รถสปอร์ทจากเมืองมะกะโรนีอีกแบบหนึ่งที่นำเรื่องราวมาเล่าสู่กันฟังในเดือนนี้ เป็นผลงานล่าสุดของค่าย “กระทิงดุ” ซึ่งเพิ่งปรากฏตัวให้เห็นเป็นครั้งแรกพร้อมกันกับป้ายชื่อ LAMBORGHINI AVENTADOR LP 780-4 ULTIMAE (ลัมโบร์กินี อเวนตาโดร์ แอลพี 780-4 อูลติมาเอ) ที่งานเทศกาลกีฬายานยนต์ GOODWOOD FESTIVAL OF SPEED (กูดวูด เฟสติวัล ออฟ สปีด) ครั้งล่าสุด ซึ่งมีขึ้นในเมืองผู้ดีระหว่างวันที่ 8-11 กรกฎาคม ที่เพิ่งผ่านพ้นไปเป็นรถแบบสุดท้ายของค่ายนี้ที่ติดตั้งเครื่องยนต์สันดาปภายในล้วนๆ ไม่มีการนำมอเตอร์ไฟฟ้ามาใช้ในระบบขับด้วย รวมทั้งเป็นพัฒนาการล่าสุด และสุดท้ายของรถสปอร์ท "ซูเพอร์คาร์” ติดป้ายชื่อ LAMBORGHINI AVENTADOR (ลัมโบร์กินี อเวนตาโดร์) ซึ่งเริ่มเข้าสู่สายการผลิตแทนที่รถ LAMBORGHINI MURCIELAGO (ลัมโบร์กินี มูร์ซีเอลาโก) เมื่อปี 2011 มีการปรับเปลี่ยนรายละเอียดต่างๆ พร้อมกับการนำเสนอรถโมเดลใหม่ๆ มาแล้วหลายครั้ง และยอดผลิตโดยรวมผ่านหลัก 10,000 คันไปแล้ว ในรถรุ่นใหม่นี้ รหัส 780 ในชื่อรุ่น คือ แรงม้าสูงสุดของเครื่องยนต์ ส่วน 4 หมายถึง เป็นรถขับเคลื่อน 4 ล้อ และ ULTIMAE เป็นคำละตินซึ่งแปลว่า สุดท้าย เช่นเดียวกับรถโมเดลอื่นๆ ก่อนหน้านี้ รถรุ่นล่าสุดนี้มีตัวถัง 2 แบบ คือ ตัวถังคูเป (คันสีเทา) ซึ่งมีน้ำหนักรถเปล่า 1,550 กก. และติดป้ายชื่อ LAMBORGHINI AVENTADOR LP780-4 ULITMAE COUPE กับตัวถังเปิดประทุน (คันสีฟ้า) ซึ่งมีน้ำหนักรถเปล่า 1,600 กก. และติดป้ายชื่อ LAMBORGHINI AVENTADOR LP 780-4 ULTIMAE ROADSTER ตัวถังทั้ง 2 แบบติดประตูข้างที่เปิดแบบง้างขากรรไกร อย่างที่เรียกกันในภาษาอังกฤษว่า SCISSOR DOORS และมีขนาดเท่ากันในทุกมิติ คือ ยาว 4.868 ม. เท่ากัน กว้าง 2.098 ม. เท่ากัน และสูง 1.136 ม. เท่ากัน เป็นตัวถังที่ทำจากวัสดุหลายประเภท กล่าวคือ โครงสร้างส่วนหน้า และส่วนหลังทำจากอลูมิเนียม เปลือกตัวถังฝากระโปรงหน้า และสปอยเลอร์ทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ ชิ้นส่วนอื่นๆ ทำจากอลูมิเนียม และวัสดุสังเคราะห์ ส่วนประทุนหลังคาในตัวถังแบบหลังที่ถอดออกได้ด้วยมือ ทำจากคาร์บอนไฟเบอร์รับความดันสูง ซึ่งผลิตด้วยกรรมวิธีที่เรียกในภาษาอังกฤษว่า RTM หรือ RESIN TRANSFER MOULDING ทั้งรถคูเปซึ่งจำกัดจำนวนผลิต 350 คัน และรถเปิดประทุนแบบโรดสเตอร์ซึ่งจะผลิตเพียง 250 คัน เป็นรถขับทุกล้อด้วยพลังของเครื่องยนต์เบนซินหายใจอากาศธรรมดา DOHC วี 12 สูบ 60 องศา ความจุ 6,498 ซีซี วางเครื่องกลางลำ/ตามยาว ให้แรงบิดสูงสุด 720 นิวตันเมตร/73.5 กก.-ม. ที่ 6,750 รตน. ให้กำลังสูงสุด 574 กิโลวัตต์/780 แรงม้า ที่ 8,500 รตน. และส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะ ISR (INDEPENDENT SHIFTING ROD) ซึ่งการเปลี่ยนจังหวะเกียร์แต่ละครั้งจะใช้เวลาไม่เกิน 50 มิลลิวินาที ส่วนโหมดการขับมีให้เลือก 4 แบบ คือ STRADA-SPORT-CORSA-EGO สมรรถนะความเร็วทั้งตีนต้น และตีนปลายเห็นตัวเลขแล้วสยดสยอง รถคูเป อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ใน 2.8 วินาที อัตราเร่ง 0-200 กม./ชม. ทำได้ใน 8.7 วินาที และห้ามล้อ 100-0 กม./ชม. ทำได้ใน 30 ม. รถเปิดประทุน ตัวเลขเปลี่ยนเป็น 2.9 วินาที 8.8 วินาที และ 31 ม. ส่วนความเร็วสูงสุด ทั้งสองตัวถังทำได้ 355 กม./ชม. เป็นตัวเลขที่ทำให้กล่าวได้โดยไม่ต้องกลัวใครโต้แย้งว่า นี่คือรถ LAMBORGHINI AVENTADOR ที่แรงที่สุด และเร็วที่สุด ยังไม่มีการระบุราคาค่าตัวที่ชัดเจน แต่นิตยสารรถยนต์ชั้นนำฉบับหนึ่งของเมืองอังกฤษ คือ AUTOCAR (ออโทคาร์) คาดว่าน่าจะเริ่มต้นสูงกว่า 400,000 ปอนด์ หรือประมาณ 18.0 ล้านบาทไทย LAMBORGHINI AVENTADOR LP780-4 ULTIMAE รถสปอร์ทซูเพอร์คาร์ วางเครื่องกลางลำ/ตามยาว ขับเคลื่อนทุกล้อ มิติตัวถัง 4.868x2.098x1.136 ม. น้ำหนักรถเปล่า 1,550-1,600 กก. เครื่องยนต์เบนซิน วี 12 สูบ 60 องศา 6,498 ซีซี 574 กิโลวัตต์/780 แรงม้า ตัวถังคูเป 0-100 กม./ชม. ใน 2.8 วินาที ความเร็วสูงสุด 355 กม./ชม. ตัวถังโรดสเตอร์ 0-100 กม./ชม. ใน 2.9 วินาที ความเร็วสูงสุด 355 กม./ชม.