ยอดผู้เสียชีวิตจากการเมาแล้วขับในสหราชอาณาจักร เพิ่มสูงสุดในรอบทศวรรษ

ข่าวจากอังกฤษ ระบุว่า รัฐบาลอังกฤษได้เปิดเผยตัวเลขล่าสุด การเสียชีวิตจากการดื่มแล้วขับ ในอังกฤษมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างมีนัย ตั้งแต่ปี 2552 ตัวเลขชี้ชัดว่าสาเหตุของอุบัติเหตุรถชนที่ทำให้บาดเจ็บ หรือเสียชีวิต ส่วนใหญ่จะเกิดจากการ “เมาแล้วขับ” สถิติสูงสุดเกิดใน เวลส์ (Wales) และโดยกลุ่มคนขับที่เป็นผู้ชายอายุน้อย ตัวเลขอย่างเป็นทางการล่าสุดจากรัฐบาลอังกฤษ แจ้งว่าในปี 2564 มีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถชน ระหว่าง 240-280 คน มีคนขับที่เกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุอย่างน้อย 1 คน ที่มีระดับแอลกอฮอลเกินกำหนด ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มมากขึ้นถึง 11 % หากเทียบกับทศวรรษก่อน หรือเท่ากับ 17 % ของการเสียชีวิตบนท้องถนนทั้งหมดในสหราชอาณาจักร อย่างไรก็ตามในปี 2564 การบาดเจ็บที่เกิดจากคนขับเมาแล้วขับลดลงถึง 32 % เมื่อเทียบกับปี 2554 ซึ่งอาจเป็นเพราะการพัฒนาระบบความปลอดภัยของรถมากขึ้น ภาพรวมมีประมาณ 6,740 คน ที่ตาย หรือบาดเจ็บ จากอุบัติเหตุการชน โดยมีคนขับที่เกี่ยวข้องอย่างน้อย 1 คน ที่มีปริมาณแอลกอฮอลเกินกำหนด หากคิดเป็นร้อยละของอุบัติเหตุที่เกิดจากการเมาแล้วขับ จนทำให้มีผู้เสียชีวิต ในเวลส์มีตัวเลขสูงที่สุดถึง 7.3 %, อังกฤษรองลงมาที่ 5.2 % และสกอทแลนด์ที่ 4.1 % แม้ในสกอทแลนด์จะมีการจำกัดน้อยกว่าก็ตาม หากแยกเป็นภูมิภาคของอังกฤษ ใน East Midlands เสียชีวิตจากอุบัติเหตุมากถึง 7.0 % และ ใน Greater London 2.5 % ในปี 2564 อุบัติเหตุที่เกิดจากการเมาแล้วขับ จากผู้ชายเป็นคนขับถึง 79 % โดยกลุ่มคนขับที่มีความเสี่ยงสูงสุดมีช่วงอายุระหว่าง 16-24 ปี โฆษกด้านความปลอดภัยบนถนน ของ RAC (Royal Automobile Club) มีความกังวลกับตัวเลขเหล่านี้ และมีความเห็นว่าต้องส่งเสริมการป้องกันการเมาแล้วขับต่อไป ต้องกระตุ้นทั้งรัฐบาล และตำรวจให้มีการใช้อำนาจควบคุมที่มีประสิทธิภาพ รวมถึงการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอลตามเส้นทางจราจรด้วย ทั้งยังผลักดันแนวคิด “drink-driving ruins lives.” (เมาแล้วขับดับชีวิต)