โลกติดล้อ
เอาดี ขายดี๊ดีในจีน
โฟล์คสวาเกน เป็นบแรนด์รถยนต์แรกๆ ที่เข้าไปวิ่งฉุยฉายอยู่ในประเทศจีน ในยุคเมื่อ 10-20 ปีก่อน สมัยนั้นถ้ามองไปตามท้องถนน ก็จะเห็นแต่ โฟล์คสวาเกน หารถญี่ปุ่นแทบไม่เจอะเจอ แต่พอเราเผลอแพลบเดียว บแรนด์ญี่ปุ่นอย่าง โตโยตา และ ฮอนดา ก็สามารถเข้าไปเจาะไข่แดงได้สำเร็จ และส่งผลให้ โฟล์คสวาเกน เหลือส่วนแบ่งตลาดในประเทศจีนแค่ 20 กว่าเปอร์เซนต์แต่นั่นเป็นเรื่องของตลาดรถยนต์ของชนชั้นกลาง เพราะในขณะนี้ โฟล์คสวาเกน แก้เผ็ดค่ายญี่ปุ่น ด้วยการบุกยึดตลาดรถยนต์ระดับหรูในจีนไว้เรียบร้อย ด้วยการส่งบแรนด์ เอาดี มาเป็นทัพหน้า รวมทั้งต้องแข่งขันกับค่ายรถยนต์เยอรมันด้วยกันเอง คือ บีเอมดับเบิลยู และ เมร์เซเดส-เบนซ์ ช่วงก่อนหน้านี้ (ต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน) วิกฤตการเงินในยุโรปส่งผลให้ยอดขายรถยนต์ไม่เติบโต ดังนั้นทางออกที่ดีที่สุดของค่ายรถยนต์ยุโรป คือ บ่ายหน้าเข้าบุกตลาดจีน ซึ่งกลุ่มเศรษฐี หรือผู้มีอันจะกิน ต่างก็ร่ำรวยกันแบบไม่ลืมหูลืมตา (รวยกระจุก จนกระจาย) เพราะใน 1 ปี หากนำเงินสะสมของคนกลุ่มนี้มารวมกันจะสามารถซื้อเงินตราต่างประเทศได้ถึง 25 ล้านล้านหยวน แล้วเศรษฐีจีนทั้งหลายเหล่านี้จึงแห่มาซื้อรถหรูกันขนานใหญ่ และภายใน 3 ปีข้างหน้า เอาดี วางแผนจะขายรถในประเทศจีนให้ได้ 1 ล้านคัน/ปี !?! อุแม่เจ้า เอาดี คันละเท่าไรกันคะ ลองเอา 1 ล้านคูณ ก็จะรู้ว่าคนจีนทำให้ค่าย โฟล์คสวาเกน ร่ำรวยแค่ไหน ปัจจุบันประเทศจีนได้กลายเป็นตลาดใหญ่ที่สุดของ เอาดี แทนที่ประเทศเยอรมนีไปแล้ว โดยผู้บริหารของ เอาดี บอกว่า ปีนี้เป็นปีแรกที่เราจะเริ่มเข้าสู่เป้าหมายของการขายให้ได้ 1 ล้านคัน ภายใน 3 ปี เราออกตัวดีตั้งแต่เดือนแรก และทำให้มั่นใจว่าจะทำยอดขายทะลุเป้าแน่ๆ เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา เอาดี ได้ส่งมอบรถถึง 30,000 คัน ให้แก่ลูกค้าในประเทศจีน และ ฮ่องกง และเมื่อนับรวมยอดจำหน่ายตั้งแต่เดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2554 เท่ากับ 283,600 คัน ซึ่งมียอดขายรวมมากกว่าปี 2553 ถึง 35.2 เปอร์เซนต์ และไม่ใช่เฉพาะ เอาดี เท่านั้น แต่รถหรูสัญชาติเยอรมันอื่นๆ ได้แก่ บีเอมดับเบิลยู และ เมร์เซเดส-เบนซ์ ก็มียอดจำหน่ายไม่น้อยหน้าเพื่อนร่วมบ้านเกิดเช่นกัน สำหรับกลุ่มตลาดรถหรูในประเทศจีน ยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก เพราะปัจจุบันมีส่วนแบ่งตลาดเพียง 8 เปอร์เซนต์ ในขณะที่ตลาดที่เติบโตแล้วอย่างสหรัฐอเมริกา และยุโรปจะมีส่วนแบ่งตลาดรถหรูถึง 15 เปอร์เซนต์ และเพื่อรับกับการเติบโตของตลาด โฟล์คสวาเกน ได้สร้างโรงงานใหม่ที่ ฟูเจิ้น ในจังหวัด กวางด้ง ซึ่งมีกำลังการผลิตถึง 700,000 คัน/ปี นอกจากด้านการผลิตแล้ว เอาดี มีแผนแต่งตั้งดีเลอร์เพิ่มขึ้นเป็น 400 ราย ภายในปี 2556 (เฉลี่ย 1 แห่ง/1 สัปดาห์) โดยเฉพาะในเมืองระดับรองที่เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ตามหลังเมืองชายฝั่งทั้งหลายที่เป็นเมืองขับเคลื่อนเศรษฐกิจมาติดๆ เพราะบางเมืองมีประชากรมากกว่า 1 ล้านคน แต่ยังไม่มีดีเลอร์ของ เอาดี ต่อแต่นี้ไป ถ้าคุณไปเที่ยวประเทศจีนในเมืองหลัก ไม่ว่าจะเป็น ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ หรือ เสินเจิ้น คุณก็จะได้เห็นรถ เอาดี วิ่งกันขวักไขว่แน่นอน ความนิยมในบแรนด์ เอาดี ในประเทศจีนนั้น มีอยู่ในกลุ่มผู้นำรัฐบาลจีน เอาดี เป็นเพียงบแรนด์เดียวที่อยู่ในรายการจัดซื้อของรัฐบาลมานานจนถึงปี 2553 โดยเฉพาะรุ่น เอ 6 บรรดาผู้นำระดับสูงโปรดปรานกันมาก และพวกผู้นำขี้โอ่เหล่านี้เหมือนผู้นำบางประเทศละค่ะ ไปไหนมาไหนกันทีก็ทำรถติดทั่วเมือง เล่นเอาประชาชนคนเดินถนนค้อนควักกันเป็นแถว แต่ในปัจจุบัน เอาดี ไม่ได้มุ่งขายแต่รัฐบาลเท่านั้น เพราะยอดขายภาครัฐลดลงมา เอาดี จึงหันมาขายเศรษฐีธรรมดาด้วย เอาดี ที่นำเข้ามาในประเทศจีน ตัวอย่างเช่น รุ่น ทีที ราคาจำหน่าย 500,000 หยวน หรือประมาณ 2,500,000 บาท มียอดจำหน่ายกว่า 3,000 คัน ส่วนรุ่น คิว 5 ไฮบริด จะมีให้เห็นกันบนท้องถนนในประเทศจีนตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ในที่สุดภาพลักษณ์ของ เอาดี ในประเทศจีนที่เป็น รถของผู้นำในรัฐบาล กำลังจะเปลี่ยนแปลงเป็น "รถของบุคคลทั่วไป" แม้ว่าภาพลักษณ์เก่านั้น จะยังเป็นรอยฝังจำอยู่ก็ตาม
ABOUT THE AUTHOR
เ
เพ็ญศรี เผ่าเหลืองทอง
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน เมษายน ปี 2555
คอลัมน์ Online : โลกติดล้อ