Extreme H รถแข่งรักษ์โลก

ข่าวจากประเทศอังกฤษ ระบุว่าผู้จัดรายการแข่งขันรายการ Extreme E กำลังอยู่ในการเตรียมการเพิ่มคลาสส์การแข่งขัน Extreme H เพิ่มอีกรุ่นหนึ่ง คาดว่าจะพร้อมจัดได้ในปี 2568 

เมื่อต้นปีทางผู้จัด Extreme E และ FIA ได้ลงนามในบันทึกข้อตกลง ในการจัดการแข่งขันชิงแชมพ์คลาสส์ใหม่ เพื่อจะผลักดันไปสู่การแข่งขันระดับโลกภายในปี 2569 โดยมีแผนการอัพเกรดการแข่งขันรุ่น Extreme E ในปีหน้า ที่เดิมเป็นการแข่งขันระดับนานาชาติ

ขณะนี้การเตรียมการด้านเอกสารข้อกำหนดต่างๆ เรียบร้อยแล้ว แต่ยังไม่มีการเปิดเผยถึงรายละเอียดของระบบส่งกำลังเชื้อเพลิงไฮโดรเจน ที่จะใช้กับรถ Odyssey 21 แต่ยืนยันว่าการแข่งขันทั้ง 2 รุ่น มีวัตถุประสงค์เดียวกัน โดยต้องมีการแข่งที่ตื่นเต้นเร้าใจ ใช้งบประมาณไม่มาก และไม่สร้างมลพิษ

ปัจจุบันรายการแข่งขัน Extreme E ใช้เรือสินค้า St Helena ในการลำเลียงรถแข่ง รวมถึงอุปกรณ์จัดการแข่งขัน เพื่อเดินทางไปทั่วโลก โดยมีเนื้อที่เกินพอสำหรับการลำเลียงฝูงรถแข่ง 4x4 พลังไฮโดรเจนเพิ่มขึ้นอีกรุ่นหนึ่งด้วย

การทำข้อตกลงกับ FIA ในการจัดรายการแข่งรถแข่งเชื้อเพลิงไฮโดรเจนระดับโลกนับว่าเป็นรายการแรก ซึ่งเป็นช่วงสำคัญของ Extreme E และ Extreme H ที่ผ่านการรับรองให้เป็นการแข่งขันระดับชิงแชมพ์จาก FIA เพื่อจะก้าวไปสู่การแข่งขันระดับชิงแชมพ์โลกต่อไป โดย Extreme H จะเป็นรายการแข่งขันรถเชื้อเพลิงไฮโดรเจนชิงแชมพ์โลกรายการแรก ที่ไม่มีใครเคยจัดมาก่อน

FIA ร่วมมือกับ Extreme E ในครั้งนี้ นับว่าเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญของการจัดการแข่งขันชิงแชมพ์รายการนี้ รวมถึงการแข่งขันรถเชื้อเพลิงไฮโดรเจนที่เป็นรายการใหม่ด้วย ซึ่งกีฬาแข่งรถจะเป็นแรงผลักดันที่มีประสิทธิภาพในการผลักดันการพัฒนาด้านเทคโนโลยี เพื่อให้เป็นการแข่งขันชิงแชมพ์โลกที่มีความยั่งยืน ตื่นเต้นเร้าใจ และไม่สร้างมลพิษ 

ในขณะเดียวกัน Mohammed Ben Sulayem ประธาน FIA ได้กล่าวว่า รู้สึกยินดีที่ได้ร่วมงานกับ Extreme E ในการก้าวไปสู่การแข่งขันมอเตอร์สปอร์ทระดับแชมพ์โลก ด้วยแหล่งเชื้อเพลิงที่ยั่งยืน ซึ่งตรงกับแผนกลยุทธ์ระยะยาวของ FIA และการแข่งขันนี้เป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับแผนกลยุทธ์ของ FIA ในการพัฒนากฎความปลอดภัยสำหรับรถแข่งพลังไฮโดรเจน ซึ่งได้กำหนดไว้ในกติกาการแข่งขันรถของ FIA แล้ว

นับว่าเป็นเรื่องดีที่ผู้จัดรายการแข่ง Extreme E มองเห็นถึงศักยภาพของเทคโนโลยีไฮโดรเจน ซึ่งจะเป็นการแข่งขันที่สามารถสร้างความเท่าเทียม และความหลากหลาย เพื่อให้มอเตอร์สปอร์ทเป็นการแข่งขันที่เข้าถึงได้สำหรับทุกคน