ASTON MARTIN V12 SPEEDSTER รถสปอร์ทไร้หลังคา และไม่มีกระจกหน้า ติดตรา “ปีกนก”

มีรถสปอร์ทสัญชาติอังกฤษอยู่ 3 แบบ แบบแรกที่กำลังอวดโฉมอยู่นี้ คือ ASTON MARTIN V12 SPEEDSTER (แอสตัน มาร์ทิน วี 12 สปีดสเตอร์) รถไร้หลังคา และกระจกบังลมหน้า ผลงานที่จะทำขายเพียง 88 คัน ของผู้ผลิตรถสปอร์ท และรถกิจกรรมกลางแจ้ง ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ และโรงงานตั้งอยู่ที่เมือง GAYDON (เกย์ดอน) มณฑล WARWICKSHIRE (วอร์วิคเชอร์) ในภาคกลางของเกาะอังกฤษ

  ประวัติความเป็นมาของรถสปอร์ทไร้หลังคาซึ่งมีชื่อเฉพาะว่า SPEEDSTER (สปีดสเตอร์) นี้ สามารถย้อนหลังไปได้จนถึงช่วงทศวรรษหลังปี 1950 อันเป็นช่วงเวลาที่ยอดผู้ผลิตรถสปอร์ทของเมืองเบียร์ผลิตรถประเภทนี้ออกจำหน่ายพร้อมกับป้ายชื่อ PORSCHE 356 SPEEDSTER (โพร์เช 356 สปีดสเตอร์) ใกล้เข้ามาอีกนิดก็คือเมื่อเดือนมิถุนายน 2009 อันเป็นเดือนที่ค่าย “ดาวสามแฉก” นำรถประเภทเดียวกันนี้ซึ่งติดป้ายชื่อ MERCEDES-BENZ SLR McLAREN STIRLING MOSS (เมร์เซเดส-เบนซ์ เอสแอลอาร์ แมคลาเรน สเตอร์ลิง โมสส์) ออกสู่ตลาดพร้อมคำยืนยันว่าจะผลิตในจำนวนจำกัดเพียง 75 คันเท่านั้น และล่าสุดก็คือรถ PORSCHE 911 SPEEDSTER (โพร์เช 911 สปีดสเตอร์) รุ่นปี 2011 ซึ่งผลิตเพียง 356 คัน เพื่อเป็นที่ระลึกถึงรถ PORSCHE 356 SPEEDSTER ที่กล่าวข้างต้น     ยอดผู้ผลิตรถสปอร์ท และรถกิจกรรมกลางแจ้งของเมืองผู้ดีก็เคยทำรถประเภทนี้มาแล้วเช่นกัน แต่เป็นรถแข่งไม่ใช่รถที่วิ่งได้ตามท้องถนนทั่วไป คือ รถ ASTON MARTIN DBR1 (แอสตัน มาร์ทิน ดีบีอาร์ 1) ซึ่งเปิดตัวเมื่อปี 1956 และชนะเลิศการแข่งขันหลายรายการ รวมทั้งการแข่ง 24 HEURES DU MANS หรือ “เลอมองส์ 24 ชั่วโมง” อันกระเดื่องเกียรติในปี 1959 ส่วน ASTON MARTIN V12 SPEEDSTER ซึ่งไม่ใช่รถแข่งแต่เป็น ROAD CAR หรือรถที่วิ่งได้ตามท้องถนนทั่วไปนี้ เปิดตัวแบบ “ครั้งแรกในโลก” ผ่านระบบออนไลน์เมื่อวันพุธที่ 4 มีนาคม 2020 พร้อมคำยืนยันว่าจะผลิตเพียง 88 คัน และตั้งค่าตัวเริ่มต้นไว้ที่ 765,000 ปอนด์อังกฤษ หรือประมาณ 34.4 ล้านบาทไทย แต่ไม่ได้บอกว่าทำไมต้องเป็น 88 คัน ? ข่าวคราวเงียบหายไปนาน จนกระทั่งปลายเดือนเมษายน 2021 นี่เองเมื่อใกล้จะเริ่มการส่งมอบรถให้แก่ผู้สั่งจองซึ่งคาดไว้ว่าจะกระทำตอนกลางปี เรื่องราวของรถแบบนี้พร้อมกับข้อมูลเพิ่มเติมบางส่วน ก็เป็นข่าวแพร่กระจายไปทั่วโลกอีกครั้งหนึ่ง     เป็นรถไม่มีหลังคา และไร้กระจกบังลมหน้าซึ่งยาวประมาณ 4.50 ม. โครงสร้างตัวถังส่วนหน้าเป็นโครงสร้างที่ใช้อยู่ก่อนแล้วในรถ ASTON MARTIN DBS SUPERLEGGERA (แอสตัน มาร์ทิน ดีบีเอส ซูเพอร์เลกเกรา) ซึ่งเป็นรถตลาด หรือรถผลิตเพื่อจำหน่ายที่แรงสุด และเร็วสุดของค่ายนี้ แต่โครงสร้างตัวถังส่วนหลังได้จากรถ ASTON MARTIN VANTAGE (แอสตัน มาร์ทิน วานเทจ) รุ่นปัจจุบัน ซึ่งเปิดตัวเมื่อปลายปี 2017 ส่วนบนของตัวถังส่วนท้ายนี้มีลักษณะอย่างที่เรียกกันในภาษาอังกฤษว่า DOUBLE-BUBBLE หรือ “ฟองอากาศคู่”     เครื่องยนต์ซึ่งก็ได้จากรถ ASTON MARTIN DBS SUPERLEGGERA เป็นเครื่องทวินเทอร์โบเบนซินฉีดเชื้อเพลิงโดยตรง DOHC วี 12 สูบ ความจุ 5,204 ซีซี ซึ่งให้กำลังสูงสุดระดับ 515 กิโลวัตต์/700 แรงม้า ระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ ZF เพื่อส่งกำลังสู่ล้อคู่หลังได้จากรถ ASTON MARTIN VANTAGE ส่วนระบบรองรับ (กันสะเทือน) หน้าอิสระปีกนกสองชั้น/หลังแขนยึดหลายชิ้น และระบบห้ามล้อคาร์บอนเซรามิค หน้า 410 มม./หลัง 360 มม. ก็ได้จากรถ ASTON MARTIN DBS SUPERLEGGERA เช่นกัน   เป็นรถที่ผู้ผลิตบอกว่า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ใน 3.5 วินาที ส่วนความเร็วสูงสุด คือ 319 กม./ชม.   ASTON MARTIN V12 SPEEDSTER

• รถสปอร์ท 2 ที่นั่ง ไม่มีหลังคา และไม่มีกระจกหน้า จำกัดจำนวนผลิต 88 คัน
• เครื่องทวินเทอร์โบเบนซินฉีดตรง วี 12 สูบ 5,204 ซีซี 515 กิโลวัตต์/700 แรงม้า
• ระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ ZF ขับเคลื่อนล้อหลัง
• อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 3.5 วินาที ความเร็วสูงสุด 319 กม./ชม.
• ราคาในอังกฤษ เริ่มต้นที่ 765,000 ปอนด์ (ประมาณ 34.4 ล้านบาทไทย)