถให้เห็นแบบ 3 มิติผ่านระบบ Remote 3D

กระบวนการผลิต BMW IX ยังครอบคลุมถึงการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ โดยใช้อลูมิเนียมที่ผ่านกระบวนการหล่อ นำกลับมาใช้ใหม่ รวมถึงการนำพลาสติคกลับมาใช้ใหม่ในปริมาณมาก ภายในห้องโดยสารประกอบด้วยวัสดุไม้ที่รับรองจาก FSC หนังฟอกด้วยสารสกัดจากใบมะกอก ยังมีส่วนประกอบจากธรรมชาติอื่นๆ อีกมากมาย และยังใช้แหจับปลาที่ผ่านการรีไซเคิลเป็นหนึ่งในวัสดุสำหรับผลิตพรมปูพื้นรถอีกด้วย

ลูกค้าสามารถเลือกสีตัวถังได้ถึง 6 สไตล์ตามความต้องการ ได้แก่ สีแดง Aventurin Red, สีดำ Black Sapphire, สีขาว Mineral White, สีน้ำเงิน Phytonic Blue, สีเทา Sophisto Grey และสีเทา Storm Bay

BMW IX3 M Sport (บีเอมดับเบิลยู ไอเอกซ์ 3 เอม สปอร์ท) ใหม่ ราคาจำหน่าย: 3,399,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม แพคเกจบำรุงรักษา BSI Standard  นาน 4 ปี ไม่จำกัดระยะทาง)

BMW IX3 M Sport มาพร้อมเอกลักษณ์สุดล้ำ ประสานประสิทธิภาพของมอเตอร์ไฟฟ้าเข้ากับความหนาแน่น ความจุพลังงานไฟ ฟ้าที่เพิ่มขึ้นของแบทเตอรีแรงดันสูง พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า แผงวงจรไฟฟ้า เทคโนโลยีการชาร์จ แบทเตอรีแรงดันสูงรุ่นล่าสุดที่ได้รับการยกระดับในด้านสมรรถนะการทำงาน การใช้พลังงานไฟฟ้า ระยะทางในการขับขี่ เพิ่มความหนาแน่น ศักยภาพของกำลังไฟฟ้าด้วยการรวมมอเตอร์ไฟฟ้า วงจรอีเลคทรอนิคส์ และระบบเกียร์ไว้ภายใต้โครงสร้างเดียวกัน เช่นเดียวกับ BMW IX

ระบบขับเคลื่อนรุ่นใหม่ใน BMW IX3 M Sport ส่งพละกำลังสูงสุด 210 กิโลวัตต์/286 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 40.8 กก.-ม. หรือ  400 นิวตัน-เมตร ซึ่งโดดเด่นกว่ามอเตอร์ไฟฟ้าในรุ่นอื่นๆ ด้วยความสามารถในการคงแรงบิดได้แม้ระหว่างรอบสูง โลดแล่นจาก 0-100 กม./ชม. ภายใน 6.8 วินาที ทำความเร็วสูงสุด 180 กม./ชม. ขับขี่สนุกอย่างอุ่นใจด้วยระบบป้องกันการลื่นไถลของล้อ (Near-Actuator Wheel Slip Limitation) ปริมาตรความจุแบทเตอรีเพิ่มขึ้นกว่าเดิมอย่างมากเมื่อเปรียบเทียบกับพื้นที่การติดตั้ง น้ำหนัก ส่วนความจุพลังงานรวมอยู่ที่ 80 กิโลวัตต์ชั่วโมง โดยสามารถนำมาใช้งานได้สูงสุด 74 กิโลวัตต์ชั่วโมง เพื่อขับเคลื่อนให้ BMW IX 3 ขับขี่ได้ไกลถึง 460 กม. ตามมาตรฐาน WLTP และ 470 กม. ตามมาตรฐาน NEDC

เทคโนโลยีระบบชาร์จใหม่ล่าสุดเติมพลังงานสู่แบทเตอรี 400 โวลท์ แหล่งจ่ายไฟ 12 โวลท์ แก่อุปกรณ์ต่างๆ ในรถ หากใช้ไฟฟ้า กระแสสลับ สามารถชาร์จด้วยระบบไฟแบบ 1 เฟส และ 3 เฟส ได้สูงสุด 11 กิโลวัตต์ และเมื่อชาร์จแบบรวดเร็วด้วยไฟฟ้ากระแสตรง จะรับพลังงานได้สูงสุด 150 กิโลวัตต์ แบทเตอรีแรงดันสูงใน BMW IX3 ยังรองรับการชาร์จจาก 0-80 % ได้ภายใน 34 นาที

BMW IX3 M Sport มาพร้อมระบบการนำพลังงานกลับมาใช้ใหม่แบบแปรผัน (Adaptive Recuperation) เพิ่มสมรรถนะ ความสะ ดวกสบายระหว่างการขับขี่ ระดับการดึงพลังงานจากระบบเบรคกลับมาใช้ใหม่จะแปรผันตามสภาวะถนน ซึ่งอ้างอิงจากข้อมูลในระบบนำทาง เซนเซอร์ในระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ นอกจากนี้ ผู้ขับขี่สามารถเลือกระดับการนำพลังงานกลับมาใช้ใหม่ได้ตามต้องการ ระหว่างระดับสูง ปานกลาง ต่ำ เมื่อเข้าเกียร์ D และระบบ Recuperation จะทำงานอัตโนมัติในระดับสูงเมื่อเข้าเกียร์ B เพื่อสร้างประสบการณ์ในการขับขี่ยนตรกรรมไฟฟ้าอันเฉพาะตัวของ BMW 

แบทเตอรีแรงดันสูงรุ่นล่าสุดนี้ติดตั้งอยู่ใต้ตัวรถ จึงช่วยลดจุดศูนย์ถ่วงลงประมาณ 7.5 ซม. เมื่อเทียบกับ X3 รุ่นอื่นๆ ระบบช่วงล่างแบบ Adaptive ปรับระดับด้วยไฟฟ้าตามสภาพถนนและสภาวะการขับขี่

รูปโฉมภายนอกของ BMW IX3 M Sport ยังคงสัดส่วนที่โฉบเฉี่ยวสไตล์ SAV มาพร้อมความแข็งแกร่งระดับพรีเมียม ความอเนก ประสงค์ของตระกูล X โดดเด่นด้วยองค์ประกอบการดีไซจ์นเฉพาะรุ่นอย่างชิ้นส่วนแอโรไดนามิคส์ต่างๆ สอดแทรกด้วยดีไซจ์นที่สื่อถึงความยั่งยืน กระโปรงหน้า และกระจังหน้าทรงไตคู่ขนาดใหญ่มาในดีไซจ์นปิดทึบ ท้ายรถมาพร้อมการออกแบบเพื่อลดแรงต้านอา กาศ

ไฮไลท์ของ BMW IX3 ยังอยู่ที่ความหลากหลายในการใช้งาน มาพร้อมพื้นที่กว้างขวางกว่า X3 รุ่นอื่นๆ เบาะหลังพับได้แบบ 40: 20:40 ช่วยเพิ่มปริมาตรการบรรจุสัมภาระจาก 510-1,560 ลิตร เสริมความเอกซ์คลูซีฟด้วยระบบเสียง BMW Iconic Sounds Elec tric ซึ่งมาเป็นมาตรฐานสร้างทำนองเสียงไม่ซ้ำใครเมื่อสตาร์ท หรือดับเครื่องยนต์จากผลงานของ Hans Zimmer ล้อ M Aerody namic ขนาด 20 นิ้วแบบสลับสี เสริมประสิทธิภาพด้านแอโรไดนามิคส์ยิ่งขึ้น ไฟหน้า Adaptive LED เสริมฉนวนกันเสียงที่ประตูหน้า ยังมีอุปกรณ์มาตรฐานเพื่อเสริมความสะดวกสบายแบบพรีเมียมอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นระบบปลดลอคประตู Comfort Access เบาะหนัง Vernasca ตอนหน้าดีไซจ์นแบบสปอร์ท จอ BMW Head-Up Display ระบบปรับการทำงานไฟสูงอัตโนมัติ ระบบช่วยนำรถเข้าที่จอดอัตโนมัติรุ่น Plus พร้อมกล้องแสดงภาพรอบทิศทาง ยกระดับความสะดวกสบาย ความปลอดภัยแบบเอกซ์คลูซีฟยิ่งขึ้นด้วยระบบ BMW Gesture Control ระบบเสียงรอบทิศทาง Harman Kardon ระบบ BMW Live Cockpit Professional  และ  BMW Intelligent Personal Assistant

BMW IX3 M Sport มาให้เลือกใน 5 สี ได้แก่ สีดำ Carbon Black, สีขาว Mineral White, สีน้ำเงิน Phytonic Blue, สีแดง Pie  mont Red และสีเทา Sophisto Grey

ข้อเสนอพิเศษในงาน Motor Expo 2021

ลูกค้า BMW ที่จองรถยนต์ระหว่างงาน "มหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 38" และรับส่งมอบรถยนต์ภายในวันที่ 31 ธันวาคม พศ. 2564 จะได้รับสิทธิประโยชน์* ดังนี้

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด