Aston Martin Valiant

ข่าวจากสหรัฐอเมริกา ระบุว่า Aston Martin ได้แถลงข่าวจะมีรถถนนรุ่นพิเศษที่พร้อมแข่งทุกรายการ ด้วยชื่อ Valiant ซึ่งมีพื้นฐานจาก Valour Coupe ที่งดงามหมดจด แล้วปรับปรุงด้านอากาศพลศาสตร์จนดุดันเกินเบอร์ ใต้ฝากระโปรงยังคงเครื่องยนต์ วี 12 สูบ ทวินเทอร์โบ ที่ปรับแต่งจนมีพละกำลัง 540.4 กิโลวัตต์/735 แรงม้า ถ่ายทอดกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ 

Aston Martin Valiant คือ Valour ที่โหด และดิบ ระดับเดียวกับ Porsche 911 GT3 RS ที่มีสมรรถนะเหนือความสะดวกสบาย และผู้ที่สร้างสรรค์แนวคิดของรถคันนี้ คือ Fernando Alonso นักแข่งสูตร 1 ของทีม Aston Martin โดยจะได้รับค่าตอบแทนเป็น Aston Martin Valiant หนึ่งคัน

Aston Martin Valiant โหดเกินพิกัดจากการปรับปรุงด้านอากาศพลศาสตร์รอบตัว ด้านหน้าที่มีสพลิทเตอร์ขนาดใหญ่ ปีกดักลมด้านหลัง และดิฟฟิวเซอร์ใต้กันชน เพิ่มความไหลลื่นของกระแสลม โดยการปรับเปลี่ยนรูปทรงชิ้นส่วนบอดีรอบคันจากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์, ล้อแมกนีเซียมขนาด 21 นิ้ว ถูกครอบด้วยแผ่นแอโรดิสค์ เพื่อการลื่นไหลของกระแสลมรอบตัวรถ โดยได้รับแนวคิดจาก Aston‘s RHAM/1 ตัวแข่งรายการเลอมองค์ในยุค 1970 ใช้จานเบรคคาร์บอน-เซรามิคขนาด 16.1 นิ้วที่ล้อหน้า และขนาด 14.1 นิ้วที่ล้อหลัง

ภายใต้รูปทรงที่เปลี่ยนไปของ Valiant มีการปรับเปลี่ยนหลายรายการ ตั้งแต่ซับเฟรมขึ้นรูปจากเครื่องพิมพ์สามมิติ, ท่อทนแรงบิดวัสดุไททาเนียม, แบทเตอรีลิเธียม-ไอออนน้ำหนักเบา, ทั้งหมดนี้สามารถลดน้ำหนักได้ถึง 51 ปอนด์ (ประมาณ 23 กก.) ระบบรองรับเดิมของ Valour ถูกถอดออก และแทนที่ด้วยชุดรองรับ Multimatic Adaptive Spool Valve (ASV) ระบบรองรับที่สามารถปรับทำงานชอคอับได้ภายใน 6 มิลลิวินาที ระบบเดียวกันกับ Ford Mustang GTD, Ferrari Purosangue และรถแข่ง Indy ยุคปัจจุบัน 

ภายใต้ฝากระโปรงของ Valiant คือ เครื่องยนต์ วี 12 สูบ ทวินเทอร์โบ ที่ปรับแต่งได้กำลังสุทธิเป็น 540.4 กิโลวัตต์/735 แรงม้า แต่แรงบิดสูงสุดเท่าเดิมที่ 752.5 นิวทันเมตร/76.7 กก.ม. โดยห้องเกียร์ติดตั้งด้านหลังชุดเพลาหลังเพื่อการกระจายน้ำหนัก ภายในเป็นชุดเฟืองขับของ Valour เป็นระบบลิมิเทดสลิพแบบกลไก

ห้องโดยสารของ Valiant ติดตั้งอุปกรณ์พร้อมแข่ง ตั้งแต่โรลเคจแบบครี่งชุด, ชุดบัคเกตซีทของ Recaro, เข็มขัดนิรภัย 4 จุด, อุปกรณ์ภายในตกแต่งด้วยวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ และอัลคันทารา, คันเกียร์แบบเปิดโชว์ระบบการทำงาน ที่ผ่านการปรับปรุงการทำงาน และหัวเกียร์พิเศษสำหรับ Valiant โดยเฉพาะ

Aston Martin Valiant ถูกผลิตขึ้นเพียง 38 คัน และถูกจองหมดแล้ว ราคาเฉลี่ยประมาณ 2 ล้านปอนด์อังกฤษ (ประมาณ 93.31 ล้านบาท) ขึ้นอยู่กับการเลือกออพชันของแต่ละคัน เจ้าของรถจะได้รับตั้งแต่ไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ และผู้ที่ได้รับรถเป็นอันดับแรก คือ Fernando Alonso