All-New Subaru Crosstrek (XV) 2023 มาพร้อมระบบไฮบริด e-Boxer

Subaru XV (รู้จักกันในชื่อ Subaru Crosstrek ในอเมริกาเหนือ) เป็นรถ Subcompact Crossover ที่ถูกเปิดตัวรถต้นแบบ Subaru XV ตั้งแต่ปี 2554 ในฐานะเป็นรุ่นช่วงล่างยกสูงของ Subaru Impreza ตัวถัง 5 ประตู ตัวจริงของ Subaru XV เจเนอเรชันแรก ได้เปิดตัวที่งานมหกรรมยานยนต์ฟรังค์ฟวร์ท และวางจำหน่ายในญี่ปุ่นเมื่อ 25 กันยายน 2555 รวมถึงในสหรัฐอเมริกาในชื่อ XV Crosstrek ในเจเนอเรชันที่ 2 หรือชื่อ Crosstrek สำหรับตลาดอเมริกาเหนือ เปิดตัวที่งานมหกรรมยานยนต์เจนีวา ในเดือนมีนาคม 2560 และในประเทศญี่ปุ่น Subaru ได้เปิดตัวรถ Crosstrek ใหม่  (XV) และจะใช้ชื่อ Crosstrek ตามตลาดอเมริกาเหนือ ทำตลาดชื่อเดียวทั่วโลก All-New Subaru Crosstrek มีหน้าตาภายนอก รวมถึงขนาดมิติตัวถังใกล้เคียงรุ่นเดิม แต่มีการปรับดีไซจ์นให้ดูเฉียบคม และบึกบึนขึ้น ไฟหน้าแบบ Full-LED ที่มีระบบส่องสว่างขณะเลี้ยว LED Cornering Lights เป็นครั้งแรกใน Subaru ที่มีการออกแบบให้มีขนาดเล็กดูโฉบเฉี่ยวมากขึ้น กระจังหน้าดีไซจ์นใหม่ มีขนาดใหญ่ขึ้น โป่งล้อขนาดใหญ่ ดีไซจ์นแปลกตา รวมถึงล้ออัลลอยลายใหม่ ไฟท้าย LED รูปตัว C คล้ายกับ WRX Sportswagon และ Outback มิติตัวถัง All-New Subaru Crosstrek มีความยาว 4,480 มม. (ยาวขึ้น 15 มม.) กว้าง 1,800 มม. สูง 1,580 มม. (เตี้ยลง 35 มม.) ความยาวฐานล้อ 2,670 มม. (ยาวขึ้น 5 มม.) และระยะ Ground clearance : 200 (ลดลง 20 มม.) ถูกพัฒนาขึ้นบนพแลทฟอร์ม Subaru Global Platform ที่มีการปรับปรุงเพิ่มความแข็งแรงของโครงสร้างแชสซีส์ และตัวถัง เพิ่มประสิทธิภาพในการขับขี่ และความปลอดภัยของผู้โดยสารเมื่อเกิดการชน สีภายนอกมีให้เลือกทั้งหมด 9 สี พร้อม 2 สีใหม่ ได้แก่ Offshore Blue Metallic และ Oasis Blue ภายในถูกออกแบบให้คล้าย WRX และ Outback ที่เปิดตัวไปแล้วก่อนหน้านี้ พร้อมหน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่ 11.6 นิ้ว ที่รวมทุกฟังค์ชันไว้ในจอเดียว แต่ยังมีปุ่มกดควบคุมเครื่องเสียง และระบบปรับอากาศแบบแยกไว้ให้ และยังสามารถรองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto ได้ คอนโซลกลาง และเกียร์ถูกยกสูงขึ้น มีเบรคมือไฟฟ้า และช่องวางของที่มาพร้อมปลั๊กไฟ 12 โวลท์/120 วัตต์ และช่องเสียบ USB พวงมาลัยเป็นแบบมัลทิฟังค์ชันทรงเดิม หุ้มด้วยหนัง และปรับได้ 4 ทิศทาง เบาะนั่งถูกปรับให้มีขนาดใหญ่ นั่งสบายขึ้น ส่วนเบาะหลังสามารถพับได้ในอัตราส่วน 60:40 เสริมที่พักแขน และที่วางแก้ว แผงประตูดีไซจ์นใหม่ มีการเพิ่มวัสดุซับเสียง เสริมยางลดแรงสั่นสะเทือนภายในห้องโดยสาร รวมถึงการพัฒนาที่ยึดเบาะนั่งแบบใหม่ เพื่อลดแรงสะเทือนที่จะถูกส่งผ่านไปยังผู้โดยสาร ขุมพลังเบื้องต้นแจ้งแค่เพียงว่าเป็นระบบ e-Boxer ขนาดความจุ  2.0 ลิตร ซึ่งคาดว่าน่าจะยกมาจาก Forester e-Boxer ที่มีเครื่องยนต์เบนซินไฮบริด 2.0 ลิตร e-Boxer รหัส FB20 ให้กำลังเครื่องยนต์สูงสุด 145 แรงม้า ที่ 6,000 รตน. แรงบิดสูงสุด 188 นิวตัน-เมตร ที่ 4,200 รตน. เสริมกำลังด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 16.5 แรงม้า แรงบิด 65 นิวตัน-เมตร จับคู่กับระบบเกียร์อัตโนมัติ Lineartronic CVT 7 จังหวะ แน่นอนว่ามาพร้อมกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Symmetrical AWD และมีแบทเตอรี ขนาด 13.5 กิโลวัตต์ชั่วโมง ให้พลังงานแก่มอเตอร์ โดยระบบขับเคลื่อนไฮบริดของ Forester e-Boxer มี 3 โหมดการทำงาน คือ ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า และใช้มอเตอร์ช่วยในการขับเคลื่อนเครื่องยนต์ ซึ่งเมื่อใช้ความเร็วต่ำ จะมีเฉพาะมอเตอร์ไฟฟ้าที่ทำงาน เมื่อใช้ความเร็วระดับกลางมอเตอร์ไฟฟ้าจะทำงานร่วมกับเครื่องยนต์ และเมื่อใช้ความเร็วสูงขึ้นจะมีเฉพาะเครื่องยนต์ที่ทำงานพร้อมกับชาร์จพลังงานเข้าสู่แบทเตอรี ช่วงล่างด้านหน้าเป็นแบบแมคเฟอร์สันสตรัท ด้านล่างแบบอิสระ ดับเบิลวิชโบน เสริมเหล็กกันโคลง จานเบรค 4 ล้อ - ระบบความปลอดภัยมาพร้อม Eyesight เวอร์ชันใหม่ล่าสุด ที่มีกล้องมุมกว้าง (Wide-angle Mono Camera) เพื่อใช้ในการตรวจจับมอเตอร์ไซค์ และคนเดินถนนได้อย่างครอบคลุมมากขึ้น พร้อมด้วยกล้องคู่ (Stereo Camera Unit) ที่สามารถตรวจจับวัตถุทั้งใกล้ และไกลได้อย่างมีประสิทธิภาพ - ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันทุกย่านความเร็ว - ระบบเตือนการชนด้านหน้าตรง และขณะเลี้ยวบนทางแยก มุมมองกว้างขึ้น - ระบบตัดกำลังเครื่องยนต์เมื่อเหยียบคันเร่งอย่างไม่ตั้งใจ - ระบบช่วยหักเลี้ยวอัตโนมัติเมื่อเจอสิ่งกีดขวาง - ระบบเตือนรถออกนอกเลนพร้อมช่วยหมุนพวงมาลัยให้รถอยู่ในเลน - ระบบเตือนมุมอับด้านข้าง และขณะถอยหลัง สามารถเบรคอัตโนมัติ All-New Subaru Crosstrek เตรียมเปิดตัวในญี่ปุ่นพร้อมเผยรายละเอียดทั้งหมดช่วงปลายปี 2565 และเริ่มขายช่วงต้นปี 2566 ส่วนเมืองไทยคงไม่พลาดที่ ทีซี ซูบารุฯ จะนำเข้ามาให้แฟนชาวไทยได้เป็นเจ้าของอย่างแน่นอน