วิถีตลาดรถยนต์
ลดลงไปหน่อย
เปรียบเทียบยอดจำหน่ายรถยนต์ประจำเดือนพฤศจิกายน 2022/2021
ตลาดโดยรวม -4.8 %
รถยนต์นั่ง -14.8 %
รถกิจกรรมกลางแจ้ง (SUV) +48.4 %
กระบะ 1 ตัน -5.9 %
รถเพื่อการพาณิชย์ -5.3 %
เปรียบเทียบยอดจำหน่ายรถยนต์ประจำเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2022/2021
ตลาดโดยรวม +14.7 %
รถยนต์นั่ง +9.3 %
รถกิจกรรมกลางแจ้ง (SUV) +22.4 %
กระบะ 1 ตัน +17.4 %
รถเพื่อการพาณิชย์ +10.0 %
สำหรับเดือนพฤศจิกายน 2565 ก็เหมือนเช่นทุกปีที่ตัวเลขยอดจำหน่ายรถยนต์ใหม่จะปรับตัวลดลงไปบ้าง สาเหตุหลักๆ ก็ไม่มีอะไรมาก มาจากการที่ผู้ต้องการรถยนต์ใหม่จะชะลอการตัดสินใจซื้อออกไปก่อน เพื่อรอดูพโรโมชันพิเศษสุดส่งท้ายปีของแต่ละค่ายรถยนต์ที่จะนำเสนอออกมาในช่วงระยะเวลาการจัดงาน MOTOR EXPO 2022 ในช่วงต้นเดือนธันวาคม โดยเฉพาะผู้ซื้อในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมไปถึงจังหวัดใกล้เคียงที่สะดวกต่อการมาเข้าชมงานดังกล่าว อย่างไรก็ตาม หลายๆ โชว์รูมรถยนต์ในต่างจังหวัดก็มีการขึ้นป้ายโฆษณาประชาสัมพันธ์ว่านำเสนอพโรโมชันเดียวกับที่ใช้ในงาน MOTOR EXPO 2022 ซึ่งก็ช่วยให้ผู้ซื้อที่ไม่สะดวกต่อการเข้ามาตัดสินใจซื้อในงาน สามารถตัดสินใจซื้อได้สะดวกรวดเร็วขึ้นเหมือนกัน ทั้งนี้ตัวเลขยอดจำหน่ายรถยนต์ใหม่ป้ายแดงเดือนพฤศจิกายน 2565 เปรียบเทียบกับตัวเลขยอดจำหน่ายรถยนต์ของเดือนพฤศจิกายน 2564 มีการปรับตัวลดลงเล็กน้อย โดยปี 2565 มีตัวเลขยอดจำหน่ายอยู่ที่ 68,284 คัน ปี 2564 อยู่ที่ 71,716 คัน หดหายไป 3,432 คัน หรือเท่ากับปรับตัวลดลง 4.8 % รถยนต์นั่งส่วนบุคคลมีตัวเลขยอดจำหน่ายที่ลดน้อยลงเช่นเดียวกับรถพิคอัพ 1 ตัน ขณะที่รถกิจกรรมกลางแจ้ง หรือเอสยูวี
และรถยนต์เพื่อการพาณิชย์อื่นๆ ยังคงมีตัวเลขยอดจำหน่ายที่เพิ่มสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม ตัวเลขยอดจำหน่ายที่ปรับตัวลดลงในเดือนพฤศจิกายนนี้ไม่ส่งผลต่อตัวเลขยอดจำหน่ายรวมแต่อย่างใด ทุกตลาดรถยนต์ยังคงมีตัวเลขยอดจำหน่ายที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องต่อไป โดย 11 เดือนของปี 2565 ตัวเลขยอดจำหน่ายสะสมเพิ่มขึ้นมากกว่าช่วงเดียวกันของปี 2564 แล้วเกือบ 100,000 คัน
เดือนพฤศจิกายน 2565 รถยนต์ที่มียอดจำหน่ายสูงสุดยังคงเป็น TOYOTA (โตโยตา) เหมือนเช่นทุกเดือนทุกปีที่ผ่านมา เดือนนี้ TOYOTA จำหน่ายไปได้อีก 24,554 คัน เพิ่มขึ้น 6.0 % คิดเป็นส่วนแบ่งการตลาดที่ 36.0 % ตามด้วย ISUZU (อีซูซุ) จำหน่ายได้อีก 16,561 คัน เทียบกับเดือนพฤศจิกายน ปี 2564 แล้วลดลง 10.1 % ส่วนแบ่งการตลาด 24.3 % ต่อด้วย HONDA (ฮอนดา) จำหน่ายได้อีก 7,328 คัน เทียบกับเดือนพฤศจิกายน 2564 ลดลง 15.0 % ส่วนแบ่งการตลาด 10.7 % FORD (ฟอร์ด) จำหน่ายได้อีก 4,807 คัน เพิ่มขึ้นถึง 67.7 % ส่วนแบ่งการตลาด 7.0 % และ MITSUBISHI (มิตซูบิชิ) จำหน่ายได้อีก 3,469 คัน ลดลง 21.2 % ส่วนแบ่งการตลาด 5.1 %
ปี 2565 ผ่านไปแล้ว 11 เดือน รถยนต์ใหม่ป้ายแดงจำหน่าย และส่งมอบออกไปแล้วรวมทั้งสิ้น 766,589 คัน เพิ่มขึ้นจากห้วงเวลาเดียวกันของปี 2564 ถึง 98,480 คัน หรือเพิ่มขึ้นถึง 14.7 % ยอดจำหน่ายรวมมากที่สุด และผูกขาดความเป็นแชมพ์ยอดจำหน่ายสูงสุดอย่างแน่นอน สำหรับ TOYOTA จำหน่ายไปแล้วรวมทั้งสิ้น 258,612 คัน เพิ่มขึ้นถึง 46,039 คัน หรือเท่ากับเพิ่มขึ้น 21.7 % ส่วนแบ่งการตลาด 33.7 % อันดับที่ 2 ISUZU จำหน่ายไปแล้วรวม 194,275 คัน เพิ่มขึ้น 17.5 % ส่วนแบ่งการตลาด 25.3 % อันดับที่ 3 HONDA จำหน่ายไปแล้วรวม 74,518 คัน ลดลง 3.4 % ส่วนแบ่งการตลาด 9.7 % อันดับที่ 4 MITSUBISHI จำหน่ายไปแล้วรวม 46,181 คัน เพิ่มขึ้น 11.5 % ส่วนแบ่งการตลาด 6.0 % และยอดจำหน่ายสะสมมากที่สุดเป็นอันดับ 5 เป็นรถยนต์ FORD จำหน่ายไปแล้วรวม 38,079 คัน เพิ่มขึ้น 34.7 % ส่วนแบ่งการตลาด 5.0 %
สำหรับรถกระบะ หรือพิคอัพ 1 ตัน อยู่ในช่วงเวลาของการชะลอการตัดสินใจเช่นกัน เดือนพฤศจิกายน ปี 2565 มีตัวเลขยอดจำหน่ายรวมทั้งตลาดอยู่ที่ 36,286 คัน ซึ่งเมื่อเทียบกับเดือนพฤศจิกายน 2564 แล้วการซื้อขายลดน้อยลงไป 2,264 คัน หรือเท่ากับลดลง 5.9 % ในบรรดารถพิคอัพที่เป็นตัวเลือกแรกๆ ของคนรักรถพิคอัพแล้ว มีเพียง FORD ที่ยังคงมีตัวเลขยอดจำหน่ายที่เพิ่มมากขึ้นจากเดือนพฤศจิกายนปีก่อน โดย ISUZU ยังคงยึดตำแหน่งจ่าฝูงอย่างเหนียวแน่น เดือนพฤศจิกายนนี้จำหน่ายได้ 15,382 คัน เทียบกับเดือนพฤศจิกายนปีก่อน เป็นยอดจำหน่ายที่ลดน้อยลง 9.3 % ส่วนแบ่งการตลาด 42.4 % อันดับ 2 TOYOTA 13,635 คัน ลดลง 8.4 % ส่วนแบ่งการตลาด 37.6 % อันดับ 3 FORD จำหน่ายได้ 4,805 คัน เพิ่มขึ้นถึง 68.1 % ส่วนแบ่งการตลาด 13.2 % อันดับที่ 4 MITSUBISHI เดือนพฤศจิกายนนี้จำหน่ายได้ 1,971 คัน ลดลง 24.5 % ส่วนแบ่งการตลาด 5.4 % และ NISSAN (นิสสัน) อยู่ในอันดับที่ 5 จากยอดจำหน่าย 275 คัน ซึ่งเป็นยอดจำหน่ายที่ปรับลดลง 65.2 % เมื่อเทียบกับเดือนพฤศจิกายนปีก่อน ส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 0.8 %
นับเนื่องจากเดือนมกราคมมาจนถึงเดือนพฤศจิกายนของปี 2565 รถพิคอัพ 1 ตัน จำหน่ายออกไปแล้วรวมกันทั้งสิ้น 411,553 คัน เทียบกับห้วงระยะเวลาเดียวกันของปี 2564 แล้วเป็นตัวเลขยอดจำหน่ายที่เพิ่มมากขึ้นถึง 17.4 % หรือเพิ่มมากขึ้น 60,862 คัน ISUZU คว้าตำแหน่งแชมพ์พิคอัพยอดจำหน่ายสูงสุดประจำปี 2565 ค่อนข้างจะแน่นอน เพราะถึงห่างคู่แข่งสำคัญอย่าง TOYOTA ถึง 20,000 หมื่นกว่าคัน แต่ก็ยากที่ TOYOTA จะตามทันเสียแล้ว ISUZU จำหน่ายไปแล้วรวม 179,307 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า 19.3 % ถือครองส่วนแบ่งการตลาด 43.6 % TOYOTA อยู่ในอันดับที่ 2 จำหน่ายไปแล้วรวม 157,703 คัน เพิ่มขึ้น 17.0 % ส่วนแบ่งการตลาด 38.3 % อันดับที่ 3 FORD จำหน่ายไปแล้ว 38,039 คัน เพิ่มขึ้น 34.8 % ส่วนแบ่งการตลาด 9.2 % MITSUBISHI อยู่ในอันดับที่ 4 จำหน่ายไปแล้ว 26,618 คัน เพิ่มขึ้น 6.3 % ส่วนแบ่งการตลาด 6.5 % และอันดับที่ 5 NISSAN จำหน่ายไปแล้วรวม 6,087 คัน ลดลง 13.3 % ส่วนแบ่งการตลาด 1.5 %
รถเอสยูวี เป็นอีกหนึ่งตลาดที่ยังแรงดีไม่มีตก ยังคงมีตัวเลขยอดจำหน่ายโดยรวมที่เพิ่มสูงขึ้นกว่ายอดจำหน่ายเดือนพฤศจิกายน ปี 2564 โดยยอดจำหน่ายรวมทั้งตลาดอยู่ที่ 7,897 คัน เพิ่มขึ้นถึง 48.4 % HONDA อยู่ในตำแหน่งจ่าฝูงจากยอดจำหน่าย 2,890 คัน ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 414.2 % เมื่อเทียบกับเดือนพฤศจิกายน 2564 ส่วนแบ่งการตลาด 36.6 % TOYOTA ทำยอดจำหน่ายอยู่ในอันดับที่ 2 จำหน่ายได้ 1,668 คัน เพิ่มขึ้น 12.2 % ส่วนแบ่งการตลาด 21.1 % อันดับ 3 ตลาดนี้เป็นของ MG (เอมจี) จำหน่ายได้ 933 คัน ลดลง 26.3 % ส่วนแบ่งการตลาด 11.8 % อันดับ 4 NISSAN 855 คัน เพิ่มขึ้นถึง 663.4 % ส่วนแบ่งการตลาด 10.8 % และอันดับ 5 MAZDA (มาซดา) จำหน่ายได้ 660 คัน ลดลง 46.1 % ส่วนแบ่งการตลาด 8.4 %
ผ่านไป 11 เดือน รถเอสยูวีจำหน่ายไปแล้วรวมกันทั้งสิ้น 72,921 คัน เพิ่มขึ้น 22.4 % เมื่อเทียบกับ 11 เดือนของปี 2564 น่าจะไม่พลาดตำแหน่งแชมพ์ตลาดนี้สำหรับ TOYOTA ถึงแม้ว่า HONDA จะมาแรงในช่วงโค้งสุดท้าย แต่คงจะไล่ไม่ทันเสียแล้ว TOYOTA จำหน่ายไปแล้วรวม 20,390 คัน เพิ่มขึ้น 14.1 % ส่วนแบ่งการตลาด 28.0 % อันดับที่ 2 HONDA จำหน่ายได้รวม 18,639 คัน เพิ่มขึ้นถึง 106.8 % ส่วนแบ่งการตลาด 25.6 % อันดับที่ 3 MAZDA 11,393 คัน ลดลง 4.1 % ส่วนแบ่งการตลาด 15.6 % อันดับที่ 4 MG 9,451 คัน ลดลง 33.7 % ส่วนแบ่งการตลาด 13.0 % และอันดับที่ 5 เป็น GWM จำหน่ายแล้วรวม 6,261 คัน เพิ่มขึ้นถึง 202.5 % ส่วนแบ่งการตลาด 8.6 %
เดือนพฤศจิกายน 2565 รถยนต์เพื่อการพาณิชย์อื่นๆ จำหน่ายได้ 3,838 คัน ลดลง 5.3 % เดือนมกราคมถึงพฤศจิกายน จำหน่ายได้รวม 41,744 คัน เพิ่มขึ้น 10.0 % และเดือนพฤศจิกายนนี้มีการจดทะเบียนรถพิคอัพ 1 ตัน และรถเอสยูวี รวมทั้งสิ้น 41,581 คัน เพิ่มขึ้น 15.4 %
ABOUT THE AUTHOR
ข
ขุนสัญจร
นิตยสาร 417 ฉบับเดือน มีนาคม ปี 2566
คอลัมน์ Online : วิถีตลาดรถยนต์