ข่าวจากสหรัฐอเมริกา ระบุว่า Volkswagen ประเทศจีน ได้ปรับแผนเพิ่มความแข็งแกร่งในตลาดมากขึ้น โดยการพัฒนาแพลทฟอร์มที่มีราคาจับต้องได้ โดยใช้วัตถุดิบในประเทศเป็นส่วนใหญ่
Ralf Brandstaetter ประธานฝ่ายบริหารในจีน ได้แถลงในการเปิด “ศูนย์พัฒนา และจัดซื้อรถไฟฟ้าของ Volkswagen” (VCTC: Volkswagen Group China Technology Company) ที่เมืองเหอเฟย์ (Hefei) โดยใช้เงินลงทุนประมาณ 1.1 พันล้านเหรียญ (38.81 ล้านบาท) และทำให้เกิดการจ้างงานมากกว่า 2,000 ตำแหน่ง
Volkswagen จะพัฒนาแพลทฟอร์มระดับเริ่มต้นแบบใหม่เพื่อใช้ในประเทศจีน ด้วยชื่อ “A Main Platform” ที่มีราคาต้นทุนต่ำ โดยมีสัดส่วนการใช้วัตถุดิบในประเทศสูงกว่าแพลทฟอร์มพื้นฐานแบบ MEB ซึ่งปัจจุบันใช้เป็นพื้นฐานอยู่ในการผลิต Volkswagen ID.3, ID.4, ID.6 และ ID.7 ในประเทศจีน
แพลทฟอร์มใหม่จะใช้หลักการเดียวกับแพลทฟอร์ม MEB (Modular Electric Drive Toolkit) โดยคาดว่าจะพัฒนาเสร็จในปี 2569 ซึ่งการก่อตั้งศูนย์ VCTC จะช่วยให้กำหนดการผลิตรถรุ่นใหม่เร็วกว่าแผนเดิม
Ralf Brandstaetter วิเคราะห์ว่า ตลาดรถไฟฟ้าในประเทศจีนเป็นตลาดมีความอ่อนไหวต่อราคามาก จึงต้องปรับประสิทธิภาพการผลิตมากขึ้น เพื่อกลับมาเป็นอันดับหนึ่งของยอดขายรถในประเทศจีนอีกครั้ง (BYD คว้าตำแหน่งยอดขายอันดับหนึ่งในปลายปี 2565) เป็นเพราะ Volkswagen มียอดจำหน่ายรถเครื่องยนต์เบนซินน้อยลง ขณะที่ยอดจำหน่ายรถไฟฟ้าก็มีสัดส่วนน้อยมาก เมื่อเทียบกับยอดขายรถทั้งหมด นอกจากนั้นการเติบโตยอดขายรถไฟฟ้า Volkswagen ในประเทศจีนยังไม่เป็นไปตามแผนที่กำหนดไว้
Volkswagen ต้องยอมตัดราคาจำหน่ายของ ID.3 ในประเทศจีน จึงสามารถเพิ่มยอดขายช่วงไตรมาสที่สามขึ้นเป็น 10,000 คันต่อเดือน จากเดิมที่ขายได้เพียงเดือนละ 2,200 คัน
แพลทฟอร์มใหม่ของ Volkswagen ที่จะผลิตขึ้น เน้นไปที่กลุ่มเป้าหมายลูกค้ารถราคาระดับเริ่มต้น ด้วยราคาประมาณ 140,000 หยวน (6.9 แสนบาท) ซึ่งเป็นระดับราคาที่น่าสนใจสำหรับลูกค้ากลุ่มนี้
นอกจากนั้น Volkswagen ยังมีแผนการแนะนำรถรุ่นใหม่ที่ใช้พื้นฐานแพลทฟอร์มใหม่ถึง 4 รุ่น โดยความร่วมมือกับ SAIC และ FAW ซึ่งในปัจจุบันได้ใช้แพลทฟอร์ม MEB เป็นพื้นฐานของรถแต่ละค่ายอยู่แล้ว
ช่วงต้นปี 2569 Volkswagen จะเพิ่มการผลิตรถไฟฟ้าอีก 2 รุ่น โดยการร่วมกับ XPeng ในการพัฒนา ซึ่งจะทำให้ Volkswagen มีรถจำหน่ายทั้งหมด 6 รุ่น และ มีแผนผลิตรถไฟฟ้าทั้งหมด 10 รุ่น สำหรับจำหน่ายทั่วโลก ซึ่งอาจจะเร็วกว่าแผนเดิมที่เคยกำหนดไว้ที่ปี 2569