ทั้ง 2 แบบจะมีราคาประมาณ 7.3 ล้านบาท โดยรุ่น Speedster จะติดตั้งกระจกบังลมหน้า ส่วนรุ่น F1 จะติดตั้งแผ่นบังลมขนาดเล็ก เจ้าของยังสามารถสั่งซื้อชุด Halo และหมวกนิรภัยเพิ่มได้ ทั้ง 2 แบบน่าจะตอบโจทย์การใช้งานของเจ้าของรถได้
ระบบส่งกำลังใช้เครื่องยนต์ V12 ไฮบริด มีด้วยกัน 2 ระดับ คือ รุ่น GT กำลังสูงสุด 1,100 แรงม้า (802 กิโลวัตต์) ส่วนรุ่น Club มีกำลังสูงสุดที่ 1,010 แรงม้า (753 กิโลวัตต์) แต่มีน้ำหนักรถน้อยกว่ารุ่น GT ประมาณ 90 กก. โดยรุ่น Club มีน้ำหนัก 1,310 กก. ส่วนรุ่น GT มีน้ำหนัก 1,400 กก. ระบบถ่ายทอดกำลังใช้ระบบเกียร์แบบคลัทช์เดี่ยว 8 จังหวะ ทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ได้ภายในเวลา 2.4 วินาที ทางบริษัทยังมั่นใจในสมรรถนะว่าสามารถสร้างสถิติใหม่ที่สนาม Nurburgring ได้
จากการเปิดตัวรถทั่วสหรัฐอเมริกา Delage ได้เตรียมผลิตรถสำหรับตลาดสหรัฐ ฯ จำนวน 9 คัน จากยอดผลิต 30 คัน ขณะนี้ถูกจองไปแล้ว 7 คัน จากการเดินสายโชว์รถในสถานที่ต่างๆ ตั้งแต่งานแสดงรถที่ Monterey และที่อื่นๆ อย่าง Laguna Seca, Las Vegas, Atlanta, Miami และ New York
Delage D12 มีสไตล์การออกแบบที่ดุดัน ทั้งรูปทรงภายนอก และการจัดวางที่นั่งคนขับ และผู้โดยสาร แบบนั่งเรียงตามยาวเหมือนเครื่องบินขับไล่ 2 ที่นั่ง ทางบริษัทได้ทดสอบ และพัฒนา D12 ที่สนามแข่ง Magny-Cours ซึ่งใช้สำหรับการแข่งรถ F1 โดยนักทดสอบซึ่งเป็นนักแข่งระดับแชมพ์ในรายการแข่ง FIA ขณะนี้ Delage ยังไม่มีกำหนดการผลิตรถ และจะส่งมอบให้ลูกค้าเมื่อใด

