มาตรวัดตลาดรถ
“ปัจจัยลบหาย ปัจจัยบวกมา โค้งสุดท้ายแห่งการปั๊มยอด”
เปรียบเทียบยอดจำหน่ายรถยนต์ประจำเดือนสิงหาคม 2022/2021
ตลาดโดยรวม +61.7 %
รถยนต์นั่ง +62.7 %
รถกิจกรรมกลางแจ้ง (SUV) +77.9 %
กระบะ 1 ตัน +67.0 %
รถเพื่อการพาณิชย์ +5.3 %
เปรียบเทียบยอดจำหน่ายรถยนต์ประจำเดือนมกราคม-กรกฏาคม 2022/2021
ตลาดโดยรวม +19.6 %
รถยนต์นั่ง +17.7 %
รถกิจกรรมกลางแจ้ง (SUV) +24.6 %
กระบะ 1 ตัน +21.0 %
รถเพื่อการพาณิชย์ +9.3 %
ด้วยบรรยากาศแห่งความคึกคัก ตลาดรถยนต์ไทยวันนี้ต้องมองไปข้างหน้า หลังจากที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 เริ่มมีทิศทางดีขึ้นประชาชนออกมาใช้จ่ายกันมากขึ้น และปริมาณคนเข้าโชว์รูมก็มีความถี่มากกว่าก่อนเกิดปัญหาการแพร่ระบาด ในขณะที่ปัญหาขาดแคลนรถจากสายการผลิตบรรเทาลง ปัญหาขาดแคลนชิพเริ่มคลี่คลายในช่วงครึ่งหลังของปี 2565 เราได้เห็นการส่งมอบรถไหลลื่นขึ้น คำสั่งซื้อที่ค้างส่งมอบเริ่มทำกันได้แล้ว
หากดูตัวเลขความต้องการรถยนต์ของตลาดช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา รถเพื่อการพาณิชย์ (รถบรรทุก รถพิคอัพ) มีการขยายตัวดีในอัตราสูงเทียบเท่าตลาดรถยนต์นั่ง ตัวเลขนี้สะท้อนให้เห็นว่า ภาคการค้าของไทยโดยเฉพาะธุรกิจค้าปลีกออนไลน์ ลอจิสติคส์ การขนส่งสินค้าทั่วไปมีการขยายตัว อีกด้านหนึ่ง รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ขนาดใหญ่มักถูกใช้ในภาคการขนส่งวัสดุก่อสร้าง สะท้อนให้เห็นถึงการขยายตัวของภาคก่อสร้างอย่างเด่นชัด นอกจากนี้ ผู้ประกอบการเองก็เปิดตัวรถรุ่นใหม่อย่างต่อเนื่องแทบจะทุกเดือน และเดือนละหลายรุ่น ทั้งรถยนต์ไฟฟ้า และรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายใน ความถี่ของรถรุ่นใหม่ที่ออกตลาดเป็นตัวกระตุ้นความต้องการเป็นอย่างดี ดาวรุ่งในช่วงเวลาที่ผ่านมายังคงเป็นรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งช่วงเวลาการเปลี่ยนเทคโนโลยี ก่อให้เกิดดีมานด์ใหม่ๆ ทั้งนี้ค่ายรถจากจีนทำได้โดดเด่นมากกว่าค่ายรถฝั่งญี่ปุ่น ความคึกคักของบแรนด์จีนมีส่วนทำให้ตลาดมียอดขายที่เพิ่มขึ้น ในมุมมองบางคนมองว่า ตลาดรถญี่ปุ่นซบเซาลง ซึ่งในความเป็นจริงแล้วไม่ได้ลดลงขนาดเรียกว่า ซบเซา เพียงแต่บแรนด์จีนสร้างความคึกคักในกลุ่มของตลาดเกิดใหม่ หรือตลาดรถยนต์ไฟฟ้าได้มากกว่า ฝั่งญี่ปุ่นเท่านั้น
แม้รถญี่ปุ่นยังไม่มีสินค้าในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ แต่ตัวเลขการขยายตัวของยอดขายรถญี่ปุ่นก็เพิ่มขึ้น ซึ่งสะท้อนความจริงว่าญี่ปุ่นไม่ได้เสียส่วนแบ่งตลาดไปให้จีน เพียงแต่ญี่ปุ่นเติบโตในตลาดของตัวเองเท่านั้น คงต้องรอดูเวทีมหกรรมยานยนต์นะว่า “ญี่ปุ่น” จะเอาอย่างไรกับตลาดใหม่ ญี่ปุ่นคงไม่ยอมให้ใครมาตีเมืองหลวงแห่งรถยนต์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ตัวเองครองตลาดอยู่อย่างแน่นอน
มาดูบรรยากาศของการซื้อ/ขายนับจากเดือนนี้ไป ต้องบอกว่า นี่คือช่วงเวลาโค้งสุดท้ายแห่งการปั๊มยอด ด้วยเวทีใหญ่แห่งปี “มหกรรมยานยนต์” หรือ MOTOR EXPO ได้เปิดเวทีอีกครั้ง เพื่อให้ทุกค่ายได้ส่งรถแม่เหล็กมาปั๊มยอดขายกัน ช่วงเวลา 3-4 ปีที่ผ่านมา เวทีแสดงยนตรกรรมหลายๆ เวที มักมีปัจจัยลบมาแทรกเป็นยาแดงในช่วงของการจัดงาน จนทำให้บรรยากาศไม่ลื่น ติดๆ ขัดๆ แต่เมื่อมาถึงงานมหกรรมยานยนต์ทีไร ปัจจัยแย่ๆ ต่างๆ เหล่านั้นกลับจางหายไป เหลือแต่ความโปร่งโล่งใจ ปี 2565 นี้ ดูฟ้าดูฝนแล้ว มหกรรมยานยนต์เวทีนี้ คือ ช่วงเวลาฟ้าใส พร้อมเป็นพื้นที่ การสร้างสรรค์โอกาสทางการตลาดอย่างแท้จริง
เชื่อว่าตลาดรถยนต์ของไทยยังคงสามารถทำยอดขายเพิ่มขึ้น มูลค่าการขายบนเวทีมหกรรมยานยนต์ น่าจะทำสถิติสูงขึ้นมาก เนื่องจากบรรดาโรงงานรถยนต์หน้าใหม่ ต่างทยอยเข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง หากเป็นเช่นนี้บอกได้เลยว่า เป้าหมายการขายโดยรวมของตลาดรถไทยปิดที่แดนบวกได้อย่างปลอดภัย โค้งสุดท้าย คนขายอยากขาย คนซื้อมีกำลังพอ ตลาดรถไทยจึงเข้าสู่วงรอบของความสดใสอย่างแท้จริงแล้ว
ABOUT THE AUTHOR
จ
จอมยุทธ
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน พฤศจิกายน ปี 2565
คอลัมน์ Online : มาตรวัดตลาดรถ